ขอ1เดือนสางปมสายสีเขียว

“ชัชชาติ” คุยกรุงเทพธนาคม พร้อมเปิดสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดได้ข้อสรุป 1 เดือน ก่อนเสนอ มท. เตรียมจ่อคิดค่าโดยสารส่วนต่อขยาย หลังให้ใช้ฟรีมานาน "ศักดิ์สยาม" รอสางปัญหาร่วมกัน 3  ฝ่าย ยันยึดตามแนวมติ ครม.

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าเดินทางมาทำงานที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เสาชิงช้า ตั้งแต่เวลา 04.00 น. แต่ไม่เห็นนักข่าวมารอ ตนก็แค่เปลี่ยนที่วิ่งจากสวนลุมฯ มาเป็นเสาชิงช้า วัดพระแก้ว ปากคลองตลาด เป็นมุมที่สวย วิ่งไปก็มีความสุขดี สำหรับการทำงานนั้นมีนโยบายที่บางเขตเริ่มรับไปทำต่อ ต้องทำวิธีร้องเรียนให้ง่ายขึ้น ไม่ต้องถึงผู้ว่าฯ โดยมีคนรับเรื่องอย่างแท้จริง อาจจะมีแสดงแอปพลิเคชันทราฟฟี่ฟองดูว์ไว้ดูว่าปัญหาเป็นอย่างไร แก้ไขอย่างไร ตอนนี้รับมาแล้ว 4,000 เรื่อง แต่ระบบล่มเพราะมีคนร้องเรียนมาเยอะ

“ส่วนในวันนี้จะเรียนเคทีเข้ามาคุยเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว เรื่องรับมอบสายไฟฟ้าลงดิน และการจัดการบริหารรถไฟฟ้า BRT เรื่องนโยบายหลักก็ต้องทำ  เรื่องรายละเอียดก็ต้องทำ เพราะหน้าที่ของ กทม.มีเยอะ แต่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังไม่ทำเรื่องกลยุทธ์ ต้องแก้ที่เส้นเลือดฝอยก่อน แต่ผู้อำนวยการเขต ผู้บริหารเขตต้องรู้” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวว่า ประเด็นขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จะคุยในวันที่ 6 มิ.ย. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเพราะเราเริ่มต้นใหม่ และจะสร้างความมั่นใจมั่นคงให้ประชาชนมากขึ้น หากบอกว่าเราโปร่งใส แค่พูดไปประชาชนก็ไม่เชื่อ หากตั้งต้นได้ดี จัดกระดุมเม็ดแรกถูก ก็จะเดินต่อไปได้

นายชัชชาติกล่าวถึงกรณี น.ส.ศนิ จิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เคยถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง พร้อมกับพวกรวม 13 ราย เมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 กรณีสร้างราคาหุ้น “เกียรติธนา ขนส่ง” หรือ KIAT ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท ระหว่างวันที่ 4-2 ธ.ค.57 ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดเมื่อปี 57 ทราบว่า น.ส.ศนิโดนสั่งปรับเท่านั้น ไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความผิดพลาดและเข้าใจผิดในการร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ได้ตรวจสอบประวัติทีมงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง น.ส.ศนิดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่มีหน้าที่ประสานงานเท่านั้น จึงมั่นใจว่าทำงานได้แน่นอน

เวลาประมาณ 12.00 น. นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที และทีมที่ปรึกษาว่า ทางเคทีมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเรื่องของสัญญาการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเอกสารห้ามเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก โดยเคทีได้รายงานถึงเหตุผลในการจ้างเอกชนเดินรถการจ้างระยะยาว  และภาระหนี้ที่เกิดขึ้น ยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จากนี้จะนำข้อมูลที่ได้ไปศึกษาต่อ คาดว่าภายใน 1 เดือน จะได้ข้อสรุป เพื่อหารือมหาดไทยโดยเร็วที่สุดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องรถไฟฟ้ามีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย สจส. เกี่ยวเรื่องสัญญาสัมปทาน ส่วนสภา  กทม.เป็นผู้อนุมัติงบประมาณ ต้องไปดูความสัมพันธ์แต่ละหน่วยงานเป็นอย่างไร  โดยเฉพาะการต่อสัญญาจ้างเดินรถระยะยาวทำไมไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน ส่วนภาระหนี้จ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายประมาณ 40,000 ล้านบาท เคที รายงานว่านำรายได้ส่วนต่อขยายช่วงที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง ตากสิน-บางหว้า จ่ายให้เอกชนบางส่วนแล้ว สำหรับส่วนต่อขยายช่วงที่ 2 หมอชิต-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ ยังวิ่งฟรี ทำให้มีหนี้เพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจจะต้องเก็บค่าโดยสาร เพราะนั่งฟรีมานานแล้ว ผู้ประกอบการด้านล่าง อาทิ รถจักรยานยนต์รับจ้าง คนใช้บริการลดลง

“ตามหลักการใครใช้ก็ต้องจ่าย  ปัจจุบันคน กทม.ที่จ่ายค่ารถไฟฟ้า ต้องรับภาระหนี้ให้กับคนที่นั่งฟรีด้วย ดังนั้นอย่าเอาเรื่องหนี้มาเร่งรัดการต่อสัญญาระยะยาว เพราะการเปิดนั่งฟรี เอกชนก็ได้รับผลประโยชน์เป็นการนำผู้โดยสารมาป้อนให้กับเส้นทางไข่แดงตรงกลางด้วยเช่นกัน จริงๆ กทม.อยากคืนหนี้ให้ เพราะหนี้บางส่วนอยู่ที่ปากน้ำ อยู่ปทุมธานี วิ่งให้บริการในเขตปริมณฑลไม่มีปัญหา แต่ต้องดูความยุติธรรม เพราะรถไฟฟ้าสายอื่น เช่น สายสีเหลือง สายสีชมพู รัฐกู้จ่ายคืนค่าโครงสร้างพื้นฐานให้ผู้ประกอบการทำให้ต้นทุนไม่แพงมาก”

สำหรับความคืบหน้าโครงการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดินนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า เคทีรายงานว่าโครงการดังกล่าวมีการตั้งงบประมาณกว้างๆ ไว้ วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ทำให้มีปัญหาเรื่องการหารายได้ จึงไม่มีความคืบหน้า เพราะเป็นโครงการที่ลงทุนจำนวนมาก ขณะเดียวกันปัจจุบันยังหาผู้เช่าท่อร้อยสายระบบสาธารณูปโภคไม่ได้ ทำให้ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคนิค จึงต้องดูรายละเอียดในการทำสัญญาอีกครั้ง เพราะหาก กทม.คิดค่าเช่าท่อร้อยสายแพง ผู้เช่าจะไปคิดค่าบริการกับประชาชน ทำให้ภาระจะตกไปอยู่กับประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยตรง

ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายชัชชาติ แต่เรื่องนี้กระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือสอบถามข้อมูลที่ยังไม่ได้รับจาก กทม.มาตลอด วันนี้ก็ยังสอบถามอยู่ โดยให้รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ และตอนนี้นายชัชชาติดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ก็คงจะมีการประสานกัน เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม.กฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล โดยยึดผลประโยชน์ประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าคมนาคมจะคุยกับ กทม.ก่อน นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เรามีหนังสือส่งไป กทม.อยู่แล้ว ก็ต้องดูว่านายชัชชาติจะพิจารณาเรื่องอย่างไร ซึ่งเราทำอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่ผู้ว่าฯ คนเก่า

เมื่อถามต่อว่า สไตล์การทำงานของนายชัชชาติ จะทำงานร่วมกันกับกระทรวงคมนาคมได้ราบรื่นหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ถ้ายึดมติ ครม.และประโยชน์ของประชาชน ใครก็สามารถทำงานร่วมกับเราได้หมด ถามต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะกำกับกระทรวงคมนาคมระบุว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเคยถามไปที่ กทม. แต่เหมือนเป็นการถาม ก. แต่ตอบ ฮ. หมายความว่าอย่างไร นายศักดิ์สยามตอบว่า ไม่ได้ให้ข้อมูลตามที่สอบถามไป ตอนนี้ก็คงต้องสอบถามกันไปใหม่ และนำข้อมูลมาประชุมร่วมกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งมติ ครม.ได้สั่งการกระทรวงคมนาคม กทม.มหาดไทย ได้หารือกันอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ยังไม่ทำตามมติ ครม. วันนี้เมื่อมีผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ก็คงจะดูมติ ครม.ในเรื่องการประสานงาน และเราก็จะดำเนินการ

ส่วนแนวทางการชำระหนี้จะเป็นสัดส่วนคนละครึ่งระหว่าง กทม.กับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า คงยังสรุปอะไรไม่ได้ ต้องดูทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น การดำเนินการก่อหนี้จะยึดตัวบทกฎหมายอะไร สำหรับการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนนั้น เป็นความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่มีแนวทางชัดเจนมาตลอดอยู่แล้วให้ยึดตัวบทกฎหมาย มติ ครม.และหลักธรรมาภิบาล และประโยชน์ประชาชน ไม่เคยเปลี่ยนหลักการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้