
“ดาลัต” เป็นเมืองในจังหวัดเลิมด่ง อยู่ทางภาคใต้ของประเทศเวียดนาม นับเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนาม เพราะมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18-25 องศาเซลเซียส เท่านี้น ร้อนสุดแค่ประมาณ 27 องศาเซลเซียส ใครที่ชอบสัมผัสอากาศเย็นๆ ชอบการแต่งตัวสไตล์วินเทอร์ต้องปักหมุดไปดาลัดให้ได้
การเดินทางก็ง่ายมากๆ เพราะบินตรงจากไทยไปถึงเมืองดาลัดได้เลย โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท ที่เปิดให้บริการแล้วในช่วงเดือนมีนาคม 2565 หลังจากหยุดไปนาน ในช่วงการระบาดของโควิด 19 โดยบินเส้นทางระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ – ดาลัด (เวียดนาม) การกลับมาบินใหม่ ได้มีการจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์เที่ยวบินที่ VZ940 ที่บินตรงมาดาลัด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเลียนเคือง โดยมีการแสดงบนเครื่องบินบลูมมิ่งอินเดอะสกาย (Blooming in the Sky) และการแสดงเชิดสิงโตของเวียดนาม พร้อมกับมอบพวงมาลัยแก่ผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้ ซึ่งทางคณะสื่อก็ได้มีโอกาสไปร่วมทริป 3 วัน 2 คืน

พวกเราเช็คอินสำหรับผู้โดยสาร SkyBOSS ที่นั่งสำหรับบริการพิเศษ สามารถเข้าใช้บริการเลานจ์ที่ทางสายการบินที่จัดไว้ให้ โดยเราเลือกใช้บริการเลานจ์ของการบินไทย เมื่อขึ้นเครื่องก็จะมีบริการอาหารบนเครื่อง ทั้งเมนูคาว หวาน และเครื่องดื่ม ได้อย่างละ 1 เมนู อิ่มหนำกันแล้ว เคลิ้มหลับไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเครื่องบินได้ลงจอดยังท่าอากาศยานนานาชาติเลียนเคือง แอบตกใจนิดๆ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็ถึงเวียดนามแล้ว
ถึงจะเป็นทริปสั้น แต่เราก็ไม่รีรอเราเริ่มไปสำรวจเมืองดาลัดกันเลย รถมินิบัสทัวร์ของแล่นไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังเมืองดาลัดที่ห่างจากสนามบินประมาณ 20 กิโลเมตร สองข้างทางเมืองดาลัด มีตึก อาคาร บ้านเรือนรูปทรงสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งเมืองดาลัดก็ถูกสร้างขึ้นปี พ.ศ.2453 โดยอาแล็กซ็องดร์ แยร์แซ็ง นักวิทยาแบคทีเรียชาวฝรั่งเศส ได้เป็นผู้คนพบเมืองแห่งนี้ และจากนั้นก็เริ่มมีการก่อสร้างโรงแรม อาคารสำนักงานต่างๆ ทำให้ในปัจจุบันความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสถูกส่งต่อมายังชาวเวียดนาม ตกทอดมาถึงปัจจุลัน กลายเป็นเสน่ห์ชวนหลงใหล


ช่วงเย็นเราแวะมาที่โบสถ์ Domain De Marie Convent ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาของเมือง โบสถ์การออกแบบสไตล์ยุโรป โดดเด่นด้วยโทนสีขมพูพาสเทล ตัดกับสีแดงเข้ม สีน้ำน้ำตาล มีสวนดอกไม้กำแพงต้นไม้ให้ความเขียวชะอุ่ม ที่นี่จึงเป็นจุดยอดฮิตของผู้เยือนที่ต้องมาเช็คอิน

เช้าวันที่สองแบบจัดเต็มเตามโปรแกรม คือ การพาเช็คอินสถานที่เที่ยวสวยๆ ที่หลายคนต้องอยากตามรอยมาแน่นอน จุดหมายแรกของวันมุ่งตรงไปที่ร้านขนมปังกำแพงเหลืองยอดฮิต ที่มีชื่อว่า Tiem Banh Cối Xay Gió ร้านขายขนมปังและบั้นหมี่ นอกจากกำแพงสีเหลืองตัดกับสีร้านสีแดง จะทำให้อดใจไม่ไหวต้องถ่ายรูปกับป้ายร้านแล้ว ด้านในก็จะขายขนมปัง แซนด์วิชเวียดนาม และขนมอื่นๆ มีมุมให้นั่งทานหน้าร้านรับอากาศเย็นๆยามเช้า

ไปต่อที่สตรีทอาร์ต จากร้านขนมปังลัดเลาะมาตามตรอกทะลุออกมาตรงถนน đường tăng bạt hổ ก็จะสังเกตเห็นภาพวาดที่ศิลปินได้มาบรรเลงฝีแปรงไว้บนกำแพง อย่างภาพแรกที่เราเห็นก็จะเป็นภูมิทัศน์ของดาลัดที่มีภูเขาสลับซ้อนกัน เดินต่อไปอีกก็เริ่มมีสีสันของดอกไม้เมืองหนาว สีชมพูแจ่มๆ สีเหลืองอร่าม หรือจะโทนคัลเลอร์ฟูลที่ถูกวาดอยู่ตามกำแพงบ้าน ซึ่งทำให้ตรอกนี้ดูมีชีวิตชีวาทันที จะบอกว่าสตรีทอาร์ตซุกซ่อนอยู่ตามตรอกทอดยาวไปตลอดเส้นทางเลย เดินเพลิน แต่ต้องระวังรถมอเตอร์ไซค์ดีๆนะ เพราะแม้จะเป็นเส้นทางเล็กๆชาวเมืองก็ใช้ทั้งสัญจรด้วยเท้าและรถเครื่อง

มุ่งหน้าสู่ Dalat Railway Station สถานีรถไฟนำเที่ยวสุดคลาสสิค ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สไตล์อาร์ตเดคโค คือการออกแบบที่เน้นเส้นตรงและโค้ง ให้มีความแข็งแรงเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน รถไฟสายนี้เริ่มต้นที่ดาลัดไปยังหมู่บ้าน Trai Mat (Trại Mát) เมื่อรถไฟแล่นออกไปเราจะได้เห็นทิวทัศน์ของชาวบ้านในมุมสูง พื้นที่ส่วนใหญ่จะสังเกตว่ามีโรงเรือนดอกไม้เมืองหนาวที่เพาะปลูกกันจำนวนมาก


จากสถานีรถไฟที่หมู่บ้าน Trai Mat เรานั่งรถมินิบัสเลาะไปตามเขาเพื่อยังคาเฟ่ Làng Vũ Thị ด้วยโลเคชั่นบนยอดเขาทำให้เหมาะอย่างมากกับการสั่งเครื่องดื่มมานั่งชมวิวเมืองดาลัดแบบพาโนรามา ร้านตกแต่งง่ายๆด้วยรถกะบะคลาสสิคคันเก่ามาตกแต่งจัดส่วนท้ายให้เป็นมุมสำหรับบาริสต้า บริเวณโดยรอบก็จัดวางพร็อพให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป เราใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักเลยแหละเพื่อจะได้เสพบรรยากาศดีๆแบบนี่เอาไว้

ไม่พลาดไปชมสวนไฮเดรนเยีย สวนดอกไม้ที่คนไทยคุ้นตาเป็นอย่างดี วันที่ไปมีฝนปรอยๆลงมา แต่เราก็ไม่หวั่นก็ถ่ายรูปกลางสายฝนไปเลย ดอกไฮเดรนเยียบานเต็มสวนขนาดใหญ่ มีจุดถ่ายรูปเยอะมาก และที่นี่ได้จำลองสะพานบนมือยักษ์เหมือนบานาฮิลล์มาไว้ด้วย สนุกสนานกันจนพอใจ ก็ต่อที่ Puppy Farm Dalat ฟาร์มน้องหมาแสนน่ารักให้เราได้ไปคลุกคลีใกล้ชิดกับน้องหมานานาพันธุ์ แถมยังมีสวนดอกไม้ ฝูงอัลปาก้าให้ดูด้วย

กลับเข้าสู่ใจกลางเมืองในช่วงเย็นที่ จัตุรัสลัมเวียน (Lam Vien Square) สถาปัตยกรรมคาเฟ่ทรงโดม 2 โดมเด่นตระหง่าน คาเฟ่แรกมีชื่อว่า โดมดอกอาร์ติโชค (Atiso) ที่สร้างเลียนแบบดอกอาร์ติโชคที่นิยมปลูกในเวียดนาม ส่วนคาเฟ่ที่ 2 ชื่อว่า Doha Cafe คล้ายกับดอกทานตะวัน กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดาลัดที่มาถึงแล้วต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่นี่


ปิดท้ายวันที่ Dalat Night Market ตลาดกลางคืนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมาเดินช้อปปิ้ง ที่นี่ขายทั้งอาหารและเสื้อผ้าแฟชั่นฤดูหนาวแน่นขนัดสองข้างทางให้เลือกกันแบบจุใจ

วันที่สามก่อนบินกลับกรุงเทพฯ เราวางแพลนเที่ยวชมเมืองกันแบบเอาให้คุ้มกับมุมถ่ายรูปฮิตๆสายแฟต้องชอบ ที่สะพานร้าน Cho Dalat ที่ใครบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าเหมือนฮ่องกงมากๆ มาต่อที่โบสถ์ Con Ga Church โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของดาลัด จบทริปแบบฟิวกู๊ดที่วิวเมืองด้านหน้าถนนตรงข้างๆร้าน Persimmon Cafe ที่บอกเลยว่ามุมเล็กๆแต่ใจฟูมาก

สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเวียดนามกับสายการบินไทยเวียตเจ็ท ในช่วงเริ่มต้นเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดาลัด จะให้บริการด้วยความถี่สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ทุก ๆ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ สามารถสำรองบัตรโดยสารผ่านทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com หรือ แอปพลิเคชัน Vietjet Air, www.facebook.com/VietJetThailand รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารได้เลย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยเกทับเวียดนามเจออากาศร้อนจัดแต่ไฟฟ้ายังมีใช้เพียงพอ
กฟผ. เผยแม้ปีนี้อากาศร้อนจัด ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดทะลุ 34,000 เมกะวัตต์ แต่ไทยไร้ปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ ผ่านการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดูแลระบบผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้มั่นคง มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและโอกาสทางการแข่งขันของไทย
กรุงศรีฯ รุกคืบเวียดนาม รับโอนส่วนของทุน 50% แรกใน SHB Finance สำเร็จ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการเข้าซื้อกิจการในประเทศเวียดนามโดยรับโอนส่วนของทุนในบริษัท SHBank Finance Company Limited (“SHB Finance”) หนึ่งในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคชั้นนำของประเทศเวียดนาม ในสัดส่วน 50% แรก
'ช้างศึก' เสมอ 'เวียดนาม' 1-1 จบแชมป์กลุ่ม ลิ่วรอบรองฯ ปะทะ 'เมียนมา'
วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เวลา 19.00 น. ณ ปรินซ์ สเตเดียม การแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดที่สี่ ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ เวียดนาม โดยทั้งสองทีมต่างเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้วทั้งคู่
ยัดห่วง 3x3 หนุ่มไทยคว้าทองแดงซีเกมส์ หลังชนะเวียดนาม รอบชิงอันดับ 3
การแข่งขัน บาสเกตบอล 3×3 ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ภายในศูนย์กีฬามรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 7 พ.ค.66 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ประเภททีมชาย ทีมชาติไทย (แชมป์เก่า) ที่ประกอบด้วย เทร โฮลเดอร์ (ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน), โมเซส มอร์แกน (ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน), เฟรดี ลิช (ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน) และ ชนาธิป จักรวาฬ ฝ่าด่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม บี โควจรมาพบกับ ฟิลิปปินส์ แชมป์กลุ่มเอ โดยในรอบรองชนะเลิศ แข่งขัน 10 นาที แต่ถ้าทีมใดทำ 21 คะแนนก่อนจะเป็นฝ่ายชนะทันที
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับยุทธการสุมเตาเผาคอร์รัปชัน
ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุของเดือนเมษายนที่คืบคลานเข้ามาพร้อมกับมลพิษทางอากาศเนื่องจากฝุ่น PM 2.5 ดูเหมือนว่าอุณหภูมิและบรรยากาศในเมืองไทยจะร้อนแรงมากขึ้นภายหลังจากการประกาศยุบสภาในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
'เหงียน ธิ ทัต'ผงาดแชมป์สเตจ ขึ้นนำเวลารวม เหมา8รางวัล สวมเสื้อทุกตัว
“เหงียน ธิ ทัต” นักปั่นทีมชาติเวียดนาม แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่กวาดไปทั้งหมด 8 รางวัล ในศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” สเตจที่ 2 เส้นทางภายใน จ.ระยอง โดยเฉือนชนะ “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ ไปอย่างหวุดหวิดได้แชมป์สเตจไปครอง ผงาดขึ้นรั้งผู้นำเวลารวมได้สวม “เสื้อเหลือง” พร้อมทั้งกวาดรางวัลเจ้าความเร็วประจำสเตจ 2 จุด รางวัลเจ้าภูเขาประจำสเตจ 1 จุด รวมทั้งรางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็ว-เจ้าภูเขา-ผู้นำนักปั่นอาเซียนยอดเยี่ยมได้ครองทั้ง “เสื้อเขียว-เสื้อลายจุด-เสื้อม่วง” ด้าน “จอห์น แม็กดอนเนล” หัวหน้าผู้ตัดสินนานาชาติชาวนิวซีแลนด์ ชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกประการ