‘ม็อบ’ประเดิม งาน90ปีรำลึก ‘24มิ.ย.2475’

90 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง “ชัชชาติ” ชี้การเมืองและประชาธิปไตยยุคใหม่ไม่น่ากลัว ต้องมีเทคนิคและนโยบายตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น “พท.-ก.ก.” ชี้ปัจจุบันไม่ต่างจากยุค 2475 อ้างประชาชนอยากปลดแอก “ม็อบ” ประเดิมชุมนุมลานคนเมืองเรียกร้องเลิกมาตรา 112

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย.2565 ถือเป็นวันครบรอบ 90 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งมีหลายภาคส่วนได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยที่ห้องคุณหญิงพูนสุข วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวปัจฉิมกถาในวาระ 90 ปีประชาธิปไตยไทย หัวข้อ “90 ปี ประชาธิปไตย ก้าวต่อไปของประชาชน : ประสบการณ์ประชาธิปไตย ผ่านมุมมองการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตอนหนึ่งว่า ประชาธิปไตยไม่ได้น่ากลัว การเลือกตั้ง เราอาจมองว่าเป็นคนละบริบทกับเรา เป็นเรื่องของนักการเมือง ซึ่งการเมืองยุคใหม่ ต้องมาด้วยเนื้อหา และมาด้วยทางออก ไม่ใช่มาด้วยการสร้างความกลัวความเกลียด แบ่งกลุ่มคน นั่นคือสิ่งที่เราทำ โลกประชาธิปไตยในอนาคตมีนิชมาร์เก็ตเยอะ ต้องมีทางออกที่ตอบโจทย์ทุกคนได้

“ต้องออกแบบนโยบายที่ตอบโจทย์ทุกคนได้ และอนาคตการเมืองเปลี่ยนไป ต้องมีเทคนิค มีนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น และต้องทำงานหนักมากขึ้น ถ้าคิดว่า พูดง่ายๆ สัญญาไปเถอะ แล้วก็ลืม ทำได้ ไม่ได้ช่างมัน ไปตายเอาดาบหน้า หมดยุคแล้ว” นายชัชชาติย้ำ

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันที่ 24 มิถุนายน ปี พ.ศ.2475  หรือวันนี้เมื่อ 90 ปีที่แล้ว คือวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของวิวัฒนาการสังคม แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบเกือบศตวรรษ เดินทางจนมาถึงปัจจุบัน อาจเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด 90 ปี 

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวอีกว่า ประชาธิปไตยที่ดีคือประชาธิปไตยกินได้ จากรัฐบาลที่มีความรู้ความสามารถ และได้รับฉันทามติจากศรัทธาประชาชนอย่างแท้จริง จากนี้ไปไม่ควรมีรัฐบาลและผู้นำประเทศที่มีเสียง ส.ว.รองรับปูทางเข้าสู่อำนาจโดยที่ประชาชนไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาอีกแล้ว การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาชนคือเจ้าของอำนาจอธิปไตย ประชาชนต้องเป็นผู้เลือกผู้แทนและผู้นำประเทศของตน

  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า บรรยากาศบ้านเมืองก่อนวันที่ 24 มิ.ย.2475 ก็แทบไม่ต่างจากประเทศไทยในยุคของเรา เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซังไม่ได้รับการแก้ไข ผ่านมาแล้ว 90 ปี จากวันแห่งอิสรภาพ ประเทศไทยกลับยังถูกกักขังในวังวนรัฐประหารนับครั้งไม่ถ้วน ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมไม่ได้รับการแก้ไข เพราะผู้นำคนปัจจุบันไม่มีความสามารถอื่นใดนอกจากทำรัฐประหาร ผู้คนจำนวนมากจึงส่งเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง เสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัยที่มีกลิ่นอายไม่ต่างจากตอน 2475

“ผมเชื่อว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องทำจากทั้งในสภาและนอกสภา ประชาชนจะเป็นพลังขับเคลื่อนเรียกร้องกฎหมายและนโยบายที่ก้าวหน้า ผู้แทนราษฎรจะนำพาเสียงเรียกร้องเข้าสู่กระบวนการรัฐสภา ผลักดันให้เป็นจริง นี่คือเส้นทางแห่งความหวัง 90 ปีที่ผ่านมา แม้เราจะเดินช้าและหลงทางไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเรายังเดินต่อไปไม่หยุดยั้ง ร่วมกันสร้างสังคมใหม่ที่เท่าเทียม เป็นธรรม และก้าวหน้าขึ้นมาด้วยมือของพวกเราเอง 90 ปี 2475 มาร่วมเดินทางไปพร้อมกัน" นายพิธากล่าว

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ประเทศไทยก้าวมาไกลมากแล้วกับพัฒนาการทางการเมืองตลอด 90 ปี มีการปฏิรูปการเมือง มีการล้มลุกคลุกคลาน ติดหล่มอำนาจนิยมบ้างเป็นธรรมดา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบ้างระหว่างรัฐบาลทหารที่อยากมีอำนาจแทรกแซงการเมืองและรัฐบาลพลเรือนที่มาจากประชาชน ซึ่งทางออกที่เหมาะสมกับสังคมไทยในห้วงยามนี้คือ การจัดการระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมประชาธิปไตยที่พัฒนาทั้งการกระจายอำนาจทางการเมือง และสร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ดังที่เยอรมนีสร้างชาติขึ้นมาได้จากซากปรักหักพังหลังสงครามโลก เดนมาร์กสร้างประเทศได้โดยการกระจายอำนาจและการให้การศึกษาทางการเมืองแก่พลเมือง

“90 ปีประชาธิปไตยไทยเดินหน้ามาไกลแล้ว เหลือแต่หล่มอำนาจที่ประเทศไทยติดอยู่ไม่กี่อย่าง ท่ามกลางผู้นำที่หลงอำนาจแบบ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ที่พยายามที่จะปกครองประเทศด้วยระบอบอำนาจนิยม” นายเมธากล่าว และว่า ในวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. จะมีการนำเสนอข้อเสนอการทำให้รัฐประหารหมดไปจากประเทศไทย ด้วยมาตรการทางกฎหมายและบรรทัดฐานของศาลขึ้นที่ มธ. โดยการนำเสนอของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศไทยติดหล่ม และสามารถเดินหน้าประชาธิปไตยแบบรัฐสภาต่อไปได้อย่างสง่างาม

วันเดียวกัน ในเวลา 16.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เครือข่ายนักกิจกรรมคณะราษฎร นำโดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้า และคณะราษฎร We Volunteer เป็นต้น ได้จัดกิจกรรมนัดหมายฉลองวันชาติที่ลานคนเมือง ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. โดยจะมีขบวนแห่หมุดคณะราษฎรจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังลานคนเมือง ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าวยังมีหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วม และหลากหลายกิจกรรม อาทิ การแสดงและวงดนตรี วงเสวนา วงสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้ตั้งขบวนอยู่บริเวณด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ โดยได้นำหมุดคณะราษฎรจำลองขึ้นรถกระบะ ก่อนจะทำการเคลื่อนทั้งหมุดจำลองและกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 รอบ จากนั้นมุ่งไปลานคนเมือง โดยมีการเปิดเพลงและร่วมร้องเพลงเต้นรำกัน ซึ่งในขบวนของผู้ชุมนุมยังมีการถือป้ายข้อความแสดงสัญลักษณ์ อาทิ ป้ายข้อความต่างๆ ยกเลิก 112, ปล่อยนักโทษการเมือง และคนทำงานสร้างชาติ มิใช่ทรราชคนใด เป็นต้น พร้อมกับมีการกดแตรยาว เพื่อแสดงออกถึงการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์