ปปช.สอบสว.ฝากสตท.หญิงโกงทุกเม็ด

"ป.ป.ช." ขยับสอบปมฉาว ส.ว.เอี่ยวแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง ขณะที่ "สิงห์ศึก" เดือดอย่าเหมารวม ส.ว.ทั้งหมด ทวงลั่นใครรับผิดชอบหากไม่ใช่ ด้าน “ผบ.ทบ.” ระบุต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันชำแหละปรากฏการณ์โกงทุกระดับ ยิ่งขุดยิ่งบิดเบี้ยวที่รอคอยการปฏิรูป ทั้งตำรวจ ทหาร กระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นให้ตรวจสอบเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ในการบรรจุแต่งตั้ง  ส.ต.ท.หญิงและฝากบุคคลภายนอกแต่งตั้งบุคคลภายนอกเป็น ส.ท.หญิง โดยมีการพาดพิง ส.ว.คนหนึ่งว่า หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ส.ส.หรือ ส.ว.และเป็นเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือการแต่งตั้งที่มีการช่วยเหลืออะไรกัน ถือว่าอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการตรวจสอบได้ เพราะเป็นเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว

หลังจากนี้จะเข้าสู่ระบบที่จะมีการตรวจรับว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่ และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องไปดูว่ามีการแต่งตั้งเข้ามาอย่างไร  ใครเป็นคนแต่งตั้ง มีคุณสมบัติหรือไม่ เปิดรับสมัครอย่างไร  ต้องไปดูข้อเท็จจริงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตามหลักกฎหมาย  ป.ป.ช.สามารถหยิบยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นมาดำเนินการไต่สวนได้เอง โดยจะมีสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษคอยตรวจสอบข่าว และรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน” นายนิวัติไชยกล่าว  

ที่รัฐสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา  คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา  กล่าวว่า วุฒิสภามีคณะกรรมการจริยธรรมอยู่แล้ว โดยมีรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธาน และประกอบด้วยประธานหรือผู้แทนคณะกรรมการกิจการสามัญตามข้อบังคับ  ซึ่งตามคำร้องนั้นทราบว่าไม่ได้ระบุผู้ถูกร้อง เรื่อง และข้อบังคับที่ผิด ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูล และในช่วงสัปดาห์นี้ประสานกลับไปยังนายวัชระ ผู้ร้อง ว่าร้องใคร เรื่องอะไร  และผิดข้อบังคับใด วันไหนที่ส่งข้อมูลมา วันนั้นจะเริ่มนับหนึ่ง ตามกรอบเวลา 60 วัน และขยายได้สูงสุด 120 วัน  ถ้าไม่ระบุผู้ถูกร้องแล้ว เราไม่มีหน้าที่จะไปไล่สอบสวน หาข้อมูลว่าจะเป็นใคร จะไปเหมารวมว่าเป็น ส.ว.มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นต้องระบุว่าผู้ถูกร้องเป็นใคร นาย ก. นาย ข. เราก็จะไปถามว่าใช่หรือไม่ สังคมและสื่อต้องช่วยกัน ตอนนี้ระบุแค่ ส.ว. จะจริงเท็จหรือไม่ หากไม่ใช่ ส.ว.แล้วสังคมหรือสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปใครจะรับผิดชอบ จะมีใครสักคนไหมที่จะมาขอโทษ ส.ว. อย่าเหมารวมว่าสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด  แล้วเอาจิตที่เป็นอคติต่อสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้มา” พล.อ.สิงห์ศึกกล่าว

ด้าน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนทั้งหมด และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาได้เพราะเกี่ยวข้องกับหลายคน

ขณะที่ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊กระบุใจความว่า "กรณีนี้โกงทุกขั้นตอน โกงทุกประเด็น โกงทุกคนทุกหน่วยงานที่เป็นข่าว แม้ใบรับรองแพทย์และวุฒิการศึกษา รวมทั้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและการละเมิดจริยธรรมของนักการเมืองและข้าราชการยังพิสูจน์เอาผิดยาก"

 “ยิ่งขุดยิ่งพบความบิดเบี้ยวที่รอคอยการปฏิรูป ทั้งตำรวจ ทหาร การบริหารราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและนิติบัญญัติทางออกเพื่ออนาคตควรเป็นอย่างไร  เราคงต้องตั้งหลักให้ชัดเจน แต่อย่ายอมให้ใครสรุปเอาง่ายๆ  ว่านี่แหละราชการไทย เพราะขืนปล่อยอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันจะกลายเป็นชะตากรรมอันหดหู่ที่ประชาชนไม่ได้สร้าง” ดร.มานะระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง