ติวรมต.คุมอารมณ์ นายกฯงัดกลยุทธ์สู้ซักฟอก ฝ่ายค้านปรับคิว‘ตู่’ปิดท้าย

“บิ๊กตู่” เตรียมเปิดหัวซักฟอก เชื่อทุกอย่างจะออกมาดี แนะ ครม.ให้เก็บอารมณ์ ชี้แจงตามข้อเท็จจริง ทำเอกสารเป็นสไลด์ขึ้นจอ และต้องรู้รักสามัคคีนำพาประเทศชาติไปข้างหน้าให้ได้ ชูผลงานแก้ยากจนนำร่อง 4 จังหวัด ยืนยัน 7 ปีรัฐบาลมีผลงาน ขออย่ามัวแต่ทะเลาะกัน เก็งข้อสอบ "จุรินทร์" โดนซักฟอกหนักปมพลังงาน-ของแพง บ่นได้เวลาแจงน้อยไป ฝ่ายค้านจัดคิวเชือดลำดับแรก รมต.จาก "ภูมิใจไทย" ลำดับสุดท้ายเป็นของนายกฯ

เมื่อวันอังคาร มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในที่ประชุม ครม. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ประสานงานวิปรัฐบาล ได้รายงานเกี่ยวกับวาระการประชุมสภา รวมถึงกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมแจ้งว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายๆ ไปตามลำดับของ ครม. โดยให้ฝ่ายค้านใช้สิทธิได้เต็มที่ ส่วนรัฐมนตรีขออย่าใช้เวลาชี้แจงมาก เพราะเดี๋ยวฝ่ายค้านจะพูดไม่ครบ และจะมาร้องขอต่อเวลา ก็ยิ่งจะให้เสียเวลาไปอีก

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวว่า ตนจะพูดเปิดนิดหน่อย และเชื่อว่าเราสามารถชี้แจงได้ ตอบได้ แต่ขอให้เก็บอารมณ์ เชื่อว่าทุกอย่างจะออกมาเรียบร้อยดี ให้เราพูดชี้แจงตามข้อเท็จจริง

ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แสดงความเห็นว่า เวลาที่รัฐบาลได้รับการจัดสรร 11 ชั่วโมงน้อยเกินไปหรือไม่   อยากให้เจรจากัน เพราะอย่างน้อยต้องได้เวลาเท่ากันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล พร้อมสอบถามนายอนุชา นาคาศัย หากถูกพาดพิงจะสามารถใช้สิทธิ์ชี้แจงทันทีเหมือนทุกครั้งได้หรือไม่ ซึ่งนายอนุชาชี้แจงว่าสามารถลุกขึ้นชี้แจงได้ตลอดเวลาที่ถูกอภิปรายอยู่ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้แสดงความเห็นว่า การอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคล เมื่ออภิปรายรัฐมนตรีรายใดผ่านไปแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก มีเพียงนายกฯ ที่จะถูกพาดพิงตลอดเวลา ซึ่งต้องอยู่สภาตลอด 4 วัน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกกับที่ประชุม ครม.ให้เตรียมพร้อมและเตรียมข้อมูลไว้ให้ดี พร้อมกับแนะนำว่า ให้ทำเอกสารชี้แจงเป็นสไลด์ขึ้นจอ เพราะตนเองเตรียมไว้ระดับหนึ่งเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ครม. มีการคาดการณ์กันว่า นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะถูกอภิปรายเป็นหลัก นายจุรินทร์เป็นอีกคนที่จะถูกอภิปรายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะวิกฤตพลังงานที่ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นหลายชนิด เนื่องจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ที่รับผิดชอบเรื่องพลังงาน ไม่ได้ถูกอภิปรายด้วย 

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงพักเบรกการประชุม รัฐมนตรีบางส่วนได้จับกลุ่มคุยกันในวงเล็กถึงเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากจะเป็นการเก็งข้อสอบแล้ว ยังมีการเตือนให้ระวังฝ่ายค้านอภิปรายประเด็นใหม่ที่นอกเหนือจากที่มีการเก็งกันไว้ ขอให้แต่ละคนจัดทีมเตรียมชี้แจงทุกเรื่อง เพื่อพิสูจน์ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง  และมีบางคนสอบถามว่าหากฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง สามารถฟ้องดำเนินคดีได้หรือไม่

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้แจ้งให้รัฐมนตรีทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมครม.สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 18 ก.ค. ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เราต้องรู้รักสามัคคีกัน แล้วนำพาประเทศชาติไปข้างหน้าให้ได้ และทุกกระทรวงควรสร้างการรับรู้ในรูปแบบของพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการนำเสนอผลการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากกระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นี่คือหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล มุ่งแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและตามขั้นตอน โดยเริ่มที่ขั้นตอนแรก จะต้องอยู่รอดอย่างปลอดภัยตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และนำไปสู่ความยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาความยากจนใน จ.เพชรบูรณ์ พังงา สุราษฎร์ธานี และอำนาจเจริญ ถือว่ามีความคืบหน้าในตัวอย่างนำร่องก่อนที่จะขยายไป 77 จังหวัด ย้ำว่าเป็นการมองการแก้ปัญหาในอนาคต ไม่ได้เป็นการให้เงินสงเคราะห์อย่างเดียว ซึ่งสอดคล้องกับ 3 แกนหลักของรัฐบาลนี้ ที่ได้ทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย 1.การทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ซึ่งตนเองได้เข้ามาแก้ปัญหาตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน โดยเฉพาะการสร้างรายได้ให้กับประเทศเพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง หางบประมาณเพื่อมาดูแลประชาชน 2.การเร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และ 3.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

"ทั้งหมดนี้คือหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่ทีเดียวแล้วจบเลย วันนี้เป็นความก้าวหน้าของ 5 จังหวัดมาเป็นตัวอย่างให้เห็น แต่ความจริงเราทำหมด 77 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ นี่คือสิ่งที่เรามองว่าจะทำอย่างไร ถ้าแก้ปัญหาเดิมๆ ให้ไปเรื่อยๆ เขาก็จะอยู่แบบนี้ไม่มีทางดีขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้คิดออกมาและเพิ่มจาก 3 เรื่องหลักที่พูดไปแล้ว และทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา คือเรื่องทำอย่างไรให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้คือการหารายได้เข้าประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเพื่อเอาเงินมาดูแลกลุ่มอื่นๆ"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ถ้าเรามองด้วยความเป็นธรรม จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ก้าวหน้ามามากในระยะเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา มันต้องทำให้ต่อเนื่องเท่านั้นเอง ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกคน นี่คือประเทศไทยของเรา อยู่กันแบบนี้ช่วยกันแบบนี้เดี๋ยวก็ไปได้ มันแก้ปัญหาได้หมด ดีกว่าที่จะสร้างความขัดแย้ง มันแก้อะไรไม่ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมี ส.ส.พรรคอื่นเทคะแนนให้พรรค ภท.อีกหรือไม่ว่า เดี๋ยวต้องรอดู ของแบบนี้บอกก่อนไม่ได้ เพราะเวลามีอะไรเกิดขึ้นช่วงเสี้ยววินาทีเราก็ไม่รู้ แต่เราต้องตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท วันนี้เราบอกว่าเสียงพอ และไม่ทำการบ้านอะไรเลย ซึ่งไม่ใช่การบ้าน ตนและนายศักดิ์สยามได้เตรียมไว้หมดแล้ว

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการมีชื่อถูกอภิปรายว่า  สามารถชี้แจงได้หมดอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าข้อหาแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร ก็ชี้แจงกันไปให้ดีที่สุด เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนรวมถึงตน ทำงานมาแล้วอย่างหนัก น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นจุดอ่อน-จุดแข็ง เมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายตรวจสอบจะตรวจการบ้าน ก็เป็นไปตามระบบ ต้องให้เขาตรวจสอบ

เมื่อถามว่า เป็นห่วงเสียงของรัฐบาลที่จะสนับสนุนรัฐมนตรีที่แต่ละคนโดยเฉพาะจากพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ นายจุติกล่าวว่า ให้มองในภาพรวม โดยต้องเคารพดุลพินิจของ ส.ส. ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของตนเคยบอกแล้วว่าจะออกมาเป็นอย่างไร พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้ว จะออกมาเป็นอย่างไรก็รับตามนั้น

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานวิปพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อหารือและเตรียมการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจว่า ในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือและสอบถามว่า แต่ละพรรคมีความพร้อมเพียงใด และได้ทบทวนเรื่องการจัดสรรเวลาอภิปรายให้กับแต่ละพรรคอีกครั้ง เพราะมีบางพรรคขอเพิ่มเวลาอภิปราย และบางพรรคยังวางตัวผู้อภิปรายไม่เรียบร้อย สำหรับพรรค ก.ก. เตรียม ส.ส.ที่จะอภิปรายไว้ 14 คน

นายพิจารณ์กล่าวว่า ในที่ประชุมเห็นตรงกันที่จะปรับลำดับการอภิปราย จากเดิมที่จะเริ่มอภิปรายนายกรัฐมนตรีก่อนแล้วค่อยไปรัฐมนตรีคนอื่น แต่ครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วยรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลคือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้วเรียงไปยังรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น ก่อนจะอภิปรายนายกฯ เป็นคนสุดท้าย โดยตนคาดว่าการจัดลำดับเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความสนุก และทำให้ประชาชนเฝ้าติดตามการอภิปรายตลอดทั้ง 4 วัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง