สปสช. แนะช่องบริการถ้าติดโควิด'ร้านยาคุณภาพของฉัน' 'พบแพทย์ออนไลน์กับ 4 แอปพลิเคชัน' สถานพยาบาลปฐมภูมิทุกที่

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภายหลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาว โดยมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อาจจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งขณะนี้ทั่วโลกมีการรายงานพบเชื้อโควิด-19 ลูกผสม โดยเฉพาะสายพันธุ์ XBB 1.66 ที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงในประเทศไทย ทำให้มีการเตือนให้เฝ้าระวังการติดเชื้อและเจ็บป่วย

ในส่วนของ สปสช. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในการดูแลคนไทย “สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” (บัตรทอง 30 บาท) ให้เข้าถึงการรักษา กรณีผู้ป่วยที่มีอาการทางเดินหายใจ มีไข้อุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ตาแดง มีผื่น ถ่ายเหลว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้ตรวจ ATK และหากขึ้น 2 ขีดผลเป็นบวก ให้เข้ารับการรักษาพยาบาลได้ตามระบบบริการที่ สปสช. ดำเนินการรองรับไว้

กรณีผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียวอาการเล็กน้อย เข้ารับบริการ ดังนี้

1.ร้านยาคุณภาพของฉันให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย ขั้นตอนการรับบริการ ให้ญาติผู้ป่วยเดินทางไปที่ร้านยาที่เข้าร่วม พร้อมกับบัตรประชาชนตัวจริงของผู้ป่วยเพื่อใช้ยืนยันการรับบริการ จากนั้นเภสัชกรประจำร้านยาจะวีดีโอ คอล (VDO call) กับผู้ป่วยเพื่อซักถามอาการและในกรณีที่มีการจ่ายยา เภสัชกรจะแนะนำวิธีการใช้ยาด้วย พร้อมกับจ่ายยาโดยให้ญาตินำกลับไปให้ผู้ป่วย ซึ่งในระหว่างนี้ทางร้านยาฯ จะมีการถ่ายภาพการบริการและจ่ายยาเพื่อนำบันทึกในโปรแกรม Amed ใช้เป็นหลักฐานการให้บริการจริง และหลังจากให้บริการ 3 วัน เภสัชกรจะติดตามอาการผู้ป่วยเพิ่มเติม ตรวจสอบรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197

2.พบแพทย์ออนไลน์ ส่งยาฟรีถึงบ้าน ผ่าน 4 แอปพลิเคชัน ผู้ป่วยจะได้รับการซักถามและจ่ายยาตามอาการ (หากอาการเข้าเกณฑ์จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ตามดุลยพินิจของแพทย์) ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถเลือกรับบริการผ่าน 4 แอปพลิเคชันสุขภาพ ดังนี้

2.1 Totale Telemed (โททอลเล่ เทเลเมด) โดย บริษัท โททอลเล่เทเลเมด รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์) สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @totale https://lin.ee/a1lHjXZn หรือสายด่วน 0620462944, 0618019577

2.2 แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) ให้บริการโดย บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด

https://forms.gle/hfo2Wr9jdvybn8d57 รับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและสีเหลือง รวมถึงกลุ่ม 608 ทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @clicknic

2.3 แอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) ให้บริการโดย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด

https://form.typeform.com/to/cNKqNz3p รับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวเฉพาะพื้นที่ กทม. (ไม่รับกลุ่ม 608) สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @mordeeapp

2.4 แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็มดี) โดย บริษัท ซาลูเบอร์เอ็มดี จำกัด

www.telemed.salubermdthai.com รับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เฉพาะพื้นที่ กทม. (ไม่รับกลุ่ม 608) สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี : @Sooksabaiclinic

3.กรณีผู้ป่วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีภาวะเสี่ยงรุนแรง เป็นกลุ่ม 608 หรือมีโรคร่วม และมีอาการรุนแรงขึ้น (สีเหลือง) ได้แก่ 1.วัดไข้ได้ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป อย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกัน 4 ชั่วโมงใน 1 วัน 2.วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94% 3.มีภาวะแทรกซ้อนหรือการกำเริบของโรคประจำตัว 4.มีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง 5.มีภาวะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ 6.ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการซึม กินได้น้อย มีภาวะขาดน้ำจากอุจจาระร่วงหรือชักจากไข้สูง เป็นต้น ให้เข้ารับบริการที่หน่วยบริการ (สถานพยาบาล) ประจำที่ท่านลงทะเบียนไว้ หรือหน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่ ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ศูนย์บริการสาธารณสุข (พื้นที่ กทม.) คลินิกชุมชนอบอุ่น สถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพชุมชน

4.กรณีผู้ป่วยผู้ป่วยโควิด-19 สีแดง มีอาการรุนแรง ได้แก่ หอบเหนื่อยหนักมาก พูดไม่เป็นประโยค แน่นหน้าอก หายใจเจ็บหน้าอก ปอดอักเสบรุนแรง อ่อนเพลีย ตอบสนองช้า ไม่รู้สึกตัว มีภาวะช๊อก/โคม่า ซึมลง ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ค่าออกซิเจนต่ำกว่า 94 ต้องรีบรักษาโดยเร็ว เข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้ทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดเพื่อรักษาทันท่วงที โดยใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP)

หากมีข้อสงสัยการเข้ารับบริการ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เป็นเพื่อนที่ไลน์ OA สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือเข้าเว็บไซต์ของ สปสช. ที่ www.nhso.go.th หากหาเตียงไม่ได้ หรือหน่วยบริการเตียงเต็ม ให้ติดต่อสายด่วน 1330

นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธาณสุข สามารถไปตรวจ ATK ได้ฟรีที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำหรือที่หน่วยบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ที่หน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งจะได้รับการตรวจด้วย ATK professional use หรือตรวจโดยผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า นอกจากระบบรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ข้างต้นแล้ว เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงหากติดเชื้อโควิด-19 ให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยง 608 ขณะนี้ สปสช. ยังได้ร่วมกับกรมควบคุมโรค เปิดให้ประชาชนที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1) หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2) เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3) ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 6) โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ7) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2566 หรือจนกว่าวัคซีนฯ จะหมดลง เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกันยังช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยอาการของโรคได้ชัดเจน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สปสช.ยังค้างจ่ายเงินโรงเรียนแพทย์ร่วม 1,000 ล้านบาท แจงยิบติดค้างรพ.ละเท่าไหร่

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กล่าวถึงกรณี รองเลขาฯ สปสช.ชี้แจงค้างจ่ายเงินโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ ที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ รวม 369 ล้านบาท ว่าเกิดจากการเรียกเก็บค่าชดเชย ที่ติดรหัส C และติดรหัส DENY นั้น ไม่ครบถ้วน

สธ. ร่วมกับ สปสช. เครือข่าย EACC และ GSK จัดเสวนาการบริหารนโยบายสุขภาพโดยเน้นคุณค่า พัฒนาระบบบริการคลินิกคุณภาพเชิงรุก สำหรับโรคปอดอุดกั้นและโรคหืด

กระทรวงสาธารณสุข โดย คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข เดี๋ยวตัวประสานตอนนี้เดี๋ยวจะเป็นคอนแทค (Service Plan) สาขาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

คนไทยต่างแดนเฮ! เริ่มใช้สิทธิบัตรทองได้ 15 ม.ค.

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติรับทราบ “แนวทางการจัดระบบบริการเพื่อดูแลคนไทยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ