"อภิสิทธิ์" เปิดใจหลังคัมแบ็กนั่งหน.ปชป. ขอบคุณ "สมาชิกพรรค-เฉลิมชัย" ยันไม่เคยตั้งคำถามเรื่องความทุ่มเท ย้ำคำภาษิต "สัจ จัง เว อม ตา วาจา" สัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย บอกตั้งแต่เข้าการเมือง ไม่เคยมีพรรคอื่น กรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้าจนตาย ซัดบางพรรคการเมืองโหนสถาบัน-กองทัพ ลั่นจะผลักดันเรื่องซื่อสัตย์สุจริตกลับมาให้ได้
18 ตุลาคม 2568 - เมื่อเวลา 16.40 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคปชป.ชุดใหม่ ว่า ก่อนอื่นตนขอขอบพระคุณทุกคนอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจให้ตนมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีกระบวนการการเลือกตั้งแบบนี้ และทำให้คนที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคสำนึกเสมอว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นเป็นได้เพราะความยินยอมพร้อมใจของสมาชิกทั่วประเทศที่เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง
จนถึงวันนี้ตนยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองอื่นที่มีกระบวนการเช่นนี้ ฉะนั้น ตนขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่เป็นส่วนสำคัญในการตอกย้ำว่าในประเทศไทยยังมีความเป็นประชาธิปไตยในพรรค ขอบคุณรักษาการหัวหน้าพรรค รักษาการเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคที่พยายามทำทุกวิถีทางให้การเลือกตั้งในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและกระชับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้กฎระเบียบของข้อบังคับพรรคที่มีอยู่ รวมถึงขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกคนที่ทำให้วันนี้เกิดขึ้นได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนขอใช้เวลานี้ขอบคุณนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่ตนอยากบอกว่าไม่ว่าตนและนายเฉลิมชัยเราจะมองหรือคิดต่างกันในบางเรื่อง ในบางครั้งบางคราว แต่ตนไม่เคยตั้งคำถามเรื่องความทุ่มเทของท่านที่มีให้บรรดาสมาชิกพรรค และเชื่อว่าสส. อดีตผู้สมัคร บรรดาสาขาทั้งหลายเป็นพยานที่ดีที่สุดในเรื่องของความทุ่มเทของนายเฉลิมชัย ขอให้ทุกคนช่วยกันปรบมือให้นายเฉลิมชัยด้วย สัจฺจํ เว อมตา วาจา คือข้อความที่ปรากฎอยู่บนสัญลักษณ์พรรคปชป. ความดีเป็นสิ่งไม่ตายและกาลเวลาพิสูจน์ความจริงเสมอ เมื่อ 10 ปีที่แล้วตนจำได้ตนใส่เสื้อเชิ้ตตัวนี้และทำในสิ่งที่ในชีวิตนี้ ตนไม่เคยคิดที่จะทำคือ การลาออกจากพรรคปชป. แต่ก่อนที่ตนจะลาออก ตนบอกว่าตนไม่มีพรรคอื่น ตนไม่ไปพรรคอื่น กรีดเลือดตนออกมาก็เป็นสีฟ้า ตนจะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้พี่น้องและประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ท่านอาจเห็นภาพที่ตนไปออกรายการทีวีเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนตนเข้ามาเป็น สส.สมัยแรก เขาถามตนว่าตนจะมีโอกาสย้ายพรรคหรือไม่ ซึ่งตนพูดตั้งแต่อายุ 27 ว่าตนยึดถือการเมืองในระบบพรรคการเมือง ในชีวิตนี้ตนจะมีพรรคการเมืองเดียว 30 ปีกว่าจะเป็นอย่างไรตนก็อยู่แบบนั้น ฉะนั้น ขอให้ท่านมั่นใจในยุคนี้ที่นักการเมือง อย่าว่า 30 ปีเลย แต่ 3 ชั่วโมงก็เปลี่ยนแล้ว ตนเป็นลูกพระแม่ธรณี ตนจะยึดถือสัจจะและความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งตลอดไป นอกจากนี้ วันนั้นตนเคยพูดด้วยว่า ตนพร้อมจะกลับมาเสมอหากสมาชิกเห็นว่าตนสามารถทำประโยชน์ได้ ตนทราบดีถึงสถานการณ์ในวันนี้ว่าทุกคนหวั่นไหวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความเสียเปรียบหลายประการของพรรคประชาธิปัตย์
“ผมอยากบอกว่าผมกลับมาเที่ยวนี้ ส่วนตัวไม่มีทางได้กำไร อย่างมากสุดก็เสมอตัว ขาดทุนไม่มากก็น้อย น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่ผมระลึกอยู่เสมอว่าชีวิตผมมาถึงตรงนี้ได้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ จะลำบากอย่างไร จะขาดทุนเท่าไหร่ ผมก็ต้องกลับมา เพื่อทำให้พรรคการเมืองนี้อยู่คู่กับประเทศไทยต่อไปให้ได้
ผมไม่ได้คิดเฉพาะเรื่องพรรค แต่ผมเป็นหนี้ประเทศนี้ แผ่นดินนี้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเติบโตมาแล้วเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศจนรู้ว่าประเทศนี้มีอะไรดีๆ มากมาย ผมไม่เคยคิดถึงที่อื่น บางคนแซวผมด้วยซ้ำว่าหากผมไปเล่นการเมืองที่อื่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว น่าจะรุ่งกว่าในประเทศนี้ แต่ไม่ ที่นี่คือที่ๆ ผมรักและเชื่อว่า พวกเรารักที่สุด หลายครั้งเราบ่นอะไรเกี่ยวกับประเทศ คนทั่วโลกยังเห็นคุณค่าของประเทศไทย และน้ำใจของคนไทย ที่ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอด ผมจึงต้องชดใช้หนี้แผ่นดินนี้ เหมือนที่ผมต้องชดใช้หนี้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เศรษฐกิจติดหล่ม สังคมเหลื่อมล้ำ ความยุติธรรมหดหาย หลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนภายนอกมองประเทศไทย หรือจะเป็นการที่พวกเราสัมผัสอยู่กับความเป็นจริงของชีวิตพี่น้องประชาชน ทุกคนห่วงใยว่าประเทศเราจะเดินต่อแบบนี้ได้หรือ
ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปีสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล 2554 เป็นปีแรกที่ประเทศไทยมีรายได้ปานกลางขั้นสูง แต่เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ 14 ปี วันนี้แม้กระทั่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่มีใครมั่นใจเลยว่าเราจะขยับขึ้นไปอีกขั้นได้เมื่อไหร่ เป็นไปได้อย่างไรที่วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจหากขยับได้ 2% ก็ดีใจและโล่งใจแล้ว มันไม่พอ ในการที่จะยกระดับความเป็นอยู่ชีวิตของพี่น้องประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เป็นไปได้อย่างไรที่เศรษฐกิจติดหล่มมาเกือบ 10 ปีแล้ว เราลุ้นกันได้คนละครึ่งพลัส ซึ่งอาจจะช่วยพี่น้องได้ในยามยากลำบาก แต่หลังจาก 3-4 เดือนที่โครงการจบสิ่งที่ทิ้งไว้คือหนี้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น เป็นไปได้อย่างไรในวันนี้สังคมไทยผู้สูงอายุจำนวนมาก ทำให้สังคมเราเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่โลกเปลี่ยนชีวิตของคนหนุ่มสาวขาดความมั่นคงและความแน่นอน ทุกคนเพราะประสงค์จะมีสวัสดิการที่ดีเกือบทั้งสิ้น
แต่การเมืองเราหลอกตัวเอง หลอกประชาชนหรือไม่ว่ากำลังจะยื่นสวัสดิการให้ประชาชนได้ แต่กลับเก็บภาษีได้ไม่ถึง 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศทุกวันนี้แม้เศรษฐกิจโต แต่โตแล้วไปอยู่ที่ไหน นับวันการผูกขาดไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจหรือทางการเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างการผูกขาดทางเศรษฐกิจกับการผูกขาดอำนาจทางการเมืองมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ เรานิ่งดูดายปล่อยให้ประเทศเดินไปแบบนี้ไม่ได้ และอย่างที่ตนบอกขณะที่ทุกคนเชื่อมั่นในกลไกประเทศ การเมืองเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ตนนำคนรุ่นใหม่เข้ามา ต้องขอบคุณทุกคนที่ยกเว้นคุณสมบัติและข้อบังคับพรรค เพื่อให้โอกาสเข้ามาทำงาน เพราะวันนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการที่สุด คือเครื่องจักรที่ทำให้ประเทศไทยโตได้ เราพึ่งพาสิ่งที่เคยมีบุญจากอดีตต่อไปไม่ได้ ภาคเกษตรเราเคยภูมิใจว่าเราอุดมสมบูรณ์ วันนี้ประสิทธิภาพการผลิตเราตามหลังเพื่อนบ้าน ภาคอุตสาหกรรมและไม่สามารถแข่งขันจากค่าแรงที่ไม่ถูกเหมือนเดิมได้ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวจีนหายไปครึ่งหนึ่ง ก็เดือดร้อนกันไปทั่วในหลายสาขาธุรกิจเครื่องจักรใหม่บางครั้งก็เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโลก ตนนำคนอย่างนางการดี เลี่ยวไพโรจน์ เพราะเทคโนโลยีจะชี้นำการเปลี่ยนแปลงของโลกและเศรษฐกิจ คนไทยใช้เทคโนโลยีเก่งมาก เรามีซิมโทรศัพท์มือถือกว่าเท่าตัวของประชากร เราเป็นประเทศที่ใช้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ขอให้ไปดูสิ่งที่เรียกว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมูลค่าเพิ่ม ตกอยู่กับมือคนไทยเพียงน้อยนิด ตนไม่อยากให้พรรคการเมืองคิดได้แค่ว่านโยบายอะไรที่ฟังดูแล้วถูกใจ มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นแค่ชั่วครู่ชั่วยาม เราต้องนำตรงนี้มาเป็นตัว เทคโนโลยีมีศักยภาพมหาศาล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้รำลึกภาพว่าภาคเกษตรกรของเราโดยเฉพาะเกษตรกรที่ยากจน สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นการใช้โดรน ใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือระบบอัจฉริยะทั้งหลาย ผลผลิตรายได้ภาคการเกษตรของเราจะเพิ่มขึ้นได้อย่างมหาศาล และจะต้องเป็นสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกกีดกันจากประเทศที่พัฒนาแล้ว ตนจึงนำคนอย่างนายวีระพงษ์ ประภา เข้ามาเพราะรู้ว่าประเด็นที่โลกต้องการและกดดันประเทศไทยคืออะไร หนุ่มสาวที่เติบโตมาไม่ได้มองหาโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นคนรุ่นตน วิถีของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไป เพราะต้องการสร้างโอกาสของตัวเองให้มีอิสระ จึงได้นำคนอย่างนายจูรี นุ่มแก้ว ซึ่งเป็นคนมีชื่อเสียงในติ๊กต็อกเข้ามาช่วยงาน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ต้องเปิดประตูทางการเมืองที่ต้องแข่งขันด้วยการนำเสนอความคิดและวิสัยทัศน์ ที่ไม่ใช่นโยบาย ปราศจากเป็นระบบการคิดอย่างเป็นระบบหรือมีกรอบอุดมการณ์รองรับ พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ตนจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ตกอยู่ในวังวน ไม่ต้องมาถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมหรือ พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า เพราะเราประกาศอุดมการตั้งแต่ปี 2489 ว่าเราคือต้นตำรับของพรรคเสรีประชาธิปไตยในไทย
“วันนี้ตนไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่นำเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ เข้ามาอยู่ในวังวนของความขัดแย้งทางการเมือง กล่าวหาว่าฝ่ายหนึ่งล้ม กล่าวหาว่าฝ่ายหนึ่งโหน ไม่ใช่เรื่องของการเมืองเลย เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ คือศูนย์รวมจิตใจของคนไทยที่ต้องอยู่เหนือการเมือง ไม่ว่าเราจะมีแนวคิดทางการเมืองต่างกันอย่างไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ต้องไม่เอาองค์กรอย่างกองทัพเข้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพจะทำหน้าที่ได้อย่างไร หากพรรคการเมืองมีอคติต่อกองทัพ และกองทัพเวลาที่ปกป้องแผ่นดินอย่างเข้มแข็ง การเมืองจะไปโหนไม่ได้ การเมืองต้องช่วยสนับสนุนนโยบายอย่างทางการพูดแบบเชิงรุกเพื่อให้กองทัพทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสบายใจเพิ่มขึ้น ไม่ควรนำเรื่องความมั่นคงของประเทศ หรือนโยบายการต่างประเทศมาเสี่ยง ผลักภาระให้ประชาชนลงประชามติ ก่อนตั้งคำถามว่า จะบอกว่าประชาชนเข้าใจหรือไม่ตนก็ไม่แน่ใจ เราจะปล่อยให้การเมืองฉุดล้างทุกสิ่งทุกอย่างจากการทุจริตคอรัปชั่น เดินต่อไปไม่ได้ หากประชาธิปไตยไม่ได้เริ่มต้นจากการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม แต่เป็นการประมูลซื้อเสียง ซื้อสส. และคอรัปชั่นกัดเซาะทุกองค์กร เป็นต้นทุนมหาศาล ไม่เพียงแต่แง่ตัวเงิน แต่ความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในสังคม จะถูกทำลายและนำมาสู่กฎกติกาที่ซับซ้อนยุ่งยาก เพื่อพยายามแก้ไข แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นการเปิดช่องให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นยังไม่จบไม่สิ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดความสุจริต ซื่อสัตย์ ในการบริหารบ้านเมือง ตนพูดเสมอว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ความรับผิดชอบทางการเมือง สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย จริยธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ควรนำมาเป็นอาวุธทางการเมืองมาทำลายฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์ที่ใหญ่กว่าการคิดว่าพรรคจะมีสส.กี่คน เพราะเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่หากเราแก้ไขได้ ก็จะอยู่คู่กับประเทศไทย เราจะไม่หายไปไหน และเป็นความหวังหลักของประชาชน พร้อมยอมรับว่าเป็นเส้นทางที่เหนื่อยเหมือนวันนี้หากเป็นพรรคการเมืองอื่น ประชุมเช่นนี้ 2 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่เรามีหลักการระบบตัวแทนที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของพรรคได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ประชาชนโหยหาทางเลือก เขาเบื่อหน่ายกับพรรคการเมืองที่บอกว่า มีไว้เพียงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ดีลลับสับปรับ วันเว้นวัน เขาต้องการการเมืองที่อาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาให้พวกเขาอย่างแท้จริง สถานการณ์วันนี้ หากตามกำหนดการที่วางไว้ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการเลือกตั้ง หลายคนเครียดและมากระซิบตนว่ากำลังกังวลเรื่องที่ สส.จะย้ายพรรค ซึ่งตนก็เข้าใจเหตุผลของแต่ละคน อย่าไปเครียด เพราะประชาธิปัตย์หากอยากจะอยู่คู่กับประเทศไทย ก็ต้องสร้างคนอย่างต่อเนื่อง และหาคนที่เข้ามาพร้อมจะสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยไปกลับอุดมการณ์พรรค เขาคือกำลังหลักที่จะทำให้พรรคอยู่ต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนมีมาอดิเรกอยู่ 2-3 อย่าง แต่ตนก็แปลกใจว่างานอดิเรก วกกลับมาเรื่องการเมืองได้ ตนพูดถึงพรรคการเมืองที่พยายามดูดสส. ด้วยอำนาจเงิน อำนาจรัฐหรืออะไรก็แล้วแต่ ตนดูบอลอังกฤษ ระวังนะ ศูนย์หน้าฟอร์มดีๆ ค่าตัวแพงที่สุด ย้ายสโมสรไปแล้วมันยิงไม่ได้ซักประตู ตนฟังเพลงตอนเด็กๆ อยู่ต่างประเทศ ฟังเพลงสากล ทุกวันนี้ตนกลับมาสะสมแผ่นเสียง ล่าสุดเพิ่งซื้อแผ่นเสียงเทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งเทย์เลอร์ มีคำคมเสมอ เทย์เลอร์ สวิฟต์ บอกว่า แก้วที่แตกจะมีความคมมากขึ้น ฉะนั้น ใครที่กำลังจะมาทุบประชาธิปัตย์ เหมือนกำลังทุบแก้วที่แตก ตนจะบอกว่าทุบเสร็จ ตนจะเอาความคมของแก้วที่แตกไปตัดวงจรอุบาทว์ การซื้อเสียงและการคอรัปชั่น สิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องสู้ด้วยหัวใจ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า งานอดิเรกงานที่ 3 ที่ตนทำเป็นประจำ คือตนชอบแหย่ทะเลาะกับเอไอ เมื่อคืนจึงแกล้งพิมพ์ให้เอไอ ช่วยออกแบบสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ ความสำคัญของสัจจะ การปราบอธรรมปราบมาร และความอุดมสมบูรณ์ ช่วยออกแบบมาให้หน่อย เอไอจึงทำให้ 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็ยังไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ตนจึงถามคำถามที่สองว่าเคยคิดถึงพระแม่ธรณีหรือไม่ เพราะพระแม่ธรณีคือพยานของความซื่อสัตย์และสัจจะในวันที่มารผจญพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้ และน้ำที่บีบออกจากมวยผม ชำระล้างจนพญามารหนี และทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เอไอบอกยอมตน 4 อันที่ทำมาไม่สมบูรณ์เท่าพระแม่ธรณี แต่เอไอก็ไม่ยอมแพ้ตนง่ายๆ บอกว่าต้องไปออกแบบสัญลักษณ์ให้ดูทันสมัยหน่อย ตนจึงอยากบอกกับทุกคนว่าอย่าหวั่นไหว กลับมาวันนี้ก็มีคนปรามาสว่าเหล้าเก่าขวดเก่า ไม่หรอก สัญลักษณ์พระแม่ธรณี ข้อความที่ระบุบนสัญลักษณ์ก็ดี คือคำตอบสำหรับยุคสมัยนี้อย่างแท้จริง แต่คนที่จะมาทำให้เกิดขึ้นได้ ให้ทันสมัยจริงคือพวกเรา ที่นั่งอยู่ตรงนี้และวันนี้ตนขอเชิญชวนคนทั้งประเทศที่เบื่อกับการเมืองที่ท่านเห็นมา มาร่วมกัน
“ผมยอมรับว่าไม่ง่าย แต่มาร่วมกับเราเถอะ เพราะวันที่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้แทบไม่เหลืออยู่แล้ว แต่ทำไมยังมีประชาธิปัตย์อยู่ถึงทุกวันนี้ ก็ถ่ายทอดมาถึงรุ่นสู่รุ่น ผมก็เช่นกันวันนี้ผมขาวแล้วก็เตรียมส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป มาช่วยกันเถอะ เราไม่ได้มีเป้าหมายเฉพาะหน้า เป้าหมายสุดท้ายของเราไม่เพียงแต่อยู่คู่ประเทศไทย แต่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า เพื่อคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.สุวิทย์ ชี้ไทยกำลังติดเชื้อ 'ไวรัสโกงกินทั้งระบบ' ถ้าไม่รักษาอาจไม่มีรัฐของ ปชช.เหลือต่อไป
อดีตรมว.อว. บอกประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะเลือก รัฐที่เป็นของประชาชน หรือ รัฐที่ถูกยึดโดยผลประโยชน์สีเทา
🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568
การเรียนประวัติศาสตร์ สำคัญต่อเรื่องการเมือง-นโยบายหรือไม่ 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไม่มีชาติใดกำหนดอนาคตได้ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาจากไหน ประเทศที่มองอดีตไม่ออก จะถูกครอบงำโดยผู้นำที่อ้างประวัติศาสตร์ผิดๆ
‘ลุงป้อม’ ส่งขุนศึกเหนือ ‘สุรเดช’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่
'ลุงป้อม'ลั่นกลองรบ ส่งขุนศึกทัพเหนือ 'สุรเดช ยะสวัสดิ์' เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่ เผยเป็นอดีตสส. 9 สมัย-อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ประสบการณ์เพียบ ทำคุณประโยชน์ให้ชาวเชียงใหม่มากมาย
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568


