
“กรุงเทพธนาคม” เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง กรณีค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ยอมรับหนี้มีอยู่จริงแต่ขอศึกษาและเจรจาก่อนตัวเลขให้นิ่งก่อน พร้อมเล็งหารือ “บีทีเอสซี” ถึงแนวทางการชำระหนี้ต่อไป
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 นายธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ว่าเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีการอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในกรณีข้อพิพาทคู่กรณีระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี และจำเลยร่วม คือกรุงเทพมหานครและ เคที ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าว โดยจำเลยทั้งสองมีหน้าที่ร่วมรับผิดชอบในจำนวนเงินที่มีการฟ้องร้องกัน รวมวงเงิน 11,754 ล้านบาท
นายธงทองกล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัทร่วมกันชำระหนี้ค่าดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวโดยมีหนี้ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และหนี้ของส่วนต่อขยายที่ 2 อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการต่อสู้คดีมีมาก่อนกรรมการชุดนี้เข้ามา ซึ่งแม้ว่ากรรมการชุดนี้ได้พบว่ามีมิติทางกฎหมายบางประเด็นที่อยากจะเสนอให้ศาลได้พิจารณาใหม่ และได้นำเสนอไปแล้ว แต่เนื่องจากในกระบวนการพิจารณาคดีเป็นช่วงท้าย จึงยังไม่ได้โอกาสที่จะได้พูดคุยเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้บอร์ด เห็นพ้องกันที่จะอุทธรณ์คดีดังกล่าว ซึ่งมีระยะเวลาภายใน 30 วัน และหากจำเป็นต้องขอพิจารณาคดีใหม่ ก็จะดำเนินการควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะมีการหารือกับทางกรุงเทพมหานครในเร็วๆ นี้
สำหรับในเรื่องของจำนวนเงินที่ค้างชำระนั้น ยอมรับว่ามีหนี้สินที่ผูกพันระหว่างกรุงเทพมหานคร บีทีเอส และกรุงเทพธนาคม แต่จะผูกพันเป็นจำนวนเท่าไหร่จะขอนำคำพิพากษานี้ไปเป็นแนวทาง โดยยอดหนี้ที่เป็นตัวเลขที่พิจารณาแล้ว ไม่มีข้อกังวลสงสัย เป็นที่เข้าใจตรงกันทุกฝ่าย ก็จะดำเนินการชำระหนี้ต่อไป ซึ่งก็ต้องไปดูว่าจะต้องจ่ายอย่างไร วิธีการแบบใด ส่วนตัวเลขใดที่ยังมีข้อสงสัย ก็จำเป็นต้องนำมาพิจารณาให้รอบคอบ
“ขณะนี้บริษัทก็ได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาทบทวนตัวเลข ค่าต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะนำมาหารือกับทางกรุงเทพมหานคร และจะได้พูดคุยเจรจากับทางบีทีเอสต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้หารือกับทางผู้บริหารบีทีเอสไปแล้ว 1 ครั้ง ทั้งนี้การดำเนินการต่างๆ ของบริษัท ก็เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของกรุงเทพมหานครและประชาชน โดยต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม” นายธงทอง กล่าว
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กทม.เตรียมอุทธรณ์ หลังศาลปกครองกลางสั่ง กทม. ร่วมจ่ายหนี้บีทีเอสกว่าหมื่นล้าน โดยให้เหตุผลว่า ส่วนต่อขยายที่ 1 ก็ยังค้างอยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะว่าเขาจะเอามูลหนี้เป็นส่วนของการแปลงสัญญาสัมปทาน ส่วนต่อขยายที่ 2 ยังมีภาระกับกรุงเทพธนาคม (KT) เป็นแค่หนังสือมอบหมายงาน ทำให้ยังมีข้อกังวลว่า กทม.มีอำนาจจ่ายจริงหรือเปล่า เพราะไม่ได้มีระบุตัวเลขหรือสัญญาที่ชัดเจนเหมือนส่วนต่อขยายที่ 1 โดยจะเอาประเด็นนี้ไปชี้แจงในการยื่นคำอุทธรณ์
ทั้งนี้ ในคำพิพากษาของศาลปกครองกลางก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน ซึ่งในที่สุดใครจะเป็นผู้จ่ายนั้น สุดท้ายความรับผิดชอบก็ต้องมาตกอยู่ที่ กทม.อยู่ดี และก็ต้องใช้เงินที่มาจากงบประมาณของ กทม.ทั้งสิ้น การยื่นอุทธรณ์ทำให้คดีดังกล่าวถูกยื้อระยะเวลาออกไปอย่างน้อย 1 ถึง 3 ปี มิใช่ว่าจะสามารถพลิกคดีให้ชนะก็หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องของการผิดสัญญาโดยตรง
แม้ท่านผู้ว่าฯ จะขอให้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยในประเด็นปัญหาเพื่อความชัดเจน แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วไม่น่าจะคุ้มกับการที่จะต้องเสียดอกเบี้ยตลอดเวลา ทุกวินาที ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี จนกว่าคดีถึงที่สุด ตามที่ศาลระบุไว้คือ ตามอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ขั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ซึ่งประกาศโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับเงินกู้สกุลเงินบาทบวก 1% ต่อปี ซึ่งถ้ายื้อไป 1-3 ปี ดอกเบี้ยจะบวกเพิ่มอีกปีละ 769.15 ล้านบาท ลองคิดดูว่าคุ้มหรือไม่
กรณีดังกล่าว หากไม่เชื่อคำแนะนำ สุดท้าย กทม.ก็ต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดให้แก่เอกชนในที่สุดแล้ว ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจากการที่ท่านผู้ว่าฯ กทม.สั่งให้อุทธรณ์คดีนั้น ต้องมีผู้รับผิดชอบ จะผลักเป็นภาระของ กทม.ทั้งหมดเลยนั้น หาชอบด้วยไม่ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อถึงวันนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะต้องทวงถามความรับผิดชอบถึงท่านผู้ว่าฯ และผู้บริหารกรุงเทพธนาคมทุกคนที่จะต้องร่วมรับผิดชอบในดอกเบี้ยจ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นนี้ด้วย เพราะถือว่าบอกกล่าวกันแล้ว ไม่เชื่อก็ติดตามดูกันต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พังงาจับ4หนุ่ม ขนปืน-กระสุน ภูเก็ตสั่งคุมเข้ม
ตำรวจพังงาจับ 4 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงคราม ผงะ! เตรียมไปส่งที่ภูเก็ต
‘ปปช.’รับคดีชั้น14สุดอืด ธนกรดีดปากนิติสงคราม
เลขาฯ ป.ป.ช.รับคดีชั้น 14 อืด เหตุติดปัญหาขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่น
โพลชี้คนไทยยี้‘กาสิโน’ หวั่นสร้างความขัดแย้ง
"นิด้าโพล" เผย ปชช.มีคำถามคาใจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ที่รวม "กาสิโน" เพียบ!
ทักษิณลั่นซื้อหนี้เกิดปีนี้แน่!
“สวนดุสิต” พบเกินครึ่งหนุนแนวคิด “ทักษิณ” ซื้อหนี้ แต่หวั่นไม่โปร่งใสประโยชน์แอบแฝง
อยู่ในกติกาตอบได้! แม้วการันตีลูกอิ๊งค์เย้ยปชน.อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ
“ทักษิณ” ติวการบ้าน “อิ๊งค์” เชื่อตอบได้ทุกเรื่องตรงไปตรงมา
‘อิ๊งค์’ สนุกสนาน! โชว์ภาพดินเนอร์พรรคร่วมก่อนขึ้นเขียงอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ยิ้มก่อนเครียด! "แพทองธาร" โพสต์ภาพดินเนอร์พรรคร่วมฯ หัวเราะชื่นมื่น บอกสนุกสนาน-มีกำลังใจ