คนกรุง26.%ยังไม่หนุนใคร มึนเบอร์ผู้สมัครผู้ว่ากับสก.

นิด้าโพลชี้ "ชัชชาติ" นำโด่งอันดับ 1 รองลงมายังไม่ตัดสินใจเลือกใครถึง 26.58% "อัศวิน" แซง "ดร.เอ้" มั่นใจกลับมายืนหนึ่งได้แน่ "สกลธี" บี้ กกต.เร่งพีอาร์คนกรุงสับสนเบอร์ผู้สมัครผู้ว่าฯ กับส.ก. "ศิธา" เปิดรูทเส้นทาง "วิ่ง ปั่น เดิน"  ชูกระตุ้นเศรษฐกิจ กทม.ชั้นใน "พนิต" ซัด "ช่อ" ชุมนุมได้ทุกที่พฤติกรรมหมิ่นเหม่ หวังโกยเสียง 3 นิ้ว ช่วย "วิโรจน์"

เมื่อวันที่ 10 เมษายน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 65 รอบที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-7 เม.ย.2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,362 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.84 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (อิสระ) เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ตั้งใจในการทำงาน และลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน, อันดับ 2 ร้อยละ 26.58 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 10.06 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (อิสระ) เพราะเป็นคนมีประสบการณ์ บริหารงานเก่ง และสามารถสานต่องานได้อย่างต่อเนื่อง

อันดับ 4 ร้อยละ 6.83 ระบุว่าเป็นนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ และสามารถพัฒนาให้กรุงเทพฯ มีความเจริญก้าวหน้าเทียบเท่าต่างชาติได้, อันดับ 5 ร้อยละ 6.02 ระบุว่าเป็นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน, อันดับ 6 ร้อยละ 2.94 ระบุว่าไปลงคะแนน ไม่เลือกใคร (Vote NO), อันดับ 7 ร้อยละ 2.28 ระบุว่าเป็นนายสกลธี ภัททิยกุล (อิสระ) เพราะมีประสบการณ์ในการบริหารงาน และช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง, อันดับ 8 ร้อยละ 2.06 ระบุว่าจะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, อันดับ 9 ร้อยละ 1.98 ระบุว่าเป็น น.ส.รสนา โตสิตระกูล (อิสระ) เพราะเป็นคนซื่อสัตย์ ทำงานดี มีผลงาน และเป็นคนมีวิสัยทัศน์

อันดับ 10 ร้อยละ 1.47 ระบุว่าเป็น น.ต.ศิธา ทิวารี (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะชื่นชอบนโยบายและเชื่อมั่นในพรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 0.94 ระบุว่าอื่นๆ ได้แก่ พันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล (อิสระ), น.ส.วัชรี วรรณศรี (อิสระ), นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ (อิสระ), นายศุภชัย ตันติคมน์ (อิสระ),  นายประยูร ครองยศ (อิสระ), นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ (อิสระ) และนายภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ (อิสระ)  

สำหรับบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เมื่อจำแนกตามกลุ่มเขตการปกครองของกรุงเทพฯ พบว่า 1.กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง อันดับ 1 ร้อยละ 39.88 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ, อันดับ 2 ร้อยละ 22.15 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 11.39 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 10.13 นายวิโรจน์ 2.กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ อันดับ 1 ร้อยละ 38.79 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ, อันดับ 2 ร้อยละ 28.88 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 9.05 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 7.33 นายสุชัชวีร์ 3.กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ อันดับ 1 ร้อยละ 40.53 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ, อันดับ 2 ร้อยละ 26.89 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 10.99 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 7.58 นายวิโรจน์

4.กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก อันดับ 1 ร้อยละ 38.30 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ,  อันดับ 2 ร้อยละ 27.66 ยังไม่ตัดสินใจ,  อันดับ 3 ร้อยละ 9.22 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 6.38 นายสุชัชวีร์ และนายวิโรจน์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน 5.กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ อันดับ 1 ร้อยละ 45.03 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ, อันดับ 2 ร้อยละ 21.99 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 9.42 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 8.38 นายสุชัชวีร์ 6.กลุ่มเขตกรุงธนใต้ อันดับ 1 ร้อยละ 31.91 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ, อันดับ 2 ร้อยละ 29.36 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 10.64 พล.ต.อ.อัศวิน และอันดับ 4 ร้อยละ 8.09 นายสุชัชวีร์

อัศวินมั่นใจขยับขึ้นที่ 1 ได้แน่

ทางด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่มีคะแนนอยู่อันดับ 3 ว่า ความจริงตนอยู่อันดับที่ 2 เพราะอันดับ 1 เป็นของนายชัชชาติ เพราะอันดับ 2 ร้อยละ 26.58 ยังไม่ตัดสินใจ จึงเชื่อว่ายังได้รับความนิยมอยู่ในอันดับที่ 2 ซึ่งตนเพิ่งเปิดตัว แต่ไม่ได้มีความกังวลอะไร และยังมองว่าไม่ใช่ปัญหา

"ยังมีความมั่นใจ และเชื่อว่าผมจะต้องขยับขึ้นมาอันดับที่ 1 อย่างแน่นอน โดยไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียงอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่เดินหน้าหาเสียงทบทวนความจำของพี่น้องประชาชนในสิ่งที่ผมเคยทำไปแล้ว และจากนี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ผมไม่มีนโยบายที่เลิศหรูมากมาย ผมคือนักปฏิบัติ ไม่ต้องมีนโยบายใดที่ดูโก้หรือดูเท่ เพียงแค่เราลงมือทำ ซึ่งแบบนี้ในภาษามวยเรียกว่า พูดน้อยแต่ต่อยหนัก ทำมากๆ แล้วจะดีเอง" พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอย่างมั่นใจ

ส่วนกรณีที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ หลายคนให้ความสำคัญกับพ่อค้าแม่ค้าริมทางเท้า หาบเร่แผงลอย โดยสนับสนุนให้มีการค้าขายได้ทุกวันนั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ทั้งหมดจะต้องอยู่บนความถูกต้องตามที่ปฏิบัติกันมาแล้ว ซึ่งเรื่องแบบนี้สัญญากันไม่ได้ ใครที่บอกว่าจะทำได้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นผู้ว่าฯ หรือไม่ ซึ่งแนวนโยบายของตน คือการคืนความเป็นธรรมให้กับสังคม ทั้งผู้ค้าและคนเดินถนน หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ ค่อยกลับมาพิจารณาเรื่องนี้กันอีกครั้ง ทั้งนี้ การหาเสียงของตนไม่ได้หลอกลวงประชาชน ยืนยันว่าตนไม่ใช่พรรคการเมือง หรือนักการเมือง และไม่ได้ทำการเมือง แต่ตนทำการบ้านเพื่อให้สังคมดีขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า พล.ต.อ.อัศวินพร้อมนายอดุลย์ เซะวิเศษ ผู้สมัคร ส.ก.เขตสะพานสูง หมายเลข 1 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสัมมากร เขตสะพานสูง จากนั้นได้ไปหาเสียงต่อที่ตลาดหน้าสวนพฤกษชาติ คลองจั่น เขตบางกะปิ และพบปะพี่น้องประชาชนชุมชนคลองลำพังพวย เขตบางกะปิ

ขณะที่นายชัชชาติ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กลุ่มอิสระ เดินหน้าหาเสียงที่เขตมีนบุรี เริ่มต้นที่วัดบางเพ็งใต้ นมัสการคณะสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลร่วมกับชาวมีนบุรี จากนั้นล่องเรือคลองแสนแสบสำรวจวิถีชีวิตประชาชนสองฝั่งคลอง และพูดคุยกับผู้ค้าและประชาชนที่ตลาดน้ำขวัญเรียม แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงเขตมีนบุรี รวมทั้งตลาดนัดจตุจักร (มีนบุรี) เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการในพื้นที่ โดยนายชัชชาติระบุว่า คลองเป็นหัวใจของเมืองที่ต้องดูแล ระหว่างเส้นทางหาเสียงเขตมีนบุรี ได้แวะสำรวจประตูน้ำระบายน้ำบางชัน ตรวจสอบแผนการระบายน้ำคลองแสนแสบเชื่อมกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพน้ำได้มีประสิทธิภาพจากเดิมที่พบปัญหาเน่าเสีย สามารถใช้เป็นต้นแบบโครงการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียคลองแสนแสบ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ นายชัชชาติยังได้สำรวจจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้ม บริเวณสถานีมีนบุรี ใกล้แยกถนนรามคำแหง-ร่มเกล้า พร้อมกับชูนโยบายเดินทางดี ด้วยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสายรองเชื่อมต่อการเดินทางจากตรอกซอยไประบบขนส่งมวลชนสายหลัก ขณะเดียวกันเสนอขยายเส้นทางเรือโดยสารคลองแสนแสบจากบางกะปิไปมีนบุรี พร้อมพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางน้ำเชื่อมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ อาทิ รถเมล์และรถไฟฟ้า

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย พร้อมนายสรเทพ โรจน์พจนารัช ผู้สมัคร ส.ก.เขตพระนคร พรรคไทยสร้างไทย และกลุ่มนักวิ่งเพื่อนโรงเรียนสวนกุหลาบ ออกตัววิ่งรอบพระนคร เพื่อออกกำลังกายชมความงามของเมืองพระนครในยามเช้า โดยระบุเส้นทางวิ่งเป็นรูปแบทแมนในวันนี้ ผู้ออกแบบมาร่วมนำวิ่งด้วย รวมเส้นทาง 11 กิโลเมตร ตามหมายเลขของ น.ต.ศิธา ซึ่งพระนครเป็นเมืองที่มีเสน่ห์รายล้อมไปด้วยโบราณสถานและศิลปวัฒนธรรม ร้านอาหารและเศรษฐกิจในชุมชน การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วยการใช้ sport tourism สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

สับสนเบอร์ผู้สมัครผู้ว่าฯ กับ ส.ก.

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 กล่าวระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงที่สวนพฤกษชาติ คลองจั่น ว่าได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนเกี่ยวกับภาพรวมเรื่องค่ารถไฟฟ้า ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างรอเข้าคณะรัฐมนตรี คิดว่าถ้ามีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ จะเอาสัญญาหรือการเจรจามาดูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูว่ามีจุดไหนที่ทำให้ราคาถูกลงได้มากกว่านี้ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ลงพื้นที่แล้วยังได้รับฟังจากประชาชนคือเรื่องของความสับสนเกี่ยวกับหมายเลขผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.กับ ส.ก.อยู่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประชาสัมพันธ์ให้หนักกว่านี้ รวมถึงผู้สมัครเองด้วย

วันเดียวกัน นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุเรื่อง "ชุมนุมได้ทุกที่! หมิ่นเหม่หรือไม่" ว่า วันก่อนมีประเด็นที่นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งถึงการแก้ปัญหาการชุมนุมในพื้นที่ กทม. ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สร้างปัญหาให้คนที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม

แต่ปรากฏว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ที่สนับสนุนนายวิโรจน์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ พร้อมบอกว่าการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องเกิดได้ทุกที่ ในฐานะที่เคยทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ส.กทม. โดยในปี 2553 ยังเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ เห็นต่างจาก น.ส.พรรณิการ์ แม้การชุมนุมจะเป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเช่นเดียวกัน

พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในมาตรา 10 ได้เปิดช่องให้ขออนุญาตชุมนุมไว้ และเขียนไว้ชัดเจนว่า ชุมนุมที่ไหนได้ และไม่ได้ โดยในมาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “การจัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมีหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตำหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์  พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับหรือพำนัก หรือสถานที่พำนักของพระราชอาคันตุกะ จะกระทำมิได้”

"ในช่วง 2-3 ปีนี้มา คุณช่อ และองคาพยพ แสดงความเห็นสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามโฉบเฉี่ยวไปชุมนุมในสถานที่สำคัญที่กฎหมายห้ามเอาไว้หลายครั้ง การออกมาบลัฟนโยบายของคุณชัชชาติ จึงชวนให้สงสัยว่า กำลังเอาใจคนกลุ่มนี้เพื่อหาเสียงทางอ้อมให้กับคุณวิโรจน์หรือไม่ พฤติกรรมในอดีตของคุณช่อ กับความคิดที่ต้องชุมนุมได้ทุกที่ ชวนให้คิดจริงๆ ว่าจะสื่อถึงอะไร และนำไปสู่การตีความหมิ่นเหม่ที่อาจทำให้คนไทยไม่สบายใจ ผมว่าการแข่งขันครั้งนี้ มาสู้กันด้วยนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ เราต้องการผู้ว่าฯ กทม.ที่มาทำงานให้คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ต้องการคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรที่พลัน แต่จะสร้างความขัดแย้งให้กับคนในสังคม" นายพนิตระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง