ปชป.ซัดภท.‘ราชสีห์ไม่น่าเห่า’

"เสี่ยหนู" ขนลูกพรรคลงใต้  ปะทะประชาธิปัตย์ ชูนโยบาย "ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ" มักน้อยไม่ต้องเอาเป็นภาค เอาเป็นจังหวัด ขณะที่ "นาที" แม่ทัพภาคใต้ขอ 20 บวก จาก 58 เขต "ราเมศ" โวย เด็กภูมิใจไทยพาดพิง "จุรินทร์" กรีด! ราชสีห์ไม่น่าจะเห่าเป็น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม   2565 ที่บริเวณลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นางนาที รัชกิจประการ แกนนำพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้  และ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค ได้มาร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ประกอบด้วย นายกิตติ กิตติธรกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 1, นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2, นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ เขต 2 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 3 และนายกิตติชัย เอ่งฉ้วน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก  มีชาวกระบี่มาร่วมกิจกรรมประมาณ 3,000 คน ทั้งนี้ บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้สลับกันขึ้นปราศรัยชูนโยบายโครงการพัฒนาในพื้นที่ พร้อมย้ำ “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” ด้านที่ชาวบ้านได้มีการชูป้าย “พูดแล้วทำ ยกทั้งจังหวัด”

นายอนุทินกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า  วันนี้ตนและทีมงานมาจาก กทม. ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้มาพบพี่น้องชาวกระบี่ ตนมีแฟนเป็นคนใต้ที่เพิ่งคบกันมา 1 ปี เลยพูดใต้ยังไม่ชัด แต่ถ้าคบกันไปนานๆ แล้วคนใต้ยังไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย ก็คงต้องลาออกแล้ว ทั้งนี้ขอให้เลือกส.ส.กระบี่ของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 3 คน กาทั้งสองใบ ท่านจะได้มี ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 1 คนมารับใช้พี่น้องชาวกระบี่ ถ้าได้ 4 คน จ.กระบี่ต้องเจริญกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า แต่ถ้ามี 4 คน ยังทำประโยชน์ไม่ได้ จะไม่มีวันเรียกตัวเองว่าเป็นคนอีกต่อไป

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพรรคได้เข้าไปในสภา มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล มี รมว.สาธารณสุข, รมว.คมนาคม และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เราตั้งใจทำงาน 3 กระทรวงนี้ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยว คมนาคมที่เราได้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ ขอให้ท่านเลือกพรรคภูมิใจไทยเพิ่มมากขึ้น จาก 3 กระทรวงจะได้เป็น 10 กระทรวง จะได้ทำงานได้ครบทุกด้านมากขึ้น จ.กระบี่เป็นจังหวัดเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย กระบี่ต้องทัดเทียมภูเก็ต โดยให้ จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา เป็น 3 จังหวัดแกนนำกลุ่มอันดามัน

“วันนี้พรรคภูมิใจไทยมาเสนอตัวให้พี่น้อง ถ้าท่านไว้วางใจ พวกเราจะได้ทำงานได้เต็มรูปแบบเต็มที่ เราจะพลิกความขัดแย้งทั้งหมดมาเป็นความสามัคคี ให้ประชาชนมีสุขภาพดี สร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ จากนี้ไปจะช้าเร็วไม่เกิน 1 ปี พี่น้องจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าท่านเลือกคนเดียวก็จะได้แรงเดียว ทำงานเต็มที่ไม่ได้ แต่ถ้าท่านเลือก 3 คนบวก 1 คน เป็น 4 คน จ.กระบี่ ก็จะมีรัฐมนตรี ผมไม่ได้โม้เวลาที่พูดว่าจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผมพูดตามข้อเท็จจริง ถ้าได้ยกจังหวัดทำไมจะให้ จ.กระบี่ไม่ได้ ไม่ต้องเอาเป็นภาค เอาเป็นจังหวัดไปเลย” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุ

ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน

นายอนุทินยังกล่าวบนเวทีถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยเกณฑ์ อสม.มาร่วมงานในวันนี้ด้วยว่า "ก่อนมามีคนดูถูกเราว่าผมมาต้องเกณฑ์ อสม.มาฟัง จะเกณฑ์ทำไม ผมต้องมาหา อสม. ไม่ใช่อสม.มาหาผม อสม.คือหัวใจของ รมว.สาธารณสุข ถ้าไม่มี อสม.ก็เดินไม่ได้ ที่บอกว่าเกณฑ์มาไม่ใช่เรื่องจริง ท่านมาเพราะอยากเจอผมใช่หรือไม่"

นายอนุทินเผยว่า ขณะนี้ อสม.รับเงินค่าตอบแทน 1,500 บาทมา 2 ปีแล้ว เราจะอยู่ที่เดิมทำไม มันต้องเพิ่มขึ้นเอาไปเลย 2,000 บาท เพราะ อสม.เป็นหมอคนแรก ทำงานให้บ้านเมืองนี้มากมาย ทำให้สุขภาพประชาชนดีขึ้น

เขายังกล่าวถึงนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า เราจะเสนอนโยบาย “ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน” ตัวอย่างเช่น จ.กระบี่ เสียภาษีให้รัฐ 100 บาท เราจะขอ 30% นำมาพัฒนาจังหวัดให้ภาษีจกมาถึงจังหวัด เป็นการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน นโยบายนี้ประชาชนสามารถสั่งให้ภาษีรัฐลงมาพัฒนาบ้านเกิดได้

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุอย่าด้อยค่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่มี เราไม่เคยด้อยค่าใครอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถูกกระทำมาโดยตลอด เราไม่เคยไปฟ้องร้องหรือทำอะไร หรือให้ร้ายกับคู่แข่งเลย มีแต่เราถูกคู่แข่งให้ร้ายว่ากล่าว และถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยด้วยซ้ำ มาวันนี้ยังถูกกล่าวหาว่าขน อสม.มา ทั้งที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เรามาทำงาน มาเสนอนโยบายให้กับประเทศชาติ ไม่เคยไปท้าตีท้าต่อยกับใครอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าฝั่งอันดามันจะแลนด์สไลด์ นายอนุทินกล่าวว่า มั่นใจ เพราะว่าเราทำงาน มีนโยบายที่ดี และผู้สมัครเข้าใจนโยบายของเรา และอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา แข่งกันทำความดี แล้วชาวบ้านจะเป็นคนเลือกเอง เมื่อถามว่ารองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์บอกว่าให้หัวหน้าพรรคสั่งสอนลูกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสั่งสอนทุกวันให้ดูแลประชาชน ให้ทำความดี ให้ทุ่มเทเสียสละ ให้ทุ่มชีวิตให้กับประชาชน เหมือนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค

ด้านนางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิก พรรคภูมิใจไทย ในฐานะแม่ทัพภาคใต้ กล่าวถึงกระแสการแข่งขันการเมืองในภาคใต้อย่างรุนแรงในพื้นที่ว่า เราทำการเมืองอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และสิ่งที่ตัวเองเคยรับปากไว้ ซึ่งเราพูดและเราทำวันนี้จึงมาขอโอกาส ซึ่งเดิมได้ ส.ส. 8 คน และบัญชีรายชื่อ 3 คน วันนี้เรามาขอเติมเต็มจากพี่น้องภาคใต้ให้เราได้สร้างและพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าเดิม และเติมเต็ม เพราะที่ผ่านมาเราขาดโอกาสมานาน โดยเฉพาะการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว ในฐานะที่พรรคมี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ภาคใต้ไม่ได้แพ้ใครในโลก แต่เราแค่ขาดโอกาสในการพัฒนาพื้นที่เท่านั้น

ภูมิใจไทยขอ 20 ที่นั่งภาคใต้

“เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง และเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพรรคภูมิใจไทย และวันนี้ขอขอบคุณที่พรรคการเมืองเกิดขึ้นมากมายเพื่อเป็นทางเลือกประชาชน ส่วนเรื่องการเมืองไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แล้วแต่ใครจะคิด แต่ในฐานะที่เป็นแม่ทัพภาคใต้ เราไม่เคยคิดว่ามีปัญหากับใคร เพราะเราทำการเมืองเพื่อปากท้องประชาชน ดังนั้นในแง่ความขัดแย้งเราไม่มี"

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้า ส.ส.กี่คนนั้น นางนาทีกล่าวว่า 20 บวก ถือว่ามากหรือไม่จาก 58 เขต ซึ่งเราขอแค่ 20 บวก ไม่ได้อะไรมากมาย และหากเราได้ 20 บวก จะทำให้ภาคใต้โตอย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล เช่น จังหวัดพัทลุงโต 400%

ถามว่า นายจุรินทร์ประกาศว่าจะเอา 40 ที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้ นางนาทีตอบว่า “ดิฉันมักน้อย ขอแค่ 20 บวกพอ ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ถ้าหากพี่น้องให้โอกาสพวกเรา จะทำให้ดู และทำให้ภาคใต้มีรายได้ให้ประชาชนอย่างมหาศาล และที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำแบบขาดๆ หายๆ" นางนาทีกล่าว

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พาดพิงนายจุรินทร์ไม่มีความรับผิดชอบในเรื่องพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวิธีการในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนาน มีความรับผิดชอบ ไม่ต้องมากังวลแทนพรรค และเชื่อมั่นประชาชนจังหวัดพังงาจะวางใจสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนพรรคไหนจะส่งใครลงเขตไหน จังหวัดใดบ้างนั้น พรรคประชาธิปัตย์มีหลักการชัดคือ จะไม่ไปก้าวก่ายใคร จะไม่ไปยุ่งเรื่องของพรรคอื่น ขอให้ไปเปิดพจนานุกรมดูว่าไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมีความหมายว่าอะไร พรรคไหนจะอ้างว่าตนเป็นราชสีห์ เป็นสัตว์ประเภทใดก็ว่ากันไป แต่ที่น่าแปลกใจคือความจริงแล้วราชสีห์ไม่น่าจะเห่าเป็นเท่านั้นเอง

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสฤษฏ์พงษ์รู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ได้ยินอยู่เต็มสองหู ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานที่ทำเพื่อประชาชนรวมถึงคนภาคใต้มาโดยตลอด โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้ ที่วันนี้ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า แต่เลือกที่จะกล่าวหาบิดเบือนเพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้พรรคตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าตำหนิและเป็นนิสัยของคนขี้แพ้ที่กลัวตั้งแต่ยังไม่ลงแข่ง

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสฤษฏ์พงษ์พาดพิงนายจุรินทร์เรื่องการบริหารจัดการของพรรคนั้น เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ผิดมารยาททางการเมือง ถือเป็นเรื่องภายในของพรรค จึงอยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรค ได้สั่งสอนมารยาททางการเมืองให้กับลูกพรรคบ้าง

พรรคการเมืองผูกขาดพื้นที่

“พรรคยังมั่นใจว่าพรรคยังเป็นความหวังให้กับพี่น้องชาวใต้ และมีความมั่นคงในอุดมการณ์มาตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน คุณสฤษฏ์พงษ์ไม่ต้องเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์และท่านจุรินทร์ เพราะท่านจุรินทร์เติบโตมากับพรรค ซึมซับอุดมการณ์ที่มั่นคง ไม่ได้ย้ายพรรคไปเรื่อยๆ แบบคนไม่มีอุดมการณ์ ที่หวังแต่จะคว้าชัยชนะ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสิน และหากมั่นใจในคะแนนนิยมจริง หวังว่าการลงพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยจะได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างเนืองแน่น และไม่มีการเกณฑ์ อสม.มารอต้อนรับ” นางดรุณวรรณกล่าว

ขณะที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้กรณีที่นางดรุณวรรณว่าพรรคภูมิใจไทยมีวัฒนธรรมในความเชื่อมั่นวุฒิภาวะของสมาชิกทุกคน ซึ่งคำพูดของนายสฤษฏ์พงษ์ เป็นเพียงการพูดถึงรายงานผลงานของพรรคในพื้นที่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาว่ามีผลงานอะไรบ้าง ตามสโลแกน "พูดแล้วทำ" จึงจำเป็นที่อาจจะมีบางคำไปกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำใจ

อีกทั้งสิ่งที่นายสฤษฏ์พงษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองอื่นๆ นักวิชาการ และประชาชนเคยวิจารณ์มาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ควรเปิดใจให้กว้าง รับฟังคำวิจารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น หรือหากคำพูดดังกล่าวไม่เป็นความจริง ก็ควรจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ แทนการออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ

"ผมอยากเห็นความคิดและคำพูดของนักการเมืองที่ใจกว้าง รับฟังคำวิจารณ์ได้ เพราะมันจะทำให้เกิดการพัฒนา การแข่งขันกันทำงานมากกว่าการแข่งขันกันโต้วาที เพราะปัจจุบันการเมืองเปลี่ยนแปลงและมีพัฒนาการที่ก้าวไปข้างหน้าจนแซงคำว่า "พรรคการเมืองผูกขาดพื้นที่" เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปจนมีพรรคที่สามารถทดแทนพรรคผูกขาดพื้นที่ได้ ตรงนี้เป็นเรื่องอันตรายสำหรับนักการเมืองที่ไม่ยอมรับคำวิจารณ์เพื่อแก้ไขปรับปรุง ยืนยันว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยเล่นเกมตามกติกา และเต็มที่กับการแข่งขันในทุกสนาม แต่เมื่อจบเกม ทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน" นายณัฏฐ์ชนนกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง