บิ๊กป้อมฉะส.ส.ใต้ ทิ้ง‘ปชช.’ในพื้นที่

พปชร.จ่อเคาะร่างแก้ไขพ.ร.ป.เลือกตั้ง-พรรคการเมืองหลังเปิดสมัยประชุมสภา 1 พ.ย.นี้ “ไผ่” ยันโพล พปชร.ไม่ใช่ตัดเกรด ส.ส. แต่ดูว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง เปิดปมทำโพลเหตุ ส.ส.ใต้ห่างพื้นที่-คะแนนนิยมร่วง "ป้อม" เฉ่ง "รักจะเป็นนักการเมือง แต่ไม่รักที่จะทำพื้นที่ ไม่ทำงานในสภา แล้วจะเป็นไปทำไม" ด้าน "เรืองไกร" ตรวจยิบคลิปหลุด ชี้มีนัยทางการเมืองเทียบคำวินิจฉัยศาล รธน.มีเหตุให้ยุบเพื่อไทย จ่อร้อง กกต.อังคารนี้ ส.ส.พท.ปัด “ทักษิณ” ครอบงำพรรค โวใกล้เลือกตั้งค่อยประกาศแคนดิเดตนายกฯ เหมือนยิ่งลักษณ์ 49 วันก็ชนะ "พนิต" บี้ ปชป.เร่งปรับตัวให้ทันยุคสมัย ไม่สืบทอดอำนาจ เลิกจมปลักการเมืองเก่า

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายและข้อบังคับพรรค พปชร. กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2561 ว่าหลังจากเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 1 พ.ย.นี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะหารือกับฝ่ายเลือกตั้งและผู้ดูแลการเลือกตั้งของพรรค พปชร. เพื่อรับฟังความเห็น รวมถึงข้อเสนอต่อการแก้ไข พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ในการนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ส่วนการยื่นร่างแก้ไขนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยระบบเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุคือ จะมีเวลา 90 วันนับจากวันที่ทูลเกล้าฯ ถวาย คือวันที่ 4 ต.ค.64 และจะครบเวลาดังกล่าว วันที่ 2 ม.ค.65 ส่วนการยื่นร่างแก้ไข พ.ร.ป. 2 ฉบับนั้น ในขั้นตอนของพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องรอร่างแก้ไขของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องรับฟังความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สิ่งที่จะทำให้กระบวนการทำกฎหมายช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการพิจารณาวาระสองคือชั้นกรรมาธิการ

นายไพบูลย์กล่าวถึงรายละเอียดของข้อเสนอแต่ละพรรคการเมืองที่จะเสนอแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่รวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่กำหนดการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ให้ใช้เศษคะแนนคำนวณนั้น เบื้องต้นในหลักการการคำนวณสอดคล้องกัน คือนำคะแนนรวมทั้งประเทศ หารด้วยจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เพื่อหาคะแนน ส.ส.พึงมี ส่วนจะให้มีพรรคปัดเศษหรือคิดเศษคะแนนไม่ถือเป็นสาระสำคัญ ดังนั้นสามารถรับหลักการและพิจารณาวาระสองได้ แต่ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลที่จะให้ระบบ MMP นั้น ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ เชื่อว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุน และส่วนตัวจะไม่รับหลักการ

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มี ส.ส.พปชร.บางคนแสดงความคิดเห็นเรื่องการทำโพลของพรรค พปชร.ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค พปชร.พูดแล้วว่าการทำโพลเป็นดำริของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. ทุกพรรคมีการทำโพลเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไร อย่าเพิ่งไปตีโพยตีพายกันเลย ส่วนข้อข้องใจที่ว่ามอบหมายใคร หรือหน่วยงานใดเป็นคนทำโพล และมีความเชื่อถือได้หรือไม่นั้น ให้รอดูผลที่ออกมาก่อนดีกว่า ถ้าไม่ใช่ค่อยออกมาพูดกัน

"การทำโพลของพรรคไม่ใช่เพื่อตัดเกรด ส.ส. แต่เพื่อจะดูว่ามีอะไรดีหรือไม่ดี หรือควรต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง ทั้งนี้เรื่องทำโพลคุยกันมานานแล้ว จึงไม่กังวลว่าจะถูกโยงทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรค" นายไผ่กล่าว
"ป้อม"เฉ่งสส.ไม่รักพื้นที่

รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า การจัดทำโพลประเมินการทำงาน ส.ส.ของพรรค โดยพบว่า ส.ส.ภาคใต้ส่วนหนึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ และยังต้องปรับปรุงการทำงานนั้น สืบเนื่องจากการประชุมระดับหัวหน้าภาค 10 ภาค ที่มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธานช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรับฟังปัญหาและการทำงานขับเคลื่อนนโยบายของพรรคไปในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีแกนนำพรรคบางส่วนร่วมด้วย ช่วงหนึ่งมีการหยิบยกการทำงานของ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้มาพูดค่อนข้างมาก ซึ่งแกนนำบางคนระบุมีเสียงสะท้อนถึงการลงพื้นที่ของส.ส. ที่บางคนเพิ่งจะมาลงพื้นที่ก่อนช่วงโควิดระบาดไม่นาน ในขณะที่คนอื่นลงพื้นที่ต่อเนื่อง โดย พล.อ.ประวิตรปรารภว่า "รักจะเป็นนักการเมือง แต่ไม่รักที่จะทำพื้นที่ ไม่ทำงานในสภา แล้วจะเป็นไปทำไม” จึงมีการเสนอให้ประเมินการทำงานของ ส.ส.เพื่อส่งสัญญาณว่าจะต้องปรับปรุงการทำงาน ลบจุดอ่อนของตัวเองหากยังนิ่งเฉยในขณะที่พรรคการเมืองต่างๆ เร่งทำพื้นที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอด ก็อาจมีผลต่อความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งในครั้งหน้าได้

ทั้งนี้ มีรายงานว่าช่วงเดือน พ.ย.นี้ มีการเสนอให้ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ภาคใต้ โดยเบื้องต้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา และจุดอื่น 2-3 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาตัดสินใจ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ได้ดูทั้งภาพและเสียงระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ที่วิดีโอคอลกับอดีตนายกฯ ทักษิณแล้ว เมื่อถอดคำพูดออกมาพิจารณา ทำให้มีเหตุที่ต้องขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงตามคลิปดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.28 หรือไม่ ประกอบกับการพิจารณาเพิ่มเติมจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ม.45, คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563, ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย, คำวินิจฉัยและหนังสือ กกต.ต่างๆ และมาตรฐานทางจริยธรรม รวมทั้งความหมายจากพจนานุกรม ข้อความในคลิปที่นายเกรียงถามอดีตนายกฯ ทักษิณล้วนแต่เป็นการสนทนาที่มีนัยทางการเมือง ยังมีการนำลายมือชื่อที่สื่อระบุว่าเป็นของอดีตนายกฯ ทักษิณมาใช้ในเฟซบุ๊กของพรรคและเฟซบุ๊กของสมาชิกพรรค ถ้าเทียบเคียงกับคำวินิจฉัย กกต.ที่ 20/2564 กรณีหัวหน้าสาขาและสมาชิกพรรคเพื่ออนาคตไทย ฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.30 ซึ่ง กกต.มีคำสั่งให้ดำเนินคดีไปแล้วนั้น จึงมีเหตุที่ต้องขอให้ กกต.ตรวจสอบว่าจะเป็นกรณีที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.28 หรือไม่ และมีเหตุจะร้องศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคหรือไม่ โดยจะไปยื่นหนังสือที่ กกต. วันที่ 26 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีที่พรรค พท.ยังไม่ประกาศแคนดิเดตบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ว่า ผู้บริหารพรรค พท.เห็นว่ายังมีเวลา ซึ่งเอาไว้ใกล้กว่านี้ค่อยประกาศ เมื่อปี 2554 เปิดตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ 49 วัน ก่อนการเลือกตั้ง เราก็ชนะ พรรค พท.เป็นพรรคใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ มั่นใจเรื่องฐานเสียงของเรา ขณะนี้มีหัวหน้าพรรคคือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เราทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านในสภาก่อน ถ้ามีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งมีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่เปิดตัว
พท.โวเปิดตัวทีหลังดังกว่า

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากมีการนำเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร ไปร้องว่าอาจเป็นการครอบงำพรรค นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องนี้ พรรค พท.ไม่มีใครครอบงำได้ เนื่องจากเป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตย สมาชิกพรรคแสดงความเห็นที่เป็นอิสระ มีกรรมการบริหารพรรค ข้อบังคับพรรค และกฎหมายพรรคการเมือง ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ มีกระบวนในพรรคของเรา ใครอยากเสนอใครเป็นความเห็นส่วตัว แต่สุดท้ายอยู่ที่กระบวนการขั้นตอนของพรรค และภายใต้กฎหมายพรรคการเมือง นายทักษิณไม่ได้มาครอบงำชี้นำพรรค

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคพท. กล่าวว่า บุคคลที่เราจะเปิดตัวเป็นที่รู้จักและประชาชนยอมรับได้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเปิดเร็ว ไม่ต้องรีบโปรโมต พรรค พท.เน้นเรื่องนโยบายพรรคสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ดังนั้น ประชาชนจึงเลือกนโยบายของเรา ส่วนแคนดิเดตนายกฯ เป็นตัวเสริม การเปิดในจังหวะที่เหมาะสมจึงเป็นการหัวเราะทีหลังดังกว่า ส่วนที่มีกระแสว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทย นายทักษิณจะได้กลับประเทศ เป็นเพลงที่แต่งขึ้นตั้งแต่ปี 2554 ไม่ได้เป็นการจัดทำเพลงใหม่แต่อย่างใด เป็นการเผยแพร่ของกลุ่มแคร์เป็นกลุ่มของภาคประชาชน ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการครอบงำพรรค

ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันลงพื้นที่ในกิจกรรม "จุรินทร์ ออนทัวร์" อีสาน ทอดกฐินสามัคคี ที่วัดถ้ำเขาจันทร์แดง ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา 2 คน โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า การเปิดตัวผู้สมัครนั้นเป็นดุลพินิจเบื้องต้นของผู้บริหารพรรค หลังจากนั้นจะได้นำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย จากการประชุม ส.ส.ภาคใต้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมทั้งในการพูดคุยระหว่างผู้บริหารพรรค ก็มีการประเมินกันว่าพรรคน่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดา เมื่อพรรคดีขึ้น ผู้ที่สนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคก็ต้องมีจำนวนมากขึ้น

"หลายยุคหลายสมัยก็มีผู้แสดงความจำนงเกิน 1 คน ก็ต้องแข่งกัน บางครั้งอาจจะต้องเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคด้วยซ้ำว่าใครเหมาะหรือไม่เหมาะกว่าใครอย่างไร สุดท้ายมติพรรคก็ตัดสิน แล้วเมื่อตัดสินแล้วทุกคนก็ต้องยอมรับ เพราะนี่คือวิถีประชาธิปไตยของประชาธิปัตย์ ไม่อย่างนั้นเราอยู่ไม่ได้มายาวนานมั่นคงยั่งยืนมาจนถึงวันนี้" นายจุรินทร์กล่าว

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ย้อนไปสัก 20 ปีที่แล้ว ประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคการเมืองความหวัง โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ผมเองได้มีโอกาสทำงานในสถาบันการเมืองที่ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจ ต่อสู้กับธุรกิจการเมือง ไม่สืบทอดอำนาจ และไม่ทุจริต น่าเสียดายว่าวันนี้เริ่มชัดเจนว่าพรรคการเมืองหลายพรรค ปรับตัวเองให้ทันกับยุคสมัยไม่ทัน จนต้องมาเสียบุคลากรดีๆ ไปหมด ผมเองอยากเห็นพรรคการเมืองแห่งความหวัง เป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามาร่วมทำงาน คัดสรรคนคุณภาพ คนรุ่นใหม่ให้มาอยู่ร่วมกัน ที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องเรื่องประชาธิปไตย ที่พร้อมจะพัฒนาให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า และจุดยืนต้องชัดเจนกว่าพรรคในอดีต ผมอาจไม่ใช่นักการเมืองรุ่นใหม่ แต่จะไม่ยอมจมกับการเมืองแบบเก่า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง