‘อนุทิน’จบเกาเหลากัญชา

“อนุทิน” จบเกาเหลากัญชา โยนเป็นเรื่องสภา ไม่ว่าผลออกมาอย่างไรก็พร้อมรับทั้งหมด ยืนยันจะไม่มีอุบัติเหตุการเมือง ลั่น! เราจะไม่พอใจไม่ได้ ขณะที่ "ชลน่าน" ย้ำจุดยืนค้านกัญชาเสรี สธ.ดัน one stop service กัญชา เพื่อให้ประชาชนดำเนินการโดยสะดวก

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ว่า ความเห็นที่แตกต่างกันต่อร่างกฎหมายดังกล่าว สุดท้ายแล้วเป็นเรื่องของสภาผู้แทนฯ ที่เราต้องรับฟังความเห็นของฝ่ายที่เห็นต่าง และมั่นใจว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างดังกล่าว จะรับฟังความเห็นเหล่านั้นและนำไปแก้ไขปรับปรุง ส่วนตนยืนยันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่าไม่มีอะไรที่ทำให้รัฐบาลเกิดอุปสรรค และยังทำงานต่างๆ ต่อไปเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ระบุว่าหากกฎหมายไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาอาจนำไปสู่การยุบสภา  นายอนุทินตอบว่า นายศุภชัยคงไม่ได้พูดอย่างนั้น และคนที่ยุบสภาอยู่ที่นายกฯ คนเดียว

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างไร รมว.สาธารณสุขปฏิเสธว่า ไม่มี คิดว่านายกฯ พยายามวางตัวให้เป็นกลางมากที่สุด เพราะไม่อยากให้มีปัญหาในการทำงาน แต่สิ่งที่นายกฯ ห่วงใยคือการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่มีปัญหา และเราต้องไม่ทำให้มีปัญหา ขอยืนยัน 100% และขอให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่นำเรื่องความขัดแย้งในสภามาเป็นปัญหาในการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล

ถามว่า มั่นใจว่าร่างกฎหมายกัญชาฯ จะผ่านสภาได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่สภา ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมรับทั้งหมด โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พร้อมรับฟังปัญหาและแก้ไขสิ่งที่เป็นความห่วงใยของหลายฝ่ายและ ส.ส. ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์ เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด หากถ้ามีกฎหมายออกมาบังคับใช้จะช่วยควบคุมการใช้กัญชาได้ และคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชน แต่ไม่ว่าจะมีกฎหมายนี้หรือไม่ กัญชาก็ไม่ถือเป็นยาเสพติด สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

เมื่อถามว่า หากผลโหวตที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจของพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลให้เกิดอุบัติการเมืองหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้น และเราจะไม่พอใจไม่ได้ เพราะเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ เราต้องเคารพเสียงของผู้แทนฯ หากไม่ผ่านไม่มีผลอะไร เราก็ทำงานต่อไป และหารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมการใช้กัญชาให้เข้มข้นมากขึ้น โดยต้องไปดูว่าจะหาข้อบังคับอะไรมาช่วยให้ประชาชนสบายใจมากที่สุด

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำจุดยืนว่า เราเป็นพรรคที่ยืนอยู่ข้างประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนเราสนับสนุน ซึ่งร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชาฯ ที่มีหลักการกว้างมาก และเขียนเหตุผลสนับสนุนเพื่อใช้เพื่อการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การทดลองวิจัย การพาณิชย์ และเศรษฐกิจ เมื่อมาดูหลักการและเหตุผลรับได้ แต่มีข้อท้วงติงว่าลักษณะกฎหมายต้องมีการควบคุมไม่ให้ลูกหลานเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องนำไปเป็นสารเสพติดจนนำมาสู่กัญชาเสรี

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะควบคุมกัญชาเสรีได้อย่างไรจากกฎหมายฉบับนี้ แต่ตัวบทกฎหมายเขียนไว้ว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่จะเป็นยาเสพติดเมื่อเป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เท่านั้น ที่มีสารสกัด THC มากกว่า 0.2 ขึ้นไป ส่วนที่เหลือได้เขียนเรื่องการอนุมัติและอนุญาตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พรรค พท.ได้ทักท้วงและถอนร่างออกไปเพื่อนำไปปรับแก้ สุดท้ายกรรมาธิการ (กมธ.) ก็ไม่มีการปรับแก้ตามที่เสนอไป ฉะนั้นในการเข้าสู่วาระการพิจารณาวาระ 2 ก็จะสู้ต่อในมุมของเราว่าแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายมาตราได้หรือไม่

 “แม้ว่าต้นกัญชาเอาออกจากกฎหมายยาเสพติด แต่สารที่อยู่พืชกัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ ถ้ากำหนดเฉพาะสารสกัด THC มากกว่า 0.2 ขึ้นไป มันไม่ครอบคลุม ก็ต้องไปหาวิธีเขียนให้ชัด ถ้าแก้ได้ตามที่ตั้งวัตถุประสงค์เรายอม ที่สำคัญคือมาตรการควบคุมเรื่องกัญชาเสรี” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน ตนได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตพืชและผลิตภัณฑ์กัญชา ได้แก่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันกัญชาทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อบูรณาการทำงาน ให้ประชาชนได้รับการอนุญาตอย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น และมีฐานข้อมูลผู้ได้รับอนุญาตกัญชาอย่างเป็นระบบ

 “การหารือได้คำนึงถึงการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคล โดยการให้บริการในระบบ One stop Service ทั้งระบบออนไลน์ ที่กำลังดำเนินการผ่าน application และออนไซต์ คือหน่วยงานที่มีหน้าที่อนุญาต ตั้งแต่การปลูก ผลิต แปรรูป จำหน่าย และส่งออก รวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการขออนุญาตให้เป็นไปตามประกาศ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อกระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางการดำเนินการแล้ว จะได้มีขยายการบูรณาการร่วมกับกรมวิชาการเกษตรอีกด้วย เนื่องจากกรมวิชาการเกษตรมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ จำหน่ายเมล็ดหรือต้นกล้า เพื่อจะได้สอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุข เกิดการบูรณการร่วมกัน” นพ.ประพนธ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง