ครูโอ๊ะยื้อไม่ลาออก ภท.แห่อุ้มแค่ข้อกล่าวหา ทส.เงื้อฟันบุกรุกป่าเพิ่ม

"กนกวรรณ" ร่วมวงประชุม ครม. "อนุทิน" ยันพรรคไม่กดดันให้ลาออก  แนะพูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องนำหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ "ศักดิ์สยาม" ชี้แค่ข้อกล่าวหา "ครูโอ๊ะ" ไหว้สวยบอกสื่อไม่ลาออกพ้น "รมช.ศธ." ปัดพูดถึงพ่อ "วราวุธ" ยังไม่แจ้งความ "โกทร-โอ๊ะ" บุกรุกป่า รอกรมที่ดินเพิกถอนโฉนดก่อน บอกกลัวจนท.ถูกฟ้องกลับ

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 14 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กลาโหม) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรัฐมนตรีลาประชุม 1 คน คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กักตัวเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ส่วนนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีออกโฉนดที่ดินบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรีนั้น ยังคงเข้าร่วมประชุม ครม.ตามปกติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวก่อนการประชุม ครม.ว่า ได้โทร.ไปสอบถามนางกนกวรรณ และได้แจ้งว่าถ้าท่านมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิด วันนี้จะออกมาพูดว่าไม่ได้กระทำผิดยังไม่พอ ขอให้เอาหลักฐานเอกสารต่างๆ มาแสดง จะใช้พิสูจน์ด้วยความรู้สึกและคำพูดไม่ได้ และตนก็ได้ให้กำลังใจในฐานะที่เป็นลูกพรรคและเป็นคนที่รู้จักกันมานาน

นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้นางกนกวรรณอยู่ระหว่างเรียบเรียงข้อมูลต่างๆ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อไปถึงขั้นตอนใดๆ สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ได้รับเพียงข่าวสารจากสื่อ ยังไม่เห็นสำนวนและที่มาที่ไปว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค

"ขอย้ำอีกทีว่า ข้อหาที่นางกนกวรรณถูกกล่าวหา ไม่ได้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือกระทำผิดเกี่ยวกับพรรคการเมือง ตัวพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นางกนกวรรณรับผิดชอบส่วนตัวไปแล้ว แน่นอนถ้าผิดไม่ต้องรอใบเสร็จ ขอพูดเช่นนี้ดีกว่า" นายอนุทินกล่าว

ถามว่าต้องรอคำสั่งศาลอย่างเดียวใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า เร็วแน่นอน เพราะกระบวนการเดินแล้ว ตอนนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลและได้ส่งไปที่อัยการในการสั่งฟ้อง ถ้าศาลรับฟ้องกฎหมายระบุว่าบุคคลนั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าถึงจุดนั้นพวกเราจะเริ่มได้เห็นสำนวน คำร้อง ข้อกล่าวหาต่างๆ ตรงนั้นพรรคก็จะมาหารือกัน ซึ่งในพรรคมีนักกฎหมายและนักบริหารจำนวนมากก็ต้องมาดูและหารือกัน ถ้าดูแล้วว่าผิด เดี๋ยวตนจัดการเอง ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย

ถามว่าพรรคได้วางตัวบุคคลไว้ทดแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ หรือเป็นโควตาเดิมของนางกนกวรรณ นายอนุทินกล่าวว่า ยัง ปรับ ครม.หรือไม่ก็ยังไม่ทราบเลย 2 ตำแหน่งที่ว่างอยู่ก่อนหน้านี้นายกฯ ก็ยังไม่ได้ปรับ

ซักว่ามีกระแสข่าวเตรียมนายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทน หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มี คนเก่ายังอยู่เลย

เช่นเดียวกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีเตรียมการปรับ ครม.ของพรรคว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการข้อเท็จจริงก่อน ตนเองได้คุยกับนางกนกวรรณและได้บอกให้ดูข้อเท็จจริงตามกฎหมาย และต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้ก็ยังคงเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนอยู่ ซึ่งนางกนกวรรณได้บอกว่าพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง

ถามว่า จำเป็นต้องให้ออกจากตำแหน่งก่อนหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่หรอก เพราะตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนการกล่าวหา เราต้องดูคำวินิจฉัยของศาลด้วย การจะกล่าวหาโดยไม่ดูข้อเท็จจริงมันไม่ได้ โดยที่ไปวินิจฉัยอะไรก่อนมันอาจจะดูแล้วลัดขั้นตอนไปหน่อย อันนี้เป็นความคิดเห็นของนักกฎหมายหลายคน

กนกวรรณยังไม่ลาออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในทุกครั้งก่อนการประชุม ครม. บรรดารัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะมารวมตัวกันที่ตึกบัญชาการ 1 ห้องทำงานของนายอนุทิน ซึ่งตามปกตินางกนกวรรณจะมารวมตัวด้วยทุกครั้ง และเดินไปประชุม ครม.ที่ตึกสันติไมตรีพร้อมกันทั้งพรรค แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า วันนี้นางกนกวรรณไม่ได้เดินมาร่วมขบวนด้วย

ต่อมาภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ เมื่อถูกถามว่าได้พบและพูดคุยกับนางกนกวรรณในที่ประชุม ครม.แล้วหรือไม่ว่า “พบแล้วๆ ก็สั่งการไป”

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม.ได้มีรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการหลายคนพยายามเดินเข้าไปให้กำลังใจนางกนกวรรณ อาทิ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ., คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ., นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม.

ขณะที่นางกนกวรรณ หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. ได้เลี่ยงสื่อออกมาทางประตูเล็กด้านข้างตึก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ดี สื่อก็ยังได้ไปรอตรงประตูดังกล่าว โดยนางกนกวรรณกล่าวว่า ช่วงนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ช่วงนี้ขอที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ก่อน

ถามว่าได้ติดต่อกับบิดา นายสุนทร วิลาวัลย์ บิดาหรือไม่ นางกนกวรรณไม่ได้ตอบคำถาม พอซักว่ามีกระแสเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ นางกนกวรรณได้เดินทางขึ้นรถทันทีพร้อมกับยกมือไหว้สื่อมวลชน 2 ครั้งอย่างสวยงาม

ต่อมานางกนกวรรณได้เดินทางเข้ากระทรวง ศธ. ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึงอาคารราชวัลลภ ได้เดินเข้ามาหาผู้สื่อข่าว พร้อมกับบอกว่า คิดถึงทุกคน ที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหน มีไปต่างจังหวัดและมาทำงานปกติ

นางกนกวรรณกล่าวว่า ยังไม่พร้อมที่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ส่วนตัวมีความเชื่อ และเคารพกระบวนการยุติธรรมของศาล ในส่วนของทางพรรค ภท. ก็เป็นไปตามที่นายอนุทินและนายศักดิ์สยามได้ให้สัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้วว่าขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนเคารพในสิ่งที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ภท.ให้สัมภาษณ์ไป

"ส่วนการพิจารณายุติบทบาทรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.หรือไม่ ขอเป็นไปตามที่ หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ภท.

ได้ระบุไว้" นางกนกวรรณกล่าว

ซักว่ามีความกังวลหรือไม่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นางกนกวรรณ กล่าวว่า จะตั้งใจทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป

ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ภท. แถลงกรณีนางกนกวรรณว่า พรรคได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีที่นางกนกวรรณ ถูกดำเนินคดี เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ท่านจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในนามพรรค ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องระหว่างนางกนกวรรณกับกระบวนการยุติธรรม เมื่อปรากฏว่ามีคดีเกิดขึ้น ก็ได้ไปรายงานตัวต่อศาลเรียบร้อยแล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม พรรคจะไม่มีการดำเนินการอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

"ในวันที่ 15 มิ.ย. ที่จะมีประชุมพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวาระเรื่องนางกนกวรรณเข้ามาพิจารณา จะปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐมนตรีเหมือนกับคดีอื่นๆ ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งหัวหน้าพรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ เราจะไม่ดำเนินการเรื่องนี้ ให้รัฐมนตรีไปต่อสู้ความบริสุทธิ์ของท่านในศาล ต้องสันนิษฐานว่าท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะพิสูจน์ว่าท่านกระทำความผิดจนสิ้นข้อสงสัย ซึ่งท่านยังสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป ส่วนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ผมไม่ทราบ ต้องไปถามหัวหน้ารัฐบาล” นายศุภชัยกล่าว

ยังไม่แจ้ง'โอ๊ะ-พ่อ'รุกป่า

ถามว่า การที่มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลถูกชี้มูลความผิด 2 คน จะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายค้านหยิบมาขยี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงแต่ละเรื่องแต่ละประเด็น แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งท่านไม่ได้ทำหน้าที่บกพร่อง แต่มีความทุ่มทำงานเต็มที่ พรรคภูมิใจไทยมองตรงนี้ อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเก่า 20 ปีมาแล้ว

วันเดียวกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงคดีนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ กับพวกบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรีว่า การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาอย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตนได้รับรายงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.63 หลังพบว่ามีการบุกรุกนอกเหนือจากโฉนด 11 ไร่ การแจ้งความครั้งนั้นเป็นคดีอาญาหมายเลข 51/2563 โดยเป็นคดีอาญาที่ยังไม่หมดอายุความ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ แต่เป็นคนละส่วนกับคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด

"ขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือไปยัง ป.ป.ช. เพื่อขอเอกสารหลักฐานที่ชี้มูลความผิดแล้ว เพื่อนำเรื่องดังกล่าวส่งให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด เมื่อพื้นที่เหล่านั้นกลับมาเป็นพื้นที่ป่า เราจะสามารถฟ้องร้องว่ามีการบุกรุกอุทยานฯ ได้" นายวราวุธกล่าว

ถามว่า กรมอุทยานฯ ต้องไปแจ้งคดีเพิ่มเติมหลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบอีกหรือไม่ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ในขณะที่ยังเป็นโฉนดอยู่ การที่หน่วยงานภาครัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐไปกล่าวหาว่าเจ้าของโฉนดว่าได้มาโดยมิชอบ เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะโดนฟ้องร้องกลับได้ แต่การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เราจึงสามารถนำเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนให้แล้วเสร็จ แล้วเราจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ซักว่า เมื่อปี 2560 ที่ทีมพญาเสือ กรมอุทยานฯ ได้พบมีว่าการบุกรุก 7 แปลง 7 โฉนด ในพื้นที่ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งทาง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเพียงแค่ 2 แปลง ทางกรมอุทยานฯ ต้องไปดำเนินคดีกับ 5 แปลงที่เหลือหรือไม่ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเหมือนเรามีแบ็กที่จะดำเนินการต่อได้เลย แต่หาก ป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด การไปขอเพิกถอนที่ดินโดยที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ดินนั้นมีการออกโฉนดโดยชอบหรือไม่นั้น อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปฟ้อง เกรงว่าจะโดนฟ้องกลับ

"คดีนี้เป็นคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอีกคดีหนึ่ง ผมไม่ได้แยกว่าเป็นของใคร ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี การพบการบุกรุกป่า เมื่อเราเป็นโจทก์จะฟ้องร้องใครเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า เราต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรามีอำนาจหน้าที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ ทั้งการให้ข้อมูล เพื่อให้ตำรวจดำเนินการสืบพยานหลักฐาน และฟ้องร้องตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเราไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นของใคร" นายวราวุธกล่าว

ส่วนนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือถึง ป.ป.ช.เพื่อขอทราบรายละเอียดในการชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าว และจะส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเมื่อปี 2563 ทางกรมได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีพื้นที่บุกรุกเกิน จากโฉนด 11 ไร่ และส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิแล้ว ส่วนพื้นที่แปลงโฉนดจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ 6 ชั้นปี ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ในพื้นที่มาก่อน และได้ส่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิเช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง