‘หมอธีระ’ ชี้ภายใน 6-8 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์จากนโยบายเปิดประเทศ

รศ.นพ.ธีระ ระบุนับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปภายใน 6-8 สัปดาห์ จะได้เห็นผลลัพธ์จากนโยบายเปิดประเทศ ให้ขายและดื่มแอลกอฮอล์ ห่วงกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ฉีดวัคซีน 3-6 เดือนเสียงติดโควิดสูง ขอช่วยกันรณรงค์ให้ป้องกัน ระวังตัวให้มาก เพื่อลดความเสี่ยง

31 ต.ค.2564- รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ตามธรรมชาติที่สังเกตเห็นจากประเทศอื่นๆ ภายใน 6-8 สัปดาห์ เราคงมีโอกาสเห็นผลลัพธ์จากนโยบายเปิดให้ขายและดื่มแอลกอฮอล์ บันเทิง ท่องเที่ยว เปิดประเทศ ผนวกกับการเปิดสถานศึกษาระดับต่างๆ  กลุ่มเสี่ยงที่จะเห็นมากในต่างประเทศ มีทั้งเด็กและเยาวชน วัยรุ่นนิสิตนักศึกษา คนวัยทำงานตอนต้น ส่วนของไทยนั้น นอกจากกลุ่มดังกล่าวแล้ว กลุ่มสูงอายุ กลุ่มมีโรคประจำตัว ที่เคยได้รับวัคซีนไปก่อนนานกว่า 3-6 เดือนแล้วก็จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน

แม้ประเทศที่พร้อมกว่าเรา ในแง่ความครอบคลุมของวัคซีน รวมถึงการกดการระบาดให้น้อยกว่าเรา เหลือแค่หลักร้อย หลังการเปิดกิจการกิจกรรมและเปิดเดินทางระหว่างประเทศแล้ว ก็พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งยุโรปคงจะเป็นการดีที่สุด หากเราทุกคนตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตนเองและครอบครัวมีสุขภาพที่ดีท่ามกลางการระบาดรอบตัวที่รุนแรงและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลาถัดจากนี้ไป หากจะตั้งชื่อคงตั้งชื่อว่าเป็น ช่วง”ธรรมชาติ”ธรรมชาติของโรค…กล่าวคือ ระดับมหภาค การระบาดจะเป็นไปตามธรรมชาติของโรค หากคนในที่ใดไม่ป้องกันอย่างดีพอ วัคซีนครอบคลุมน้อย รวมถึงนโยบายและมาตรการอ่อนแอไม่ทันกาล หรือไร้ประสิทธิภาพ ก็ย่อมหนีไม่พ้นสัจธรรมของการติดเยอะ ป่วยมาก ตายไปเรื่อยๆ  ธรรมชาติคัดสรร…กล่าวคือ ระดับบุคคล ใครละเลย พลั้งเผลอ ไม่ใส่ใจในการป้องกันตัว ใจกล้าห้าวหาญที่จะเสี่ยงทุกรูปแบบ ก็ย่อมมีผลลัพธ์ที่มีโอกาสแตกต่างจากคนที่รอบคอบ เคร่งครัด ใส่ใจในการป้องกันตัว กระบวนการคัดสรรตามธรรมชาตินั้นเป็นสัจธรรม คือตามลักษณะของบุคคล เปรียบดั่งหมวกคัดสรรเข้าแต่ละบ้านในฮอกวอร์ตนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม สังคมใดๆ ล้วนไม่สามารถแยกกันอยู่อย่างเด็ดขาดได้ ตราบใดที่กลุ่มหนึ่งในสังคมสร้างความเสี่ยง กล้าเสี่ยง และทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคระบาด อีกกลุ่มที่อยู่ในสังคมย่อมยากที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการระบาด อันจะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมอย่างถ้วนทั่ว ดังนั้นจึงไม่มีทางอื่นใด นอกจากที่ต้องช่วยกันรณรงค์ให้ป้องกัน ระวังตัวให้มาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของตนเองและครอบครัว ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมนั้น สิ่งที่จะทำได้คือ เตือนให้เตรียมแผนการใช้ชีวิตยามเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้น กันทรัพยากรไว้บ้าง ระวังเรื่องการลงทุนด้วย ด้วยรักและห่วงใย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

น่าห่วง! โควิด-19 พุ่ง ยอดผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิต ทำลายสถิติรายสัปดาห์ของปีนี้อีกครั้ง

ตัวเลขโควิด-19 สัปดาห์ที่ 22 (25-31 พ.ค. 2568) อัปเดต 05.20 น.จาก delayed report ตอนนี้เพิ่มจาก 65,846 ราย ตาย 3 ราย ไปเป็น 73,065 ราย ตาย 6 ราย

"วราวุธ" ห่วงใย พี่น้องกลุ่มเปราะบาง กำชับ พม.ทุกจังหวัด เข้ม มาตรการป้องกัน โควิด-19

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝน มีแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่

น่าห่วง! อาจารย์หมอจุฬาฯ ระบุโควิด-19 สัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าไข้หวัดใหญ่ 10 เท่า

แม้ตัวเลขขณะนี้ เคสสัปดาห์ที่ 21 (18-24 พ.ค.) จะอยู่ที่ 53,597 ราย ตาย 5 ราย แต่ติดตามต่อไป delayed report อาจทำให้สูงขึ้นกว่านี้ได้อีกมาก