นิด้าโพลชูพิธา ซูเปอร์โพลดัน อนุทินไร้ขัดแย้ง

นิด้าโพลเผยผลสำรวจคนกรุง “พิธา” ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งนายกฯ   ส่วนลุงตู่อยู่อันดับสอง อุ๊งอิ๊งค์คว้าที่สาม  ส่วน ส.ส.แบ่งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ “เพื่อไทย” กวาดเรียบ ตามติดด้วยก้าวไกล  ขณะที่ “ซูเปอร์โพล” ตอกย้ำคนส่วนใหญ่ชี้พวกลบหลู่สถาบันเป็นพวกสร้างความแตกแยก ยก “เสี่ยหนู” นักการเมืองเหนือความขัดแย้ง!

เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจประชาชนเรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคน กทม.” ซึ่งสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่คน กทม.จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับหนึ่ง 20.40% ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพราะเป็นคนมุ่งมั่น มีความรู้ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่ และชื่นชอบนโยบายของพรรค,  15.20% ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนซื่อสัตย์ ชื่นชอบผลงาน ทำให้บ้านเมืองสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง, 14.10% ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะมีความรู้ความสามารถ และต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ, 12.20% ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

7.70% ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย  (ทสท.) เพราะมีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ทำงานทางการเมือง และมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน, 6.85% ระบุว่าเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.)  เพราะมีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ทางการเมือง มีทัศนคติที่ดีในการทำงาน และชื่นชอบความคิดที่ต้องการพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น และ 3.15% ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.)  เพราะมีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา, 3% ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะมีความรู้ ความสามารถ ชื่นชอบแนวคิดและทัศนคติในการทำงาน, 2.15% ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพราะพูดจริงทำจริง มีประสบการณ์ และลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง, 1.80% ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พรรค พท.,  1.50% ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ, 1.15% ระบุว่าเป็นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ 4.45% ระบุอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาบุคคลที่คน กทม.จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ เมื่อจำแนกตามกลุ่มเขตการปกครองของ กทม. พบว่า 1.กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง 18.18% ระบุเป็นนายพิธา, 17.75% พล.อ.ประยุทธ์,  14.29% หาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และ 11.26% น.ส.แพทองธาร 2.กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ 16.28% นายพิธา, 15.14% พล.อ.ประยุทธ์, 12.86% น.ส.แพทองธาร, 10.86% คุณหญิงสุดารัตน์ 3.กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 19.84% นายพิธา, 17.27% พล.อ.ประยุทธ์, 12.37% น.ส.แพทองธาร และ 10.31% หาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 4.กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 22.01% นายพิธา, 18.58% หาคนที่เหมาะสมไม่ได้, 15.16% น.ส.แพทองธาร และ 14.92% พล.อ.ประยุทธ์ 5.กลุ่มเขต กรุงธนเหนือ 22.99% นายพิธา, 14.60% น.ส.แพทองธาร, 13.87% พล.อ.ประยุทธ์ และ 9.86% หาคนเหมาะสมไม่ได้ 6.กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 22.70% นายพิธา, 17.53% น.ส.แพทองธาร, 14.08% หาคนเหมาะสมไม่ได้ และ 12.64% พล.อ.ประยุทธ์

สำหรับพรรคการเมืองที่คน กทม.มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตวันนี้ พบว่า 28.50% ระบุเป็นพรรค พท.,   26.45% พรรค ก.ก., 9.50% ระบุเป็นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และยังไม่ตัดสินใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน, 9.45%  พรรค ปชป., 3.05% พรรค ชพก.,  2.90%  พรรค ทสท., 2.10% พรรค ภท., 2.05%,    พรรคกล้า, 1.15% พรรค สอท. และ 2.60% ระบุอื่นๆ

ด้านพรรคการเมืองที่ กทม.มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันนี้ พบว่า 28.60% เป็นพรรค พท.,   26.10% พรรค ก.ก., 10.15% ยังไม่ตัดสินใจ, 9.15% พรรค พปชร., 9% พรรค ปชป., 3.25% พรรค ชพก., 2.85% พรรค ทสท., 2.05% พรรคกล้าและพรรค ภท.,   1.45% พรรค สอท. และ 2.40% ระบุอื่นๆ

ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 66.1% ระบุขบวนการ ลบหลู่ ดูหมิ่น สถาบันหลักของชาติ, 53.4% ระบุกลุ่มการเมือง รับเงินต่างชาติมาป่วนเมืองไทย, 41.9% ระบุขบวนการสามนิ้ว, 32% ระบุขบวนการปฏิรูปสถาบันหลักของชาติ,  26.2% การปฏิวัติ ยึดอำนาจ, 23.7% การควบรวม ผูกขาด ทางธุรกิจ พลังงาน อาหารและสื่อสาร, 14.8% ระบุอื่นๆ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม พบว่าอันดับหนึ่งหรือ 35.8% คือนายอนุทิน เพราะไม่มีประวัติขัดแย้งกับใคร พูดน้อย ใครด่ามาถือเป็นข้อเตือนใจ เป็นคนจิตใจดี มีผลงานช่วยเหลือต่อชีวิตผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจและอื่นๆ, 29.7% ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นผู้นำการยึดอำนาจ คุมอยู่ไม่ลุกลาม บ้านเมืองเรียบร้อย ไม่วุ่นวาย, 13.1% น.ส.แพทองธาร เพราะเป็นผู้หญิง อยากเห็นผู้หญิงเป็นผู้นำ เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่มีประวัติขัดแย้งกับใคร,  6.3% นายพิธา, 5.8% พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร., 5.6% นายจุรินทร์ และ 3.7% ระบุอื่นๆ

เมื่อจำแนกผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งออกตามเพศ พบประเด็นที่น่าสนใจคือ ชาย 40.2% และหญิง 31.4% ระบุนายอนุทิน ในขณะที่ชาย 27% และหญิง 32.4% ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ ชาย 9.2% และหญิง 16.9% ระบุ น.ส.แพทองธาร ส่วนนายพิธามีฐานสนับสนุนจากชาย 7.6% หญิง 5.1% พล.อ.ประวิตร มีฐานสนับสนุนจากชาย 6% หญิง 5.6%

และเมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่านายอนุทินได้รับฐานสนับสนุนเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม ในกลุ่ม 25-39 ปี มากที่สุดคือ 39.5% รองลงมาคือกลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปี 33.1% และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป 31.9% ตามลำดับ ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ฐานสนับสนุนสูงขึ้นตามช่วงอายุ กลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปี 18.8%, กลุ่มอายุ  25-39 ปี 25.2%  และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป 36.5% สำหรับ น.ส.แพทองธาร และนายพิธา ได้รับฐานสนับสนุนเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งเด่นในกลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปี คือ 15% ถึง 20% ในขณะที่กลุ่มอายุที่ยิ่งสูงขึ้นมีสัดส่วนฐานสนับสนุนลดลง

“ประชาชนบางส่วนมองว่ากลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองมีความเชื่อมโยงกับขบวนการต่างๆ ที่กลายเป็นต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทยที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดความขัดแย้งเหล่านั้น โดยช่วยกันป้องกันไม่ให้แกนนำของขบวนการสร้างความขัดแย้งในสังคมกลายเป็นผู้ปกครองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายในหมู่ประชาชนคนไทยในอนาคต” ผศ.ดร.นพดลระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง