โชว์บัตรเลือกอบต. โพลมาใช้สิทธิ์53% ระดมตร.8หมื่นคุม

กกต.โชว์บัตรเลือกตั้ง อบต. สีแดงเลือกนายก-สีน้ำเงินกาสมาชิก "สมชัย" เหน็บใสซื่อมาก ระวังเปิดช่องโกง "จรุงวิทย์" จ่อส่งหนังสือแจง สธ. ย้ำเหตุเตือน อสม.ป้องทำผิดกฎหมาย กกต.ปลื้มโพล ปชช.ยันออกมาใช้สิทธิ์ 53% เร่งประชาสัมพันธ์ดันให้ถึง 80% ตร.ระดม 8.6 หมื่นนายดูแล 28 พ.ย.

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการเผยแพร่สีบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.นี้ โดยมีรูปบัตรเลือกตั้ง 2 แบบคือ บัตรเลือกนายก อบต. จะเป็นบัตรสีแดง พื้นบัตรสีแดงอ่อน และบัตรเลือกสมาชิกสภา อบต. จะเป็นบัตรสีน้ำเงิน โดยพื้นบัตรเป็นสีน้ำเงินอ่อน

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า มาตรฐานใหม่ของ กกต. การเผยแพร่รูปแบบและสีบัตรก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งในอดีตสีบัตรเลือกตั้งจะเป็นความลับ มีคนรู้ไม่กี่คน และบอกให้ประชาชนรู้เมื่อถึงวันเลือกตั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการพิมพ์บัตรปลอมหรือป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง กกต.ชุดปัจจุบันกลับคิดต่าง โดยเผยแพร่รูปแบบและสีบัตรล่วงหน้าเป็นเวลาร่วมเดือนก่อนวันเลือกตั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนไม่กาผิดใบ

ผลที่ตามมาคือ 1.การหาเสียง ผู้สมัครจะนำรูปแบบบัตรไปใส่เบอร์ตนเอง แจกจ่ายให้ประชาชนจดจำ โดยอาจทำในขนาดใกล้เคียงบัตรจริง หรือกระดาษที่คล้ายจริงได้ 2.วันเลือกตั้ง อาจมีการนำบัตรคล้ายจริงเข้าไปหย่อนแทนบัตรจริงแล้วลักลอบนำบัตรจริงออกมาหมุนเวียน เพื่อซื้อเสียง 3.บัตรปลอมในหีบอาจมีแค่ 1 ใบ แต่การหมุนเวียนนำบัตรจริงออกมานอกหน่วยเพื่อกาเบอร์ที่ต้องการแล้วนำไปหมุนเวียนนำบัตรเปล่าออกมากานอกหน่วย อาจทำให้เกิดผลแพ้ชนะเป็นร้อยเป็นพันคะแนนได้ และ 4.เมื่อนับคะแนนอาจมีบัตรขาดหรือเกิน ตำนานบัตรเขย่งจึงเกิดขึ้นแบบนี้ โดยนายสมชัยระบุตอนท้ายด้วยว่า “กกต. ใสซื่อมาก”

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ท้วงติงเรื่องที่ กกต.ได้ออกหนังสือแจ้งให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นผู้สมัคร อบต. รวมถึงเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ขณะนี้ กกต.กำลังร่างหนังสือชี้แจงกลับไปยัง สธ. ซึ่งการที่ออกหนังสือแจ้งนั้นเพื่อให้ผู้สมัครที่เป็น อสม. และผู้ช่วยหาเสียงได้รู้และระมัดระวังตัวในการหาเสียง และการดำเนินการต่างๆ เพื่อไม่ให้เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะมีเรื่องร้องเรียนมายัง กกต. เนื่องจากบทบาทของ อสม.ค่อนข้างที่จะมีมาก ส่วนเรื่องการช่วยเหลือดูแลในเรื่องของโควิด-19 สามารถทำได้ แต่ต้องดูด้วยว่าอาจจะถูกร้องเรียนในเรื่องที่ทำ ทั้งนี้ กกต.ย้ำเตือนทั้ง อสม.และพรรคการเมือง เพราะไม่อยากให้มีการทำผิดกฎหมาย มีเจตนาขอความร่วมมือ โดยมีเพียงวัตถุประสงค์เดียวคือทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังร่วมกับนายธนสุวิทย์ ทับหิรัญรักษ์ ที่ปรึกษา อปท.นิวส์โพล ร่วมแถลงข่าวผลการสำรวจการรับรู้ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง อบต. ในหัวข้อ “ถามใจคนท้องถิ่น ใช้สิทธิเลือกตั้งอบต.” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงการรณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้เกิดประสิทธิภาพก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง โดยนายธนสุวิทย์กล่าวว่า สำรวจระหว่างวันที่ 19-25 ต.ค.64 โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 5 ภาค ภาคละ 3 จังหวัด รวม 15 จังหวัด จังหวัดละ 150 ราย รวมทั้งสิ้น 2,756 คน ซึ่งจากผลสำรวจร้อยละ 86 ทราบแล้วว่าจะมีการเลือกตั้ง อบต.วันไหน มีเพียงร้อยละ 14 ที่บอกว่าไม่ทราบ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้ง อบต.ทำให้นึกถึงเรื่องใดมากที่สุด ร้อยละ 50 ตอบว่าการพัฒนาท้องถิ่น, ร้อยละ 26 นึกถึงประชาธิปไตย และร้อยละ 25 นึกถึงสิทธิของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ร้อยละ 58 เห็นว่าการเลือกตั้ง อบต.มีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเอง มีเพียงร้อยละ 26 ตอบว่าไม่แน่ใจ และร้อยละ16 ตอบว่าไม่มีผล ส่วนความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้มีความสุจริต โปร่งใส หรือไม่ มีเพียงร้อยละ 31 ที่เชื่อมั่น, ร้อยละ 50 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 19 ไม่เชื่อมั่น และเมื่อถามว่าวันที่ 28 พ.ย.นี้จะไปเลือกตั้ง อบต.หรือไม่ ร้อยละ 53 ตอบว่าไปแน่นอน, ร้อยละ 27 คิดว่าจะไป มีร้อยละ 17 ที่ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 3 ที่บอกว่าไม่ไป สำหรับปัจจัยใดจะส่งผลต่อการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 34 ตอบว่าเป็นนโยบายการหาเสียง รองลงมาร้อยละ 27 คือคุณสมบัติของผู้สมัคร

นายธนสุวิทย์กล่าวว่า หาก กกต.เร่งประชาสัมพันธ์ จะทำให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง อบต. และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีความปลอดภัยเมื่อออกไปใช้สิทธิ์ จะทำให้ตัวเลขของผู้ที่คิดว่าจะไป และยังไม่แน่ใจว่าจะไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 28 พ.ย. เปลี่ยนใจไปใช้สิทธิ์ และทำให้ตัวเลขผู้ที่มั่นใจไปใช้สิทธิ์แน่นอนร้อยละ 53 สูงขึ้นถึงร้อยละ 80

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง อบต. ว่า การเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 60,414 หน่วย โดยมีพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง 211 แห่ง 39 จังหวัด อาจมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง จึงให้ตำรวจเข้าไปประชาสัมพันธ์ตักเตือนอย่าให้มีการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ได้ประชุมเจาะลึกทุกพื้นที่ว่ามีพื้นที่ใดมีผู้มีอิทธิพล และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษไม่ให้เกิดเหตุร้าย รวมทั้งกำหนดแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนถึงวันเลือกตั้งด้วย โดยใช้กำลังตำรวจทั้งสิ้น 86,844 นาย สำหรับวันที่ 28 พ.ย.นี้ ที่ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เราเตรียมความพร้อมตำรวจจราจรไว้คอยอำนวยความสะดวกในวันดังกล่าวด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขา กกต.โยนบาปรัฐธรรมนูญ! บอกการคัดเลือก สว.แก้ไขไม่ได้

'เลขา กกต.' มองคงแก้อะไรไม่ได้ แม้ถูกทักท้วง รูปแบบ’คัดเลือก สว. เหตุ รธน.กำหนดไว้ ชี้ไทม์ไลน์ ไม่เหมือน เลือกตั้ง สส. ยันมีมาตรการป้องกันการฮั้วทุกพื้นที่