"บิ๊กตู่" ขวางสุดตัวรื้อ 112 ด้านกองเชียร์สามนิ้วสวดยับ-ทัวร์ลงเพื่อไทย-ทักษิณเละ หลัง "โทนี่" หัวหน้า พท.ตัวจริง อุ้มมาตรา 112 บอกตัวบทไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่คนใช้ "หมอชลน่าน" นำทีมพรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงชัดไม่เข้าชื่อเสนอแก้กฎหมาย แต่ "ก้าวไกล" ห้าวไม่เลิก ลั่นเดินหน้าเอาเข้าสภาโดยเร็วให้ได้ ตามหลักพระมหากษัตริย์อยู่ใต้ รธน. แบะท่าหนุนนิรโทษกรรมคดีการเมือง
ยังคงมีท่าทีและความเห็นทางการเมืองต่อกรณีการแก้ไข-ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา มีท่าทีที่น่าสนใจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีบทบาทสูงในพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า 2-3 วันนี้ได้ฟังดรามาเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 จากทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการที่จะแก้ไขหรือยกเลิก ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา และผ่านการปรึกษาในเรื่องมาตรา 112 มาหลายครั้ง
นายทักษิณระบุว่า ขอเล่าเป็นประสบการณ์ มาตรา 112 มีมานาน ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ น่าจะประมาณปี 2500 ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบุคคลในกระบวนการยุติธรรมอาจจะเกิดจากความกลัว หรืออาจจะเกิดจากความอยากแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ยึดหลักนิติธรรม แล้วเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือ Abuse of Power เพื่อหวังผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรัฐบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง เลยทำให้เกิดความไม่พอใจ และยิ่งใช้มากก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจมาก ซึ่งในสมัยก่อน สนง.ตำรวจแห่งชาติ จะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องที่ร้องเรียนขึ้นมาว่าเป็นเรื่องของการจงใจที่จะละเมิดมาตรา 112 จริงหรือเปล่า และจำนวนคดีก็มีน้อย และทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาทางอาญา (Due Process of Law)
นายทักษิณให้ความเห็นอีกว่า ฉะนั้นปัญหาก็น้อย แต่ช่วงนี้ปัญหาเยอะมาก ยิ่งใช้อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความโกรธเคือง แล้วก็ไปโทษกันต่างๆ นานา ซึ่งผมเคยบอกแล้วว่ารัฐบาลน่าจะจับเข่าคุยกับกลุ่มเยาวชนที่เห็นต่างในทุกวันนี้ เราก็จะได้แนวทางที่อยู่ร่วมกันระหว่างคนในวัยที่ต่างกัน ถ้าจะเริ่มติดกระดุมใหม่ที่ติดผิดเม็ด ก็โดยการที่ปรับกระบวนการในการดำเนินคดีของ 112 เสียใหม่ ให้เหมือนในอดีตที่ทำอย่างเป็นระบบระเบียบ ไม่กลั่นแกล้ง ไม่หาเรื่อง แล้วก็ปล่อยผู้ถูกกล่าวหาให้ได้รับการประกันและใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไป และพูดคุยกับเด็กๆ จะได้เข้าใจตรงกัน เราจะอยู่ร่วมกันต้องมีกติกา กติกาอะไรที่มันยอมรับกันได้ทุกฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ
นายทักษิณให้ความเห็นด้วยว่า เพราะฉะนั้นก่อนที่จะบอกว่ายกเลิกมาตรา 112 เพราะอารมณ์โกรธ จากอารมณ์โกรธ หรือบางคนก็ต้องการจะยกเลิกโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่ยกเลิกมาตรา 112 ไม่เอาเด็ดขาด ซึ่งแน่นอนมันมี Yes and No แต่ขณะเดียวกันนั้น การพูดคุยกันน่าจะดีกว่า และการจัดระเบียบให้เป็นระเบียบเสียจะดีกว่า วันนี้บ้านเมืองเหมือนกับอยู่ในภาวะที่ไม่มีการจัดการ ไม่มีการบริหาร บ้านเมืองเปรียบเสมือนอยู่ในภาวะไม่มีการบริหารการจัดการ คงเลือกใช้แต่ Law and Order ซึ่งมันเป็นการขัดหลักที่จะให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีไม่แตกแยก
"ดังนั้นสรุป ผมขอแนะนำว่าก่อนจะมาบอกว่าจะแก้มาตรา 112 หรือไม่ ขอให้ไปเริ่มย้อนคิดว่าเมื่อตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคมต่างหาก ถ้ามีการจัดระเบียบให้ถูกต้องและมีการพูดคุยกับผู้เห็นต่างบ้าง ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และนำไปสู่การรักษากฎหมายที่เป็นธรรม และก็จะไม่มีใครเดือดร้อน แต่วันนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าประเทศขาดการบริหารการจัดการ เลือกที่จะใช้ Law and order เท่านั้น ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดดรามา หายใจยาวๆ มาเริ่มต้นใหม่ตามที่ผมแนะนำเบื้องต้น เพื่อความรัก เพื่อการถวายความจงรักภักดีที่ถูกต้อง ถูกทาง ไม่ให้เจ้านายต้องถูกครหาโดยที่ไม่รู้" นายทักษิณระบุไว้
ฝ่ายค้านแถลงไม่เสนอแก้ 112
จากนั้นมีท่าทีอย่างเป็นทางการตามมา ในวันพุธที่ 3 พ.ย. ณ ห้องแถลงข่าวอาคารรัฐสภา โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงผลการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถึงเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านพูดคุยกันชัดเจน ข้อสรุปเห็นพ้องกันว่า การบังคับใช้กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ทำให้เกิดนักโทษทางความคิดจากความเห็นต่าง พรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่อยากให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น หากเกิดขึ้น เขาต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือ ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ จะใช้เวทีสภาแก้ปัญหา จะรับทุกความเห็นเข้าสู่สภา ส่วนจะแก้อย่างไร ขึ้นอยู่กับประเด็นที่รับมา และกลไกของรัฐสภาที่จะดำเนินการ ส่วนจะมีการยกร่างนำเสนอเองหรือไม่นั้น ตรงนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ดำเนินการในส่วนนี้ แต่สมาชิกท่านใดจะเสนอก็เป็นสิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ นอกจากจะเน้นเวทีรัฐสภาเพื่อแก้ปัญหา เราจะไม่ปล่อยให้เกิดการแตกแยกแล้วไปแก้ปัญหานอกสภา คือสิ่งที่เราเป็นห่วงว่า หากปล่อยให้ปะทะกัน การแก้ปัญหานอกระบบ นอกสภาจะเกิดขึ้น ตรงนี้เราต้องป้องกัน เรียกร้องพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล หยุดเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองในการที่จะกล่าวหาหรือใส่ร้ายพวกเราฝ่ายประชาธิปไตย เพียงเพื่อจะกลบเกลื่อนปิดบังในสิ่งที่รัฐบาลประสบปัญหาอยู่ การที่ท่านทำแบบนี้จะทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้ง
“พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นตัวตั้งตัวตีในการล่าชื่อหรือผลักดันแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานนำปัญหาเข้ามาคุยในสภาเท่านั้น แต่ก็ไม่ตัดสิทธิ์ว่าพรรคไหนหรือสมาชิกท่านใดจะนำเสนอขอแก้ไข เพราะไม่อยากให้นำปัญหาไปแก้กันบนถนนนอกสภา” นพ.ชลน่านกล่าว
เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยหยิบยกประเด็นการแก้ไข ม.112 เพื่อเรียกเรตติ้งจากคนรุ่นใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ฝ่ายการเมืองระมัดระวัง อย่าได้ใช้กฎหมายที่หมิ่นเหม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่อันตราย จะทำให้กฎหมายบิดเบี้ยวขาดความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสถาบัน ถ้าใช้อย่างพร่ำเพรื่อจะส่งผลกระทบทั้ง 2 ด้าน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเรื่องนี้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มุ่งหมายว่าจะแก้อย่างไร หน้าที่เราคือรับเรื่องมากก่อน ส่วนจะแก้อย่างไรเป็นหน้าที่ของรัฐสภาตามประเด็นที่เสนอเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มีสภาพการบังคับใช้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เริ่มต้นจากตำรวจ อัยการ ศาล เหล่านี้คือกระบวนการยุติธรรม ซึ่งแล้วแต่เขาเสนอเข้ามา พรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไร เราอย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ จะกลับไปวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม มีการปะทะทางความคิดที่แตกแยกกัน
เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงมุมมองต่อการแก้ไข ม.112 ซึ่งดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะน้อมรับความเห็นดังกล่าว นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราฟังความเห็นทุกฝ่ายทุกคน ส่วนจะนำเข้าสู่สภาในมุมไหนหรืออย่างไร ก็เป็นตามไปสภาพนั้น เราต้องยอมรับความเห็นทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นตัวกลางในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นหน้าที่ ซึ่งจะปล่อยให้ไปสู้กันบนถนนไม่ได้ ส่วนจะเป็นไปตามความเห็นของผู้ใด ก็เป็นไปตามระบบรัฐสภาที่ใช้เสียงข้างมาก ผ่านกระบวนการแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่มิชอบ เราสามารถใช้กลไกรัฐสภาตรวจสอบและควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนนี้ได้ เช่น การตั้งกระทู้ถามสด และนำเข้าสู่กรรมาธิการเพื่อตรวจสอบ อาทิ ทำไมไม่ให้ประกันตัวว่าเพราะอะไร หรือเสนอเป็นญัตติด่วนก็ได้ โดยทำได้หลายมิติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีท่าทีดังกล่าวออกมาจากนายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทยที่แถลงเปลี่ยนท่าทีไม่เสนอแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ปรากฏว่าโลกโซเชียลมีเดียมีการแสดงความเห็นต่อท่าทีดังกล่าวตามมามากมาย โดยเฉพาะความเห็นจากนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มผู้นำทางความคิดของฝ่ายผู้สนับสนุน กองเชียร์ม็อบสามนิ้วและกลุ่มที่เห็นด้วยในการให้ยกเลิก 112 ที่โทนออกมาในแนวไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดของนายทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องมาตรา 112 รวมถึงท่าทีของเพื่อไทย
อย่างเพจ "เยาวชนปลดแอก" เครือข่ายของกลุ่มราษฎร หรือม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ "ยกเลิก 112 วันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า" โดยระบุตอนหนึ่งว่า "หากพรรคการเมืองใดเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแท้จริง ย่อมต้องเห็นแล้วว่ามาตรา 112 และสถาบันกษัตริย์นั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยขนาดไหน ทุกวันนี้เยาวชนและประชาชนพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ติดคุกล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ ทำไมยังมีนักการเมืองที่อ้างว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยยังกล้ามาพูดว่าตัวบทมาตรา 112 ไม่มีปัญหา? การยกเลิกมาตรา 112 คือก้าวแรกของการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์"
ก้าวไกลดิ้นเอาร่างที่ตีตกกลับมา
ขณะที่ทางพรรคก้าวไกล ที่มีท่าทีชัดเจนว่าสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 112 มาตลอด ก็มีการแถลงข่าวที่รัฐสภาตามมาเช่นกัน โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าว
นายชัยธวัชแถลงว่า ความคืบหน้าของการเสนอชุดร่างกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เคยยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 5 ร่างประกอบด้วย 1.ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) เป็นการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการเอาผิดต่ออาชญากรรมในระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เป็นการนำกฎหมายไปใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ 2.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ..… 3.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่…) พ.ศ.…. ซึ่งทั้ง 2 ฉบับนี้ เพื่อสร้างกลไกคุ้มครองประชาชนจากการถูกฟ้อง คดีปิดปาก โดยหน่วยงานรัฐหรือเอกชน ในกรณีที่ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเด็นสาธารณะต่างๆ หรือตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐและเอกชน
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า 4.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.…. มีการแก้ไขเพื่อเพิ่มบทลงโทษกรณีเจ้าหน้าที่บิดเบือนกฎหมาย และ 5. ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ..… เป็นการแก้ไขเกี่ยวกับฐานความผิดหมิ่นประมาททั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ดูหมิ่นศาล รวมทั้งความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย ต่อองค์พระมหากษัตริย์ เพื่อประกันเสรีภาพ ในการแสดงออก ให้ได้สัดส่วนกับการเคารพสิทธิหรือชื่อเสียงของประมุขของรัฐ และบุคคลอื่น ให้สอดคล้องกับหลักเสรีภาพ ในระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่
“ถึงวันนี้ปรากฏว่ามีเพียงร่างกฎหมาย 4 ฉบับแรกเท่านั้น ที่ถูกนำเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบเพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับสุดท้าย ซึ่งมีการแก้ไข ม.112 ถูกโต้แย้งโดยสำนักการประชุม และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามลำดับ ว่ามีบทบัญญัติที่อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ม.6 ที่ว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”นายชัยธวัชกล่าว
นายชัยธวัชเปิดเผยว่า ต่อมาพรรคก้าวไกลทำหนังสือชี้แจงสำนักการประชุม สภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และจะยื่นหนังสือต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและประธานสภาฯ อีกครั้ง 3 พ.ย. เพื่อยืนยันว่าเมื่อพิจารณาจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และหลักของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ร่างแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลไม่ได้มีเนื้อหาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 6 แต่อย่างใด จึงขอให้ประธานสภาฯ นำร่างดังกล่าวบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมโดยเร็ว
นายชัยธวัชกล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอย้ำว่า การจะธำรงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้คงอยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตย ไม่สามารถจะบรรลุได้ด้วยการใช้อำนาจกดบังคับ หรือใช้กฎหมายปราบปรามการแสดงออกของประชาชน แต่สถาบันการเมืองใดๆ ในสังคมสมัยใหม่ย่อมดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความชอบธรรมและความยินยอมพร้อมใจจากประชาชน
"ปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังเรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจต้องคืนสิทธิในการประกันตัวให้แก่ผู้ต้องหาคดี ม.112 รวมถึงคดีความมั่นคงอื่นๆ และใช้กลไกทางการเมืองในการยุติคดีการเมืองต่างๆ ไม่ควรมีใครต้องอยู่ในคุก เพราะการแสดงออกทางการเมือง ในที่สุดหากต้องนิรโทษกรรมคดีการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมก็จำเป็นต้องทำ ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยต้องตระหนักและเปิดพื้นที่ปลอดภัยในการทบทวนและแก้ไข ม.112 เพื่อหาข้อยุติที่แต่ละฝ่าย ซึ่งมีความคิดทางการเมืองต่างกันพอจะรับกันได้ พรรคก้าวไกลหวังว่าเมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสู่สภาแล้ว จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนที่จะสายเกินการณ์ ไม่มีทางที่เราจะมีการเมืองที่มีเสถียรภาพมั่นคงได้ หากเรายังมีระบบกฎหมายที่ล้าหลัง ไม่เห็นคนเป็นคนเสมอหน้ากัน ไม่มีทางที่เราจะมีเศรษฐกิจสังคมที่เจริญก้าวหน้าและเป็นธรรมได้ หากเรายังอยู่ในรัฐโบราณที่ประชาชนไม่ใช่เจ้านาย ประชาชนไม่ใช่เจ้าของประเทศ” เลขาธิการพรรคก้าวไกลบอกชัด
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลพยายามดึงการเมืองกับสถาบันมาร่วมกัน นายชัยธวัชกล่าวว่า เราตัดสินใจที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในพรรคก้าวไกล และนำเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถานการณ์การเมืองนอกสภา ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาจะทำ แต่เพราะมีสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองข้างนอกที่มีการใช้กฎหมายมาตรา 112 และมีคดีมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ และเราคิดว่าในฐานะพรรคการเมือง ผู้แทนราษฎร และพื้นที่สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถที่จะงดเว้นหรือไม่สนใจที่จะเอาเรื่องนี้มาอภิปรายกันได้
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการผลักดันไปจนถึงการยกเลิกมาตรา 112 นายชัยธวัชกล่าวว่า มีบางคนเห็นว่าควรจะยกเลิก บางคนบอกไม่ควรจะยกเลิก ควรจะเพิ่มโทษ ข้อเสนอของเราถือเป็นข้อเสนอที่อยู่ตรงกลางที่พอจะคุยกันได้ และใช้เวทีสภาให้ดีที่สุด สำหรับการคลี่คลายความเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง แต่หากพื้นที่สภาไม่เปิดให้กับเรื่องที่เป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างแหลมคมอยู่ ก็เป็นไปได้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้รับการแก้ไข และสะสมความไม่พอใจไปเรื่อยๆ จนนำไปสู่การยกเลิกในอนาคต และอาจมีปัญหาทางการเมืองอื่นๆ ตามมาอีก
ด้านท่าทีจากฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวย้ำเรื่องการแก้มาตรา 112 ว่า “ยืนยันไม่มีการเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 ในฐานะที่ผมเป็นนายกฯ รัฐบาล และการพิจารณาเรื่องนี้ในการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะจบไปแล้วในวาระที่ 1 จึงขออย่าขยายความเป็นเรื่องฝ่ายไหนว่ากันไป ขณะเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องความมั่นคงของประเทศ จึงขออย่าทำลายสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศเคารพนับถือ ซึ่งบางคนอาจไม่เข้าใจ แต่หวังว่าวันข้างหน้าจะเข้าใจมากขึ้น และเรียนรู้มากขึ้น เพราะทุกประเทศมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไม่มีใครคิดจะลบล้างสิ่งดีๆ ที่สืบทอดกันมา แล้วทำสิ่งใหม่ที่ไม่มีกฎกติกา”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.เหล่าทัพอุบไต๋ กม.สกัดยึดอำนาจ ลุ้นงบฯ4โครงการ
ผบ.เหล่าทัพสงวนท่าที กม.สกัด "ปฏิวัติ" ประสานเสียงยังไม่เห็นรายละเอียด
ไฟเขียว‘ธนาธร’ชวนสมัครสว.
"เลขาฯ กกต." ไฟเขียว "ธนาธร" ชวนคนลงสมัคร สว.ได้
โวขึ้นค่าแรง400 คนทำงานบ้าน ลาคลอด98วัน
เทกระจาด! โฆษกรัฐบาลเผยข่าวดีรัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน
‘พิมพ์ภัทรา’ไล่ส่งอธิบดีกรอ. ก.ก.จวกโรงงานไฟไหม้ถี่ยิบ
"พิมพ์ภัทรา" ปัดยังไม่เห็นหนังสือลาออก "อธิบดีกรมโรงงานฯ" ชี้ทำงานเพื่อ ปชช. มานั่งท้อเสียกำลังใจไม่ได้
‘พิชิต’คอพาดเขียง! กฤษฎีกาโยนศาลรธน.ชี้ขาด‘ความซื่อสัตย์-ผิดจริยธรรม’
รมต.ใหม่ตรวจโควิดก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ วันศุกร์ "พิชัย" ขึ้นตึกบัญชาการ ห้องทำงานรองนายกฯ
'ชัยธวัช' เมิน 'ทักษิณออนทัวร์' ปลุกระแสชี้ของอย่างนี้ขึ้นกับปชช.
'ชัยธวัช' ชี้ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนนิยมก้าวไกล เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของ สส. มองลงพื้นที่ที่ผ่านมา ก็หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม พท.แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.