โวกวาด18ล้านเสียง พท.ฝันได้สส.214เก้าอี้แต่หวังศาลรธน.ตีตกสูตรหาร500

พปชร.ยันโรดโชว์เมืองชล ภาพชัดแจ้งต้องการให้รัฐบาลอยู่ยาว! “ชลน่าน” แอบหวังลึกๆ ศาลรัฐธรรมนูญตีตกเรื่องหาร 500 ตั้งเป้ากวาด 18 ล้านเสียง 214 เก้าอี้ เชื่อไม่ซ้ำรอยเลือกตั้ง 2562 ที่ไร้ปาร์ตี้ลิสต์ เปิดตัว 21 ว่าที่ ส.ส.เมืองกรุง มีทั้งเจ้าของพื้นที่เก่าและหน้าใหม่ แต่ไร้ชื่อเด็กในเครือ “หญิงหน่อย” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยโหนศรีลังกาเหน็บรัฐบาล พร้อมสร้างภาพพรรคฝั่งประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งซ่อมลำปาง

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการจัดกิจกรรมโรดโชว์ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในจังหวัดชลบุรีเป็นครั้งแรก รวมทั้งสูตรการคำนวณบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) หาร  500 และผลการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดลำปาง

โดย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโรดโชว์ของพรรค พปชร.ว่า ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่มีต่อพรรค พปชร.ที่เหนียวแน่นอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด บรรยากาศที่พี่น้องประชาชนส่งเสียงเชียร์ “ลุงป้อมสู้ๆ ลุงป้อมอยู่ยาว” เป็นกำลังใจที่ดี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.บอกว่ารู้สึกอบอุ่นใจ ดีใจที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนชาวชลบุรี

น.ส.ทิพานันกล่าวต่อว่า ไม่แปลกใจเลยกับภาพความสุขและความอบอุ่นที่พี่น้องชาวเมืองชลมอบให้นี้ เป็นเพราะผลงานที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ  รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรคที่มีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินได้ทำงานอย่างหนัก  มุ่งมั่นผลักดันโครงการที่สร้างความสุขให้ชาวเมืองชล เช่น  โครงการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก และนโยบายสำคัญที่ถูกใจพี่น้องชาวเมืองชลและภาคตะวันออก คือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

 “โรดโชว์ของพรรคถือเป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้แสดงออก และได้รับฟังนโยบายของพรรค ได้สื่อสารกันโดยตรงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และมีส่วนร่วมในการผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ และจะเป็นก้าวต่อไปในการขับเคลื่อนเช่นนี้ทั่วประเทศ โดยจะจัดทัพยิ่งใหญ่พร้อมใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากขึ้นไปอีกด้วย” น.ส.ทิพานันกล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวในเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 นั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน  และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการคาดการณ์ว่าจะกลับไปเหมือนเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคไม่ได้ ส.ส.บัญชีเลยว่า คงไม่น่ากลับไปเหมือนเดิม แม้ใช้การคำนวณจัดสรรปันส่วนผสม เพราะขณะนี้ประชาชนคับแค้นมากในการบิดเบือน บิดเบี้ยว และทำลายระบอบประชาธิปไตย ประชาชนพร้อมสั่งสอน พรรคเพื่อไทยจะได้ประโยชน์จากตรงนั้น เราเชื่อว่าจะได้มากกว่า 15 ล้านเสียง  บัตรดีทุกพรรคคาดว่าจะรวมกันได้ 35 ล้าน ถ้าเป็นเช่นนี้พรรคน่าจะได้ประมาณ 214 ที่นั่ง ถ้าเขตได้ 180 คน จะได้บัญชีรายชื่อ 34 ที่นั่ง แต่ถ้าได้เขต 200 คน บัญชีรายชื่อ 14 ที่นั่ง

เพื่อไทยหวัง 18 ล้านเสียง

“การตั้งเป้าที่ 15 ล้านเสียงต้องอยู่ที่กระบวนการสื่อสารกับประชาชนด้วย แต่พรรคหวังไปถึง 18 ล้านเสียง และเรายังมั่นใจลึกๆ ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาจะส่งความเห็นเป็นข้อทักท้วงว่า ที่สภาได้แก้ไขไปขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 จากนั้นเป็นหน้าที่สภาต้องมาพิจารณาแก้ไขใน 30 วันให้สอดคล้องกับข้อทักท้วง ก็คงต้องกลับมาหาร 100” นพ.ชลน่านกล่าว           

 เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ได้พูดว่ายุทธศาสตร์ขยายแบงก์พัน เพียงแต่บอกว่าถ้ากลไกกติกาบิดเบี้ยวแบบนี้ ภาคการเมืองย่อมมีวิธีการ ถ้าหากมีการตั้งพรรคมาใหม่เพื่อเอาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ถ้าทำได้จะได้เป็นกอบเป็นกำเพราะไม่มี ส.ส.เขต เอาแค่  2-3 พรรค หารจำนวน ส.ส.พึงมี คือจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้รับเพราะไม่มี ส.ส.เขต ดังนั้นสิ่งที่พรรคเล็กลืมคิด ถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 140,000 คะแนน จะไม่มีพรรคใดที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย เป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ากระแสของพรรคจะแลนด์สไลด์เหมือนนายชัชชาติได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า  เราไม่ทึกทักเอง เราก็ประเมินตัวเองว่าอยู่ระดับไหน กระแสที่อยู่มาตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ มีแนวโน้มว่าถ้าเราทำให้ดีกว่านี้ ตอบคำถามพี่น้องประชาชนจะดีกว่านี้ ทำให้เขาเห็นทางออกของชีวิต ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เขาเชื่อมั่นมาอยู่กับเรา

ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คงต้องรอฟังความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะส่งกลับมายังสภาอีกครั้ง ซึ่งในการลงมติวาระ 2 ที่ผ่านมา พรรคลงมติหลากหลาย เราไม่ได้กำหนดว่าจะต้องลงมติอย่างไร มีทั้งลงมติเห็นด้วยกับการหารด้วย 100 หารด้วย 500 และงดออกเสียง  ซึ่งไม่ว่าจะหารด้วย 100 หรือหารด้วย 500 ไม่ง่ายสำหรับพรรคทั้งนั้น แต่ไม่ว่ากติกาใดๆ พรรคพร้อมต่อสู้ในทุกกติกาที่ถูกกำหนด เราจะทำให้ดีที่สุด

 “การหารด้วย 500 ชทพ.ไม่ได้เปรียบเลย เพราะมีเกณฑ์ ส.ส.พึงมี เป็นเรื่องยากมากสำหรับเรา แต่พรรคไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เราวางอนาคตที่จะเติบโตต่อไป มีการทาบทาม ชักชวนผู้จะมาสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จะขยายฐาน ส.ส.แบบแบ่งเขตให้เพิ่มขึ้น การหารด้วย 500 ถ้าเราจำได้ ส.ส.ต้องทำงานหนักมาก ไม่ง่ายสำหรับเรา แต่ไม่ว่าจะหารอะไร เราจะสู้เต็มที่ในกติกา” น.ส.กัญจนากล่าวและว่า พรรคจะไม่ส่ง ส.ส.แบบแบ่งเขตครบทั้ง 400 เขต แต่จะส่งในเขตที่มีความพร้อม 

วันเดียวกัน พรรค พท.ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค 21 คน จากทั้งหมด 33 เขต  โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เพื่อต้องการบอกกับพี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงว่า พรรคพร้อมทำงานกับพี่น้องประชาชน  เพื่อนำพาทุกท่านให้พ้นวิกฤต ด้วยการนำเสนอบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ หลังจากนี้ก็จะเปิดตัวในส่วนของภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยตั้งใจดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วง 2-3 เดือนนี้

พท.เปิดชื่อ 21 ว่าที่ ส.ส.กทม.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.  21 เขตก่อน ส่วนที่เหลือ 12 เขตจะทยอยเปิดตัว และหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคจะทยอยเปิดตัวผู้สมัครแต่ละภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ที่เปิดตัว  21 คน ประกอบไปด้วย 1.นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ เขตสัมพันธวงศ์ 2.น.ส.จุฑาพร เกตุราทร เขตบางรัก 3.น.ส.นวลละออง ศรีชุมพล เขตวัฒนา 4.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.ห้วยขวาง-ดินแดง 5.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เขตจตุจักร 6.นายพชร ธรรมล หรือ ฟลุก เดอะสตาร์ เขตราชเทวี 7.นายรัฐพงษ์ ระหงส์ เขตบางซื่อ 8.นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร 9.นายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ เขตดอนเมือง 10.นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.เขตบางเขน 11.นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา เขตบางกะปิ 12.นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.คันนายาว-บึงกุ่ม 13.นายวิชาญ มีนชัยนันท์  ประธานภาค กทม. 14.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เขตคลองสามวา 15.นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ อดีต ส.ส.เขตหนองจอก 16.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.เขตลาดกระบัง 17.นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร เขตบางนา 18.นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เขตคลองสาน 19.นายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร เขตจอมทอง 20.นายวัน อยู่บำรุง  ส.ส.เขตบางบอน-หนองแขม และ 21.นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.เขตภาษีเจริญ  

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรค พท.กล่าวว่า พรรคพร้อมส่งผู้สมัคร  ส.ส.ทั้งประเทศ และจากนี้จะทยอยเปิดตัวในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ กติกาแบบไหน จะเป็นแบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 100 หรือ 500  พรรคพร้อมสู้ทุกรูปแบบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรค พท.ทั้ง 21 เขต เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง แทนนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมืองของพรรค ขณะที่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสายไหม  ของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ยังอยู่ในกระบวนการสรรหาของพรรค ยังไม่มีการเปิดตัว โดยทั้ง 2  ส.ส.ต่างสนิทสนมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาต่อเนื่องว่าทั้ง 2 ส.ส.ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับภาค กทม.ของพรรคเลย ทำให้ถูกคาดหมายว่าคงไม่ได้ร่วมงานกับพรรค  พท.ในอนาคต แต่นายสุรชาติที่สนิทสนมกับนายการุณและคุณหญิงสุดารัตน์กลับมาเปิดตัวกับพรรค พท. สะท้อนว่าการเลือกตั้งรอบหน้านายสุรชาติจะยังทำงานร่วมกับพรรค พท.ต่อไป 

ด้านนายการุณยอมรับว่า ไม่ทราบว่าพรรคมีมติอย่างไร  จะส่งใครลงแทนใคร เพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุมหรือทำกิจกรรมของพรรคเลย หากจะส่งใครลงแทนก็ไม่ติดใจ และไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครในพรรค รักพรรคเพื่อไทยมากมาโดยตลอด ปัญหาต่างๆ อาจเพราะเป็นตัวเองไม่ค่อยทำตามคำสั่งใคร ยิ่งเป็นเรื่องที่ให้กล่าวร้ายผู้อื่นไม่ทำเด็ดขาด ยืนยันจะลงสมัคร ส.ส.เขตดอนเมืองแม้พรรคไม่ส่งก็ตาม และไม่กังวลต่อการแข่งขัน มั่นใจกับสิ่งที่ได้ทำให้พี่น้องชาวดอนเมืองมาโดยตลอด และทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะเป็นคนเลือก ส่วนที่พรรคให้คนอื่นลงสมัครแทน ไม่ได้มีการคุยกับผู้บริหารพรรค คงเพราะไม่มีใครกล้ามาคุย และอีกอย่างผู้บริหารพรรคบางคนก็ทำในสิ่งที่รับไม่ได้ด้วย

อ้างพรรคฝั่งประชาธิปไตยชนะ

ส่วนความเคลื่อนไหวผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ลำปาง  นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคการเมืองที่ชนะได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุผลที่ชนะว่า "เป็นการแข่งระหว่าง 2  พรรคที่อยู่ในคนละขั้วการเมือง คือฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล  รวมทั้งแนวทางการหาเสียงที่แตกต่างกัน และคุณสมบัติและบุคลิกของผู้สมัครพรรคที่นอบน้อม ใกล้ชิดประชาชน ถือเป็นเสียงสะท้อนของความอยากเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของคนไทยทั้งประเทศ ประชาธิปไตยจากปลายปากกากำลังจะเกิดขึ้นแล้ว"

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย  (ศท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุนพรรค และขอแสดงความยินดีกับพรรคที่ชนะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวลำปาง เข้าใจแล้วว่าพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง และก็พร้อมเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน"

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค ศท.กล่าวว่า ยอมรับว่าผลที่ออกมาผิดคาด  เพราะจากที่เราหาเสียงมาก็มั่นใจว่าจะชนะ แต่ผลที่ออกมาครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พรรคต้องไปทบทวนการทำงานว่าเราพลาดจุดไหน อย่างไร เพื่อปรับแผนทำงานต่อไป

 นพ.ชลน่านกล่าวเรื่องนี้ว่า กรณีนี้จะเรียกว่าเป็นการแลนด์สไลด์ก็ได้ เพราะผลการเลือกตั้งชนะทุกเขต สะท้อนชัดถึงกระแสความนิยมมาอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เฉพาะพื้นที่  กทม.แต่ขยายขอบเขตไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะกับการที่พรรคเพื่อไทยประกาศตัวส่งผู้สมัครภาคเหนือก่อนเลือกตั้งซ่อม 1 สัปดาห์ ซึ่งประชาชนจะเทใจมาให้พรรคฝั่งประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่ว่าผู้มีอำนาจจะคิดอะไรออกมา สิ่งสำคัญที่สุดคือพี่น้องประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง แม้พลังในอดีตจะไม่พอที่จะต่อสู้กับผู้มีอำนาจ แต่จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เชื่อว่าคะแนนเสียงที่ได้มาไม่ใช่พลังเล็กๆ ดังนั้นผู้มีอำนาจคิดอะไรต้องระมัดระวัง เช่นการจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ถือเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย

 “คุณคิดว่าคุณจะอยู่ได้หรือ ในเมื่อประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจเขาไม่เอา ศรีลังกาเป็นภาพตัวอย่าง การบริหารล้มเหลวมาก ทำให้พี่น้องประชาชนลำบาก ทำให้ประชาชนล้มละลาย สุดท้ายเขาก็ต้องแสดงออกต่อผู้มีอำนาจว่า อย่าได้เหิมเกริมกับการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ” นพ.ชลน่านกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง