ขู่ดาบสองส่งป.ป.ช. ฟันนายกฯหลังซักฟอก! ปธ.ชวนชงญัตติให้ครม.

"ฝ่ายค้าน" ขู่มีดาบสอง  ส่ง ป.ป.ช.ฟัน "บิ๊กตู่" ทุจริตหลังซักฟอก    ด้าน "โฆษกแด๊ก" หยาม 15 ขุนพลเพื่อไทยแค่สร้างราคา อภิปรายเหวี่ยงแห เพราะไม่มีหลักฐาน-ใบเสร็จ ด้านพรรคร่วมรัฐบาลซัดกันนัว เด็ก “พปชร.” สวนกลับพรรคชอบอ้างมารยาทการเมือง แต่รมต.ไร้ประสิทธิภาพแก้ปัญหาสินค้าแพง ขณะที่ “ชวน” ส่งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ ครม.แล้ว

ที่รัฐสภา วันที่ 23 มิถุนายน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า พรรคได้เตรียมขุนพลอภิปรายไม่ไว้วางใจเบื้องต้นประมาณ 15 คน แต่อาจจะมีเพิ่มเติม 2-3 คนเพราะมีประเด็นใหม่ขึ้นมา ในส่วนของพรรคจะเน้นอภิปรายในประเด็นทุจริตเป็นหลัก เพราะมีหลักฐานหลายคน รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย ที่พบหลักฐานชัดเจน ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จึงต้องมีการตกลงร่วมกันในพรรคฝ่ายค้าน โดยหากจะอภิปรายเรื่องเดิมจะต้องเป็นข้อมูลใหม่ และฝ่ายค้านก็มีข้อมูลใหม่ที่เป็นทั้งเรื่องเดิมที่เคยปรากฏมาแล้ว รวมถึงเรื่องสดใหม่ด้วย

"ยอมรับว่าเสียงในสภาอาจไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่กระแสที่จะชี้ว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับประชาชนและหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ประเด็นของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะนำไปสู่การยื่นร้องคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับเรื่องทุจริตในการบริหารราชการแผ่นดิน"

เมื่อถามว่า จะมีวิธีการจัดการการอภิปรายที่สะเปะสะปะอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า ยอมรับว่ามีความยากในการจัดสรรเวลา เนื่องจากผู้อภิปรายของฝ่ายค้านแต่ละคนไม่มีการเปิดเผยข้อมูลล่วงหน้า เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นข้อสอบรั่ว แต่ก็ได้พยายามกำชับในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ใช้เวลาเต็มที่และเป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถอภิปรายได้ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.เป็นต้นไป เพราะดูจากไทม์ไลน์การพิจารณากฎหมายอื่นๆ แล้ว ช่วงเวลานี้มีความเหมาะสมที่สุด โดยพรรคฝ่ายค้านยังย้ำว่าอยากได้เวลาอภิปราย 5 วัน ไม่รวมวันลงมติ

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับทราบจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าได้ตรวจญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้ว และได้ส่งไปที่คณะรัฐมนตรีแล้วด้วยเช่นกัน จากนี้คณะรัฐมนตรีจะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อกำหนดกรอบเวลา ซึ่งขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้หารือกับวิปรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ประสานงานกันในเบื้องต้น ยืนยันว่าจำนวนวันอภิปรายจะต้องมากกว่าที่ผ่านมาคืออภิปราย 5 วัน และลงมติอีก 1 วันรวมเป็น 6 วัน และอยากให้การอภิปรายเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่จะไม่กระทบกับการทำงานของสภา

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดจำนวนผู้อภิปรายของพรรคว่ากี่คน ขณะนี้อยู่ในช่วงการพูดคุยกัน และยังไม่สะเด็ดน้ำ ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายนั้นจะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์และแกนนำรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ ส.ส.ของพรรคยังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้อมูลเพิ่มเติม และยังไม่ได้กำหนดตัวผู้อภิปรายอย่างชัดเจน เนื่องจากการกำหนดจำนวนคนและการกำหนดระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับ 2 เงื่อนไขคือ 1.ระยะเวลาที่ครม.จะให้อภิปราย และ 2.สมาชิกแต่ละคนยังอยู่ในช่วงเก็บข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลใหม่ที่เพิ่มเข้ามา จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการคัดเลือกของพรรคว่าข้อมูลจะเพียงพอที่จะใช้อภิปรายหรือไม่ โดยคาดว่าช่วงต้นเดือนก.ค. จะเริ่มเห็นเค้าโครงการอภิปราย ทั้งนี้ ธีมในการอภิปรายของพรรคจะเป็นไปในทางเดียวกันกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงานร่วมกันปธ.สภาดำเนินการตามขั้นตอน

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่รัฐบาลปั่นกระแสว่าเป็นญัตติเถื่อนนั้น จะเถื่อนได้อย่างไร นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พิจารณาแล้วสามารถบรรจุได้ก็ไม่มีปัญหา บรรดารัฐมนตรีที่มีรายชื่อถูกอภิปรายนั้นควรกลับไปทำการบ้าน ดีกว่ามายืนปากกล้าขาสั่น เพราะการอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หากเชื่อมั่นในการทำงานจริงว่าไม่มีปัญหา อย่ากลัวการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ยืนยันว่าข้อมูลการอภิปรายครั้งนี้ของรัฐมนตรีแต่ละคนหนักแน่ อย่าหนีสภาแล้วกัน

ผู้สื่อข่าวรัฐสภารายงานว่า หลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ "ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน" ต่อมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจลงนามยืนยันความถูกต้องของญัตติที่เสนอมาอีกครั้ง เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นญัตติเถื่อน จากเดิมที่มีชื่อรัฐมนตรีถูกอภิปรายแค่ 10 คน ก่อนจะเพิ่้มมาเป็น 11 คนในภายหลัง พร้อมอ้างว่า ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้เห็นร่างญัตติก่อนเซ็นร่วมลงชื่อ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เซ็นเข้าชื่อใหม่ และยื่นต่อประธานสภาฯ อีกครั้งแล้วเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.นั้น

ล่าสุด นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ญัตติไม่ไว้วางใจอยู่ระหว่างประธานสภาฯ พิจารณาความถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ หรืออย่างช้าภายในวันที่ 24 มิ.ย. ยืนยันว่าทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ก่อนที่จะบรรจุในระเบียบวาระจากนั้น จะส่งญัตติไม่ไว้วางใจไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป

ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจงแทน โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย โดยผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงความพร้อมในการตอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไรบ้าง นายธนกรกล่าวว่า ในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีมีความพร้อมในการชี้แจง และได้ฝากรัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลต่างๆ และเตรียมตัวชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเวทีหนึ่งที่รัฐบาลจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชน

นายธนกรกล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเตรียมขุนพลอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ประมาณ 15 คน และมีใบเสร็จการทุจริตสามารถเช็กบิลต่อได้ พร้อมทั้งจะยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในความผิดทุจริตในการบริหารราชการแผ่นดินว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านต้องพยายามโหมโรงเพื่อให้ประชาชนสนใจ จนถึงวันนี้เชื่อได้ว่าไม่น่าจะหาหลักฐานมาสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ตัวเองตั้งตามอำเภอใจได้ ไม่เช่นนั้นคงอภิปรายรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนแต่เน้นๆ ไปแล้ว คงจะไม่อภิปรายแบบหว่านแหแบบนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเฉพาะท่านนายกฯ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขอเพียงฝ่ายค้านนำหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงมาแสดงต่อที่ประชุมสภาฯ ไม่ใช่หลักฐานชนิดที่ทึกทักหรือมโนเอาเองว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ รัฐบาลพร้อมจะนำทุกข้อมูลการอภิปรายที่เป็นประโยชน์ไปปรับปรุงและแก้ไขต่อไป

หยามฝ่ายค้านแค่สร้างราคา

"ไม่แน่ใจว่ามีใบเสร็จการทุจริตจริงๆ หรือพูดเพื่อสร้างราคาให้กับตัวเองกันแน่ อยากให้ฝ่ายค้านใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาของประชาชนไปเปล่าๆ เพราะการใช้ขุนพลทะลวงฟันเยอะไม่ได้การันตีว่าคุณภาพจะเยอะตามไปด้วย อย่าให้ประชาชนต้องเสื่อมศรัทธาการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตยไปมากกว่านี้เลย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้ดูเหมือนนายกรัฐมนตรีจะสงวนท่าทีในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและงดตอบโต้ประเด็นการเมืองเป็นการปรับเปลี่ยนท่าทีใหม่ใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวปฏิเสธว่า  ไม่ใช่ และ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ตนเป็นคนชี้แจง ซึ่งคิดว่าบางครั้งนายกฯ มีงานจำนวนมาก มีแฟ้มเอกสารต่างๆ จำนวนมาก นายกฯ ต้องทำงานหลายอย่าง พร้อมกับการลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการต่างๆ ของรัฐบาลมากขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีโครงการมากมาย ทั้งเรื่องการคมนาคม ดิจิทัลต่างๆ นายกฯ ก็จะลงพื้นที่เพื่อไปติดตามความคืบหน้ามากขึ้น และไม่ใช่เป็นการปรับท่าทีใหม่ ทั้งนี้ คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจถึงการทำงานของนายกฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนแบบนี้ ตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ปรับท่าทีอะไร

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยพุ่งเป้าไปที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ว่า ที่ผ่านมาพรรคดังกล่าวอ้างคำว่ามารยาททางการเมืองมาโดยตลอด มาวันนี้เมื่อรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคตัวเองทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถดูแลปัญหาเรื่องสินค้าแพง ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นได้ จึงพยายามตีรวนกลบกระแสข่าว และโยนความผิดให้กับรัฐมนตรีคนอื่น

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ากระทรวงที่หัวหน้าพรรคดังกล่าวรับผิดชอบ ไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด ทั้งเรื่องไข่ไก่, หมู,ไก่, ผักราคาแพง สินค้าอุปโภค-บริโภคทยอยจ่อขึ้นราคา มีแต่ผลงานจัดแถลงข่าวเดินโชว์ตัวตามห้างโมเดิร์นเทรด แล้วบอกว่าขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จำหน่ายสินค้าราคาถูก หรือตรึงราคาสินค้าเอาไว้ โดยอ้างถึงประโยชน์ของประชาชน แต่ท่านเคยเดินตลาดไปตามข้อมูลตรงจากพี่น้องประชาชนหรือไม่ รู้หรือไม่ว่าประชาชนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด

นายสัณหพจน์กล่าวว่า ส่วนที่ผ่านมาพรรคนี้มักชอบอ้างมารยาททางการเมือง เมื่อพรรคร่วมอื่นๆ เสนอแนะเรื่องการบริหารกระทรวงที่รับผิดชอบ และมักพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น มาวันนี้เตรียมแหกมติพรรคเสียเอง ทิ้งมารยาทการเมืองตามที่เคยกล่าวอ้าง โดยให้เหตุผลว่าพรรคมีความเป็นประชาธิปไตยและเคารพแนวคิดของส.ส.ในพรรค ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระ ยกอ้างว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยหากไม่เคารพมารยาททางการเมืองแล้ว ตนก็พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจากราคาสินค้าแพงเช่นเดียวกัน

“ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคนดังกล่าวควรทำการบ้านเรื่อง ราคาสินค้าแพง ค่าครองชีพสูง เพื่อช่วยนำเสนอให้รัฐมนตรีของพรรคนำไปแก้ไขการบริหารงานที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ผมยกตัวอย่างเช่นราคาปุ๋ยแพง ซึ่งหากไม่มีข้อมูล ก็สามารถนำข้อมูลที่ผมมีอยู่ไปใช้ได้ เนื่องจากราคาปุ๋ยแพงไม่ได้แพงขึ้น เพราะช่วงวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่แพงมาก่อนหน้าช่วงดังกล่าวแล้ว และขยับราคาขึ้นแบบเท่าตัวมาโดยตลอด หากอ้างถึงผลประโยชน์ของประชาชนจริง ควรที่จะเสนอแนะเรื่องดังกล่าวต่อหัวหน้าพรรคของตน ซึ่งรับผิดชอบกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง” นายสัณหพจน์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง