หาเสียง‘ผู้ว่าฯกทม.’คึก พาเหรดควงคนดังร่วม!

"อภิรักษ์" ช่วย "ดร.เอ้" หาเสียงสวนหลวง ร.9 พร้อมเป็นกุนซือให้ ปชป.จ่อเปิดตัวกลุ่ม “Power 4” เรียกคะแนนคนกรุง "ชัชชาติ" ชูเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ให้คนกรุงประเมินผลงานผู้ว่าฯ “อัศวิน” ลุยตลาดบ่อนไก่ขอโอกาสสานงานต่อ "ศิธา" ควง "แซม-น้องจินนี่" เดินห้างย่านลาดพร้าว "สกลธี" ตีปี๊บจุดเด่นทีมงานรองผู้ว่าฯ ไม่ยึดโยงพรรคการเมือง

ที่สวนหลวง ร.9 เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค และอดีตผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินออกกำลังกายหาเสียง พร้อมกับผู้สมัคร ส.ก. 3 เขต เขตประเวศ  รวมทั้งมีนายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม. และ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์, นายนายกิตพล เชิดชูกิจกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม., น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต ส.ส.กทม.ร่วมด้วย ทั้งนี้ นายสุชัชวีร์และ นายอภิรักษ์เดินทักทายกลุ่มผู้ออกกำลังกายตามจุดต่างๆ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและคำแนะนำจากผู้ใช้บริการสวนสาธารณะเป็นประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายพื้นที่สีเขียวของนายสุชัชวีร์

ต่อมา ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ทีมรอง ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม. และ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน, นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย และนายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการขับเคลื่อนของศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง

นางดรุณวรรณกล่าวว่า ปัจจุบันทางศูนย์มีรอง ผอ.ทั้งหมด 9 คน ซึ่งมีศักยภาพในการขับเคลื่อนงานได้ เนื่องจากได้มีการวางกรอบการทำงาน และแบ่งความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก.ทั้ง 50 เขตไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแผนการลงพื้นที่ รวมไปถึงการสื่อสารนโยบาย ดังนั้นจากข่าวที่ปรากฏในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อการทำงานของศูนย์แต่อย่างใด นอกจากนี้ในส่วนของพรรคได้มีการผนึกกำลังอย่างเต็มที่ โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนายอภิรักษ์ได้มาร่วมเดินหาเสียงให้กับนายสุชัชวีร์แล้ว นายอภิรักษ์ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของศูนย์เลือกตั้งมาตั้งแต่ต้น

นายณัฏฐ์เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีทีมหาเสียงอีกทีม ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยสนับสนุนการเดินหาเสียงของผู้สมัคร ทั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. โดยทีมดังกล่าวจะทำหน้าสื่อสารในรูปแบบ 2 Way Communications ซึ่งจะมีการหยิบยกนโยบายหลัก 4 ประเด็นหลัก ทั้งในส่วนของการแก้ปัญหาพื้นฐาน และส่วนของการสร้างโอกาส ประกอบด้วย 1.การแก้ปัญหาน้ำท่วม 2.ปรับรูปแบบจราจรและขนส่ง 3.สร้างระบบรักษาความปลอดภัย และ 4.การกระจายรายได้สู่ชุมชน

 “ทีมหาเสียงนี้เราจะใช้ชื่อว่า Power 4 ซึ่งจะเป็นทีมนำเสนอแนวนโยบาย พร้อมกับมีปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนที่ต้องการเข้ามาพูดคุย และต้องการแสดงความคิดเห็นต่อนโยบาย ถือเป็นความแตกต่างจากแนวทางการหาเสียงในปัจจุบันที่จะเดินแจกแผ่นพับใบปลิวเท่านั้น ซึ่งกลุ่ม Power 4 จะได้เริ่มลงพื้นที่ในวันอังคารที่ 26 เม.ย.นี้เป็นต้นไป” นายณัฏฐ์ระบุ

นายธนวัฒน์กล่าวว่า พรรคได้มีการเปิดพื้นที่เพื่อรับเรื่องร้องเรียนในกรณีที่พี่น้องประชาชนพบเห็นป้ายหาเสียงที่มีลักษณะกีดขวางวิสัยทัศน์ หรือขวางเส้นทางสัญจร ซึ่งสามารถแจ้งมาที่เพจ Modern BKK ที่ผ่านมาก็ได้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างทันที จนถึงวันนี้ทีมงานได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้วหลายจุด

ทางด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 กล่าวภายหลังลงพื้นที่เขตบางกะปิและเขตสะพานสูง พบปะผู้ค้าและประชาชนที่ตลาดเช้าแฟลตคลองจั่น ตลาดหมู่บ้านสหกรณ์เคหะสถาน ตลาดสัมมากร และตลาดตะวันนา พร้อมรับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนต่างๆ ว่า มีนโยบายเปิดพื้นที่ให้ประชาชนประเมินความพึงพอใจการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. และผู้อำนวยการเขตผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนกำหนดทิศทางการทำงานของ กทม. และมีผลทำให้การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่อีกด้วย ทั้งนี้ ร่วมกันกับการประสานงานกับอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) ในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงการประเมินผล

นายชัชชาติยังเน้นย้ำเรื่องแนวคิดผู้ว่าฯ สัญจร หรือการลงพื้นที่ชุมชนเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชน และรับฟังข้อวิจารณ์จากประชาชนโดยตรง ตั้งเป้าหมายร่วมประชุมกับ 400 ชุมชนใน 50 เขต ให้ครบในระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้ประชาชนร่วมสร้างกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น และเป็นเมืองที่อยู่สำหรับทุกคนต่อไป

สำหรับการดูแลผู้สูงอายุนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.ต้องไม่มองผู้สูงอายุเป็นภาระ แต่ต้องมองเป็นคลังปัญญา ต้องสร้างกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้มาพบปะกัน หาช่องทางสร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุ การจัดการฝึกอบรมให้ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ประสบการณ์ความรู้ต่อยอดได้

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 พร้อมผู้สมัคร ส.ก.เขตปทุมวัน หมายเลข 6 ดร.เมธาวี ธารดำรงค์ ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากประชาชนในพื้นที่ตลาดบ่อนไก่และตลาดพัฒนาบ่อนไก่ เขตปทุมวัน โดยช่วงเย็นวันเดียวกันขึ้นเวทีปราศรัยที่สวนเบญจสิริด้วย

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า หลังเป็นผู้ว่าฯ มาแล้ว 1 สมัย สิ่งที่ทำไปแล้วยังไม่ครบถ้วน ทั้งการพัฒนาคูคลอง การพัฒนาระบบขนส่งยังไม่จบ จึงมาสมัครใหม่อีกครั้งเพื่อขอโอกาสทำงานต่อ โดยสิ่งอยากที่จะทำต่อไปคือ การพัฒนาสวนสาธารณะที่ยังทำไม่เสร็จทั้งหมด เช่น Dog park เป็นสวนสาธารณะสำหรับคนที่รักสุนัข ส่วน Pocket park คือการเอาสวนไปอยู่ใกล้ๆ ชุมชน โดยมีผู้เอื้อเฟื้อที่ดินให้ทำสวนสาธารณะ

ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมครอบครัว แซม-นายยุรนันท์ ภมรมนตรี และน้องจินนี่-น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรสาวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้เดินสายขอคะแนนพี่น้องประชาชนผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้า ซึ่งมีผู้มาใช้บริการในศูนย์การค้าต่างรุมล้อมขอถ่ายภาพ สอบถามนโยบายด้วยความสนใจ

น.ต.ศิธายืนยันว่า จะขอเป็นทางเลือกใหม่ทางรอดของประเทศ ร่วมกับพี่น้องชาว กทม.พากรุงเทพฯ ออกจากปัญหา ซึ่งตนเพียงคนเดียวไม่สามารถทำได้สำเร็จ จึงต้องให้พี่น้องทุกท่านมาร่วมสร้าง รวมพลังสนับสนุนทีมไทยสร้างไทย ให้เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด ในการยุติปัญหาความขัดแย้ง ดูแลเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน

นายยุรนันท์กล่าวว่า น.ต.ศิธา นอกจากจะมีความสามารถในด้านการบริหารแล้ว ยังเป็นคนที่มีบุคลิกด้านการประสานงานได้ดี ซึ่งจะทำให้การทำงานการขับเคลื่อนนโยบายมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงขอโอกาสพี่น้องประชาชนให้โอกาสทีมสุดารัตน์ พรรคไทยสร้างไทย ทำงานรับใช้ชาวกรุงเทพฯ

ขณะที่นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เผยก่อนลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดย่านฝั่งธนฯ เกี่ยวกับทีมงานว่า ได้เปิดตัวไปแล้ว 4 คน และจะเปิดตัวเร็วๆ นี้อีก โดยแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร กทม. เป็นทีมคนรุ่นใหม่ และส่วนใหญ่ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมือง ถือเป็นการทลายเรื่องดังกล่าวไปหมด เพราะจุดอ่อนของอดีตผู้ว่าฯ ในแต่ละยุคที่ผ่านมา น่าจะเป็นเรื่องที่มาจากการเมือง เพราะเมื่อมาจากพรรคการเมืองแล้วอาจจะมีข้อจำกัดในการบริหาร จะต้องเป็นบุคลากรของพรรค การที่จะเอาคนนอกมาเป็นเรื่องลำบาก ซึ่งตนลงอิสระสามารถดึงคนที่มีความสามารถเข้ามาร่วมทำงาน โดยไม่จำเป็นต้องยึดโยงกับพรรคได้.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง