เด็ดหัว‘บิ๊กตู่’10รมต. ตั้งข้อหาแรงไร้ภาวะผู้นำพิการสมองทิ้งทวนซักฟอก18ก.ค.

"ประยุทธ์" ชื่นมื่นลงพื้นที่สกลนคร ย้ำรัฐบาลจัดหางบให้ทุกจังหวัด  ชี้เป็นครอบครัวประเทศไทย ขอเลิกขัดแย้งหันมาร่วมมือกัน "ฝ่ายค้าน" ยื่นญัตติซักฟอก "นายกฯ" พร้อม 10 รัฐมนตรี "บิ๊กตู่" โดนหนัก บริหารล้มเหลว ขาดภาวะผู้นำ พิการทางความคิด ยึดติดอำนาจ "ป้อม-ป๊อก" เจอไร้ความรับผิดชอบ-ปล่อยทุจริต "ชลน่าน" คาดตั้งแต่ 18 ก.ค.ได้อภิปราย หวังมือในสภาสอยรัฐมนตรี "ครอบครัวเพื่อไทย" คึกคัก "อิ๊ง" หยอดหวาน "ณัฐวุฒิ" กำลังหลักพาพี่น้องกลับบ้าน "เต้น" ลั่นรอ "แม้ว" หวนคืนแผ่นดินไทย

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 09.40 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จ.สกลนคร ด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด เลขทะเบียน 1 ขส 2605 กรุงเทพมหานคร มายังโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) และโอกาสความก้าวหน้าของสกลนครในการเป็นศูนย์กลางสมุนไพร มีนายอานนท์ แสนน่าน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นำมวลชนมาให้การต้อนรับและชูป้ายให้กำลังใจนายกฯ บริเวณด้านนอกโรงพยาบาล ซึ่งระหว่างขบวนรถเคลื่อนเข้าภายในพื้นที่จัดงาน นายกฯ ได้เปิดกระจกโบกมือทักทายกลุ่มมวลชน

จากนั้นเมื่อมาถึงภายในงาน กลุ่มแม่บ้านได้นำผ้าครามผูกเอวให้นายกฯ และคณะ ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมงานตะโกนให้กำลังใจ "เรารักลุงตู่ สู้ๆ" ก่อนที่นายกฯจะมอบบ้านที่ซ่อมแซมแล้วเสร็จให้ประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลพยายามจัดหางบประมาณให้กับทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เดือดร้อนและมีความยากจนมาก เราต้องเรียงลำดับลงไป โดยยืนยันว่าจะจัดให้ทุกจังหวัด 76+1 รวมกรุงเทพฯ เพราะเราคือครอบครัว ครอบครัวคนไทย ครอบครัวประเทศของเรา จึงต้องเผื่อแผ่คิดถึงซึ่งกันและกัน ขัดแย้งไม่ได้ ขอให้ร่วมมือกัน

"สกลนครเป็นจังหวัดเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ รอยยิ้ม ยิ้มสยาม แม้วันนี้ปิดหน้ากาก แต่ยังยิ้มด้วยตา ที่ได้สัมผัสถึงความรัก ซึ่งการแสดงออกสำคัญที่สุด บางทีนายกฯ ดุเดือดไปบ้าง ขอให้ดูหน้าว่าผมใจร้ายหรือไม่ และขอให้เกิดพลังพัฒนาบ้านเกิดและเดินหน้าด้วยความร่วมมือและความเข้าใจ อาจลำบากแต่เชื่อว่าจะรวมพลังกันได้ โดยเราต้องร่วมมือกัน ปรับวิธีการดำเนินชีวิต จัดหาช่องทางเพิ่มรายได้แก้ความยากจน ปรับใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และไม่เปลี่ยนวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีของเรา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายกฯ กล่าวได้ระยะหนึ่งก็ถามประชาชนที่ฟังกันอยู่ว่า “มีอะไรจะพูดหรือไม่ เพราะผมพูดเหนื่อยแล้ว” จึงมีคนบอกว่า "รักลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “โอเคนะจ๊ะ วันนี้มีความสุขจริง วันนี้มีปัญหาเยอะ ทุกคนก็ต้องบริหารอารมณ์ของตัวเอง การดูแลปัญหาสารพัด นายกฯ ต้องดูแลคนกว่า 70 ล้านคน หลายอาชีพ เรารักทุกคนเหมือนกัน เราหัวใจเดียวกัน ครอบครัวเดียวกัน คือครอบครัวประเทศไทย ขอเสียงปรบมือให้ทุกคนก็มีกำลังใจ ไปทำงานกัน ใครดีไม่ดีว่ากันมา" จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายรูปกับประชาชน พร้อมร่วมฟ้อนรำภูไทกับชาวบ้าน

ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกมาทักทายกลุ่มสนับสนุนที่บริเวณด้านหน้า ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกเป็นของนายอานนท์ และกลุ่มร่วมพัฒนาชาติไทย ภาคอีสาน ซึ่งตะโกนให้กำลังใจพร้อมชูป้ายสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ และตะโกน "ลุงตู่สู้สู้",  "ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน", "ลุงตู่อยู่ยาว", "รักลุงตู่” ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณ ทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูพร้อมทุบไปที่หัวใจก่อนส่งให้กับทุกคน

บิ๊กตู่ชื่นมื่นลงสกลนคร

จากนั้นเวลา 13.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางไปที่บ้านท่าเยี่ยม ต.โนนหอม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร ตรวจเยี่ยมการส่งเสริมปศุสัตว์เกษตรมูลค่าสูง การพัฒนาโคเนื้อจังหวัดสกลนคร โดยทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคขุนโพนยางคำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อหมกโคลนย้อมครามและให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน เยี่ยมชมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ลดต้นทุนตามนโยบายรัฐบาล เยี่ยมชมสาธิตการปิ้งย่างเนื้อโคขุนคุณภาพโพนยางคำ และให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนภูไท

"วันนี้ดีใจ นานๆ ได้กลับมาได้กลิ่นนี้สักที ไม่ใช่ไม่เคย ผมก็ลูกหลานชาวนาชาวไร่ชาวสวน คุ้นเคยกลิ่นนี้ดี" ทั้งนี้ช่วงหนึ่งตัวแทนเกษตรกรได้พูดถึงมะพร้าวว่า ได้สั่งต้นมะพร้าวมาปลูก 200 ต้น แต่ตายไป 8 ต้น เหลือ 192 ต้น นายกฯ จึงกล่าวแซวว่า "อย่าซื้อหวยนะ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวช่วงท้าย

เวลา 14.45 น. นายกฯ พร้อมคณะเดินทางมายังวัดป่านาคนิมิตต์ ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร พร้อมเข้ากราบนมัสการหลวงปู่อว้าน เขมโก ศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตาม จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมืองฯ จ.สกลนคร โดยได้รับชมการแสดงต้อนรับชุด "ชนเผ่าสกลนคร" จากชนเผ่าคนรักพระธาตุ 6 ชนเผ่า ได้แก่ ไทญ้อ, ภูไท, ไทโย้ย, ไทกะโส้, ไทกะเลิงและไทลาว จำนวน 300 คน

ต่อมานายกฯ ได้กราบสักการะหลวงพ่อพระองค์แสน และกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (พระสิริพัฒนาภรณ์) และพระครูกิตติธรรมนิวิฐ เจ้าคณะอำเภอโพนนาแก้ว ณ พระวิหาร ก่อนกราบสักการะองค์พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พร้อมเยี่ยมชมร้านค้าและพบปะผู้ผลิตผ้าย้อมครามสกลที่ถนนผ้าคราม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าว​ย้ำว่า​ บ้านเมืองเราไม่มีเวลาขัดแย้งอีกแล้ว

ในช่วงท้ายก่อนที่นายกฯ จะขึ้นรถเดินทางกลับ ได้กล่าวว่า​ วันนี้นายกฯ อยากพูดอะไรที่ดีๆ อะไรมันก็ดีมาตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อประชาชนมีความสุข ตนก็มีความสุขเป็น 2 เท่า

ถามถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปนายกรัฐมนตรีพร้อมรัฐมนตรีอีก 10 คน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เฮ้ย! มันคนละเรื่องกัน” ก่อนที่จะออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์ และกล่าวก่อนขึ้นรถอีกว่า "เรื้องนี้ค่อยไปถามที่กรุงเทพฯ"

ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย พรรคเพื่อชาติ และพรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ, นายซูการ์โน มะทา แกนนำพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยคณะ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายชวนกล่าวว่า รับญัตตินี้ไปพิจารณาภายใน 7 วัน จะต้องตรวจสอบว่าญัตติมีความถูกต้องหรือไม่ โดยทั่วไปจะมีปัญหาเรื่องลายเซ็นไม่ตรงกัน ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันมาทุกปี ประสบการณ์ทุกฝ่ายทราบดีว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากเดือน มิ.ย.และเดือน ก.ค. มีร่างกฎหมายที่ต้องพิจารณาอีกมาก และจะต้องหารือกับรัฐบาลว่ามีความพร้อมช่วงเวลาใด

ยื่นซักฟอก3.8รมต.

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน 7 พรรค ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ ส.ส.ที่มีอยู่ ทั้งหมด 182 รายชื่อ เพื่อขอยื่นญัตติอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์,  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

"ฝ่ายค้านจะเด็ดหัวนายกฯ และสอยนั่งร้านทั้ง 10 คน พล.อ.ประยุทธ์มีข้อกล่าวหาว่าผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มาตรฐานจริยธรรม ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ไม่ปฏิบัติตามคำแถลงนโยบายรัฐบาล มีพฤติกรรมที่ปล่อยให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายผู้เห็นต่าง ปล่อยปละละเลยให้มีการทำลายประชาธิปไตยระบบรัฐสภา มีภาวะผู้นำที่พิการทางสมอง แม้ว่าจะแรงพอสมควร แต่เป็นเรื่องของลักษณะความรู้ความสามารถ" นพ.ชลน่านกล่าว

 หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ช่วงเวลาการอภิปรายการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ และร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ น่าจะพิจารณาแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 24 มิ.ย.นี้ หรืออย่างช้าไม่ควรเกินวันที่ 1 ก.ค. ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น่าจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านอภิปรายรัฐมนตรีจำนวนน้อยกว่าการขอเปิดอภิปรายครั้งนี้ ยังใช้เวลาการอภิปรายถึง 4 วัน ฉะนั้นครั้งนี้น่าจะใช้เวลามากกว่าครั้งที่ผ่านมา 

 “การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นแน่นอน อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 23 มี.ค.2566 แต่เรามั่นใจจะมีการเลือกตั้งเร็วกว่านั้น การอภิปรายครั้งนี้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ 2 อย่างคือ 1.อาศัยมือในสภาเด็ดหัว สอยนั่งร้าน มั่นใจว่ามีเสียงพอในการโหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี และ 2.คาดหวังว่าในสนามเลือกตั้ง เราจะตรวจสอบนั่งร้านเพื่อให้ประชาชนชี้ขาดวินิจฉัย เรามั่นใจในศรัทธาของประชาชน ถ้าไม่ตายในสภาก็ไปตายในการเลือกตั้ง” นพ.ชลน่านกล่าว 

ทั้งนี้ สำหรับญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ญัตติที่ถูกยื่นคือการบริหารงานผิดพลาดล้มเหลว ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศ ขาดภาวะความเป็นผู้นำ เป็นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยให้บุคคลแวดล้อมและพวกพ้องของตนแสวงหาผลประโยชน์ ขาดจิตสำนึกในความเป็นประชาธิปไตย                                                            

ส่วนนายจุรินทร์ ปล่อยให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้นจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง, นายอนุทิน ไร้จิตสำนึกของการเป็นนักการเมืองที่ดี มีพฤติกรรมทำลายระบบการเมืองด้วยการรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนการใช้เงินและผลประโยชน์เพื่อมุ่งดึง ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดกลุ่มการเมืองของตน ล้มเหลวผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการ สธ.

พล.อ.ประวิตร ไร้จิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เมื่อพบเห็นการทุจริตกลับปกป้องและไม่ดำเนินการแก้ไข, พล.อ.อนุพงษ์ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตของหน่วยงานในกำกับดูแลอย่างกว้างขวาง, นายศักดิ์สยาม มีพฤติกรรมใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสและงบประมาณจำนวน                                                              นายชัยวุฒิ สนใจเอาผิดแต่เฉพาะกับกลุ่มบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง, นายจุติ ปล่อยให้ประชาชนขาดไร้ซึ่งที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ, นายสันติ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหน่วยงานที่กำกับดูแลเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ไม่ดูแลรักษาผลประโยชนข์องประเทศชาติ, นายนิพนธ์  ปล่อยปละละเลย รู้เห็นสนับสนุนให้มีการทจุริตและแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานในการกำกับดูแล และนายสุชาติ ปล่อยปละละเลยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ

'เต้น'คึกรอ'แม้ว'กลับ

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวมทั้งสิ้น 11 คนว่า ถือเป็นการทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผ่านกลไกของรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในทุกนโยบายของรัฐบาลที่ถูกบิดเบือน หรือทำให้เกิดความสับสน

"นายกฯ พร้อมชี้แจงต่อสภาให้สิ้นสงสัยในทุกประเด็นของฝ่ายค้าน เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปล่อยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬารเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่นๆ นั้นก็เตรียมข้อมูลชี้แจงพร้อมแล้ว ดังนั้นเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจน และจะได้รับเสียงโหวตไว้วางใจทุกคนจากที่ประชุมสภาอย่างแน่นอน" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวกรณีเป็นหนึ่งใน 10 รัฐมนตรีถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีรายชื่ออยู่ในโผว่า คงอาจจะมีคนคิดถึงตนมั่ง แต่ไม่เป็นไร ตอบได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว

"ก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อผม มีการเพิ่มญัตติมาคนสุดท้าย ก็อาจจะมีคนที่มีอิทธิพลที่อยู่นอกพรรคฝ่ายค้านก็ได้ แต่ผมไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ไม่เป็นไร เรารู้หมดแล้วว่าใครทำ เรื่องนี้ไม่ยาก เพราะว่าสุดท้ายเจอกันในสภา ส่วนในพรรคพลังประชารัฐก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อย่างแน่นอน" นายสุชาติกล่าว

วันเดียวกัน ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะแจมแฟคทอรี่ ย่านคลองสาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมเปิดตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โดยภารกิจแรกคือการลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ในกิจกรรม "ครอบครัวเพื่อไทย บุกศรีสะเกษ ไล่หนู ตีงูเห่า" ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ 

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมากว่านายณัฐวุฒิ หรือพี่เต้นของพวกเรา จะเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญมากๆ ที่จะทำให้บ้านของเราหลังนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พี่เต้นจะเป็นกำลังสำคัญในการทำให้พี่น้องกลับมาอยู่บ้านของเรา ได้รู้ว่าเราต้องการความเข้มแข็ง เราพูดเรื่องแลนส์สไลด์ในหลายพื้นที่ที่เราไป เพราะเราอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า จะทุ่มเททุกความคิด ทุกกำลังความสามารถที่มี เพื่อภารกิจครอบครัวเพื่อไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าชัยชนะเป็นของประชาชน ถามว่าจะพาคนเสื้อแดงกลับบ้าน แต่ภารกิจของตนนั้นคือ ถ้าพี่น้องที่ต่อสู้ กอดคอร่วมอุดมการณ์ จะไปร่วมพรรคการเมืองอื่นๆ แล้ว เราเคารพการตัดสินใจกัน วันหนึ่งถ้าเขาบอกว่าอยากกลับมาเคียงข้างกับพรรคเพื่อไทย อกนี้ อ้อมกอดนี้ เปิดรับพี่น้องอยู่ตลอดเวลา

"ผมรัก เคารพ ศรัทธา อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นความจริง ผมเอาใจช่วย ส่งกำลังใจ คาดหวังว่าวันหนึ่งแผ่นดินไทยจะได้ใช้ศักยภาพระดับโลกของชายคนนี้มาแก้ปัญหาให้กับประชาชน มาทำให้คนไทยหายจน ปลดแอกผู้คนจากอำนาจฉ้อฉลไร้สติปัญญาที่เป็นมา 8 ปี จะโดยบทบาทใดก็ตามที่เป็นฉันทามติของสังคม ผมหวังใจรอคอยศักยภาพของชายชื่อทักษิณ ชินวัตร อยู่ตรงนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว

ถามว่า มั่นใจเรื่อง ส.ส.ที่จะไม่กลายเป็นงูเห่าอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส.ส.ทุกคนเป็นมนุษย์ วันนี้หัวใจเป็นแบบนี้ วันต่อไปเงื่อนไขเปลี่ยน ก็อาจเปลี่ยนการตัดสินใจได้ สำคัญคือพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องยืนยันหลักการที่ชัดเจนได้ ผู้คนเปลี่ยนหัวใจได้ แต่พรรคการเมืองต้องมีหลักการที่ชัดเจนแน่นอน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็ยังยืนอยู่ในหลักการเดิม และเราจะย้ำให้ประชาชนได้เห็นอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ปาฐกถาพิเศษ 1 ชม. พูดเรื่องธุรกิจอสังหาฯ ในฐานะนายกฯ รับสับสนนิดหน่อย

“เศรษฐา” ร่ายยาวเกือบ 1 ชม. เหน็บบางคนนั่งทางในบนหอคอย ลองลงมามือเปื้อนดินตีนเปื้อนโคลนบ้าง โวคนไทยโชคดีที่มีนายกฯ Pro Business พ้อ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย ทั้งที่แพงโคตร ลั่นไม่เคยเลียรองเท้าบูธ ขอคืนพื้นที่ทหาร

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ