มหัศจรรย์แสงสี ณ ศรีเทพ หนุนนครโบราณสู่มรดกโลก

ภาพ:ททท.

ระหว่างรอลุ้น”อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ” เตรียมเข้าสู่การพิจารณาความเหมาะสมขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกแห่งของประเทศไทย ซึ่งองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จะประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2566 นี้ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เรื่องราวอารยธรรมโบราณ และความสวยงามของมรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณศรีเทพ  อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ถ่ายทอดผ่านงาน“ มหัศจรรย์แสงสี ณ ศรีเทพ สู่มรดกโลก” The Magical Si Thep to World Heritage  ณ เขาคลังนอก  โบราณสถานสำคัญโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบมหาเจดีย์ที่มีฐานก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-3 ก.ย.2566  ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมคึกคัก

งานแสงสีสุดตระการตาย้อนกาลเวลาอันรุ่งเรืองของนครโบราณศรีเทพอายุเก่าแก่กว่า 1,700 ปี  จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)  กรมศิลปากร เป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สร้างการรับรู้คุณค่า และสร้างเสริมศักยภาพสนับสนุนอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ก้าวสู่การขึ้นทะเบียนมรดกโลกในไม่ช้านี้ โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (ททท.) นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมงาน  สำหรับการจัดงาน วธ.อำนวยความสะดวกประสานงานเรื่องการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมและมอบหมายนักแสดงจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ร่วมแสดงสุดตระการตาด้วย

ผู้ชมจะได้สัมผัสมหัศจรรย์ แสง สี การแสดงไฮไลท์ ในรูปแบบเล่าขานตำนานศรีเทพจากความเชื่อสู่ความศรัทธาของผู้คนในแถบลุ่มน้ำป่าสัก ก่อนเกิดเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่า นำเสนอผ่านจอ LED ผสมผสานเทคนิคด้วยการใช้ระบบ Synchronize Lighting เชื่อมการแสดงจากจุดฉายภาพสู่จุดการแสดงแสงไว้ด้วยกันผสานเป็นการแสดงมหัศจรรย์แสงสี Lighting 7 จุด ประกอบด้วยจุดที่ 1 ศรีเทพ  เปิดรากฐานเรื่องราวของเมืองศรีเทพอันยิ่งใหญ่ เล่าขานผ่านมุมมองความเชื่อความศรัทธา ย้อนดีตสู่ความรุ่งโรจน์ทางศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม จุดที่ 2 มหาสถูป ศาสนสถานแห่งศรัทธาในศาสนาอันหลากหลายบนพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก

มหัศจรรย์จุดที่ 3 ศาสนารุ่งโรจน์ เมืองโบราณและมหาสถูปใหญ่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตจที่ย้อนไปได้กว่าพันปี  จุดที่ 4 พฤกษาแห่งแสงสี ต้นไม้น้อยใหญ่รอบพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ สว่างเรืองรอง เปรียบดังพลังคนยุคก่อนส่งถึงคนยุคปัจจุบัน จุดที่ 5 ภาคภูมิใจมรดกไทย เมืองศรีเทพ  ความรุ่งเรืองในอดีตเล่าขานไม่รู้จบ เล่าขานผ่านดอกบัวสัญลักษณ์ความศรัทธา จุดที่ 6 แสง ศิลป์ สะท้อนความศรัทธาของผู้คนที่ต่างนำพาความเชื่อมาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เกิดศิลปสถาปัตยกรรมที่เห็นจนทุกวันนี้ และจุดที่ 7 ศิลปะรุ่งเรือง งดงามด้วยเชิงสกุลช่างศรีเทพ สะท้อนภาพความรุ่งเรืองและความเชื่อมโยงในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นชุดการแสดงที่สร้างความอิ่มเอมใจ

เมืองโบราณศรีเทพเปิดประตูต้อนรับทุกคนเหมือนที่เคยเป็นมานับพันปี โดยรอบการแสดงจัด 4 รอบต่อวัน เวลา 19.00 น. 19.30 น. 20.00 น. และ 20.30 น. นอกจากนี้ ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและอาหารพื้นถิ่นตามวิถีชาวศรีเทพ  เช่น หมกหน่อไม้ทอด  ขนมลูกโคน จ่อมหมู  ขนมจีนน้ำยาสูตรเฉพาะ  ขนมตาลแบบโบราณ น้ำสมุนไพรธรรมชาติ

สำหรับความสำคัญของเมืองโบราณศรีเทพ เป็นหลักฐานของนครที่เป็นจุดเชื่อมโยงบนเส้นทางการค้าระหว่างพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรากฏร่องรอยของพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในสามสมัย คือตั้งแต่ชุมชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย พัฒนาขึ้นเป็นบ้านเมืองในสมัยทวารวดี แล้วถูกวัฒนธรรมขอมแผ่ขยายเข้ามามีอิทธิพลในตอนปลาย ก่อนจะหมดความสำคัญกลายเป็นเมืองร้างไป

จนกระทั่งพบอีกครั้งในปี  2448 ด้วยเป็นเมืองที่ถูกทิ้งร้าง ไม่มีชุมชนในยุคคสมัยหลังมาตั้งซ้อนทับ โบราณสถานที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันจึงไม่ได้ถูกทำลายโดยเมืองสมัยหลังเหมือนที่อื่น  ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้น  หลักฐานทางด้านศิลปกรรมที่สมบูรณ์ดั้งเดิม ที่พบจากเมืองโบราณศรีเทพ แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านภูมิปัญญา การสร้างสรรค์ และผสมผสานรูปแบบศิลปกรรมหลากหลายเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศิลปกรรมแบบศรีเทพ ที่เรียกว่า “สกุลช่างศรีเทพ” ปรากฏอยู่ทั้งในสถาปัตยกรรมและประติมากรรม  กรมศิลปากรได้ใช้เวลาในการขุดแต่งบูรณะและศึกษาเป็นช่วงเวลายาวนานหลายสิบปี ก่อนจะนำข้อมูลเสนอให้กับยูเนสโก พิจารณาขึ้นเป็นมรดกโลก

ทั้งนี้ ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อยู่ระหว่างการเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลก และจะเข้าสู่การพิจารณาความเหมาะสม โดยการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 ก.ย.นี้ ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศรีเทพมรดกโลกฉลองใหญ่ ผู้ชมทะลุล้าน

เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานในสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง จ.เพชรบูรณ์ มีชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าชมโบราณสถานอันทรงคุณค่าระดับโลกมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองยอดผู้เข้าชมทะลุหลักล้าน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม 

วธ.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ

25 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร 29 เมษายน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมห

เที่ยวงานใต้ร่มพระบารมี 242 ปี ชิล ชิม ช้อป ครบครัน

24 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายวัฒนธรรมกว่า 20 หน่วยงาน จัดงานใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ 19 - 25 เมษายน 2567 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

เทศกาลสร้างสรรค์'3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน'

งานเฟสติวัลในย่านเก่าเป็นอีกกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างแรงกระเพื่อมให้มหานครมีมิติร่วมสมัยควบคู่ไปกับการดูแลรักษาศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม สีสันความสนุกที่เคลือบด้วยสาระและคุณค่าของย่านกะดีจีนจะเกิดขึ้นในงานเทศกาล ” 3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน”

เที่ยวมิวเซียม ยลวัง ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์242ปี

เปิดงาน”ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” อย่างยิ่งใหญ่และอลังการ ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบ 242 ปีของการก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์  งานนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)

บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายบูรพกษัตริย์ งาน242ปี กรุงรัตนโกสินทร์

21 เม.ย.2567 - เวลา 07.00 น. พระเทพวชิรโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช