ปชช.อัดสส.-แพทย์ขวางกัญชา

ศึกกัญชายังคุกรุ่น! “อนุทิน” สู้ไม่ถอย ลั่นตราบใดยังกุมบังเหียน สธ.จะไม่ถอยหลังนำกลับเข้าบัญชียาเสพติด ย้ำมาตรการป้องกันเริ่มแล้ว แต่มีความพยายามสร้างเรื่องล้มกฎหมาย ขณะที่กรมแพทย์แผนไทยฯ แจงเข้มมาตรการล้อมคอก “ช่อดอก-ใช้ครัวเรือน” รับบังคับได้เฉพาะผู้มาขออนุญาต เครือข่ายประชาชนอัดนักการเมือง-แพทยสภาหยุดสร้างดาวคนละดวง 

เมื่อวันจันทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องมีความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งว่า มีเสียงเรียกร้องมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แต่ในการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดเป็นมติของคณะกรรมการ ป.ป.ส. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ก็ต้องเข้าใจบริบท เรากำลังนำกัญชามาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ กฎหมายมันออกมาแบบนี้ มันต้องเปลี่ยนความคิด อย่าเพิ่งไปประทับตรา มันจะก้าวข้ามไปไม่ได้ ความพยายามใช้ประโยชน์จากกัญชามีมานานแล้ว เริ่มกันก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก มีการนำมาศึกษาวิจัย มีเอกสารข้อมูลมากมาย ต่อมาข้อมูลตรงนั้นก็ใช้เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ส.พิจารณาปลดล็อกกัญชา และการออกประกาศกระทรวงเพื่อดูแลการใช้

ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ต้องออกประกาศ สธ. กำหนดให้ช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม นายอนุทินกล่าวว่า แต่เดิมหวังว่า พ.ร.บ.กัญชง กัญชา จะได้รับการพิจารณาโดยเร็ว เพราะตอนเสนอไปตอนวาระแรกรับหลักการอย่างท่วมท้น จากนั้นก็ตั้ง กมธ.ขึ้นมา มีทุกฝ่ายร่วมร่าง  พ.ร.บ.แรกที่มีเพียง 45 มาตรา กมธ.ได้เพิ่มเป็น 95  มาตรา ที่เพิ่มมาเพราะการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้ครอบคลุมทุกความห่วงใยของทุกฝ่ายไว้ ซึ่งตอนนี้มีพรรคที่เคยรับหลักการก็ออกมาบอกว่าจะคว่ำ มันขัดกับเจตนารมณ์ เพราะ กม.ฉบับนี้เกิดขึ้นมาเพื่อควบคุมการใช้อย่างผิดประเภท ลดความกังวลต่อสาธารณะ ทุกอย่างมีขั้นตอน

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ถ้าตอนนี้ดูแล้วว่าหลายฝ่ายมีความพยายามล้มกฎหมายฉบับนี้อยู่ กระทรวงก็ต้องลดความกังวลของประชาชน แต่ต้องไม่ทำให้ผู้ที่ตัดสินใจลงทุนเรื่องกัญชาและทำอย่างถูกกฎหมายต้องเสียหาย การรักษาคนไข้ต้องไม่ขาดตอน เราเลยออกประกาศขึ้นมาเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ที่กังวลกันเรื่องช่อดอกเราก็จะมาควบคุมเรื่องช่อดอก ถ้าจะใช้ต้องขออนุญาต มีวิธีการชัดเจน

 “ขอย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชน ควบคู่ไปกับการมีกฎหมายควบคุมความเสี่ยงที่เป็นข้อกังวล ตราบที่ยังเป็น รมว.สาธารณสุข ผมไม่มีนโยบายขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ส.พิจารณาให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรามีมาตรการป้องกัน เราเริ่มแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องเดินหน้า อะไรที่ผิดกฎหมายต้องไปจัดการ ตรงนั้นเขาได้ประโยชน์จากการใช้ มันอยู่ที่ว่าจะมองจากมุมไหน แต่ที่สุดแล้วต้องมองเรื่องความปลอดภัย มองเรื่องสังคม เราผ่านวันที่ 9 มิถุนายนมาครึ่งปีแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคขวากหนาม ยกเว้นว่าเราสร้างเรื่องกันขึ้นมาเอง” นายอนุทินระบุ

วันเดียวกัน ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แถลงข่าวชี้แจงประกาศ สธ.ฉบับใหม่ล่าสุด เรื่อง “สมุนไพรควบคุม  (กัญชา) พ.ศ.2565” ว่า กระทรวงสาธารณสุขเน้นกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งเมื่อนำมาใช้ได้มีการออกกฎหมาย ออกประกาศมาควบคุมต่างๆ เหมือนเหล้าบุหรี่ที่ต้องมีกฎหมายควบคุม กัญชามีสาร THC ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทจึงต้องมีการควบคุมกำกับ และออกประกาศต่างๆ ออกมาระหว่างร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ...ยังไม่ออกมา สธ.จึงนำกฎหมายที่มีอยู่มาปรับใช้ควบคุม ร่วมกับการให้ข้อมูลความรู้ข้อเท็จจริงการใช้ที่เหมาะสมต่างๆ เพื่อป้องกันกลุ่มเปราะบาง เด็กอายุน้อยกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น

 “กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ออกมาประกาศควบคุมนั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้าที่มีการออกประกาศเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ซึ่งเป็นประกาศสมุนไพรควบคุม คุมทั้งต้น แต่ด้วย ณ ปัจจุบันมีเรื่องของการใช้ การดำเนินการต่างๆ เหตุผลหลายอย่าง จึงต้องมีการปรับปรุงประกาศใหม่ให้เฉพาะช่อดอก ส่วนที่เหลือ หรือส่วนอื่นๆ ของกัญชายังควบคุม แต่ใช้กฎหมายอื่นมาคุม หลายท่านถามว่า สมุนไพรสามารถควบคุมเฉพาะส่วนได้หรือไม่ ข้อเท็จจริงทำได้ในมาตรา 45 ระบุว่า รัฐมนตรีมีอำนาจในการกำหนดเฉพาะส่วนของสมุนไพรได้ตามคำแนะนำ ซึ่งข้อมูลทางวิชาการพบว่าสาร THC สูงมากในช่อดอก จึงเป็นเหตุให้ต้องควบคุม เพราะใบแม้มี THC  แต่น้อยกว่ามาก และคนจะใช้ช่อดอกสูบมากกว่า ดังนั้น กรมฯ จะยกเลิกประกาศฉบับวันที่ 16 มิ.ย.65 และจะใช้ประกาศฉบับนี้แทน ซึ่งจะมีผลหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา” อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วประกาศฉบับปรับปรุงสามารถควบคุมไปถึงการใช้ในครัวเรือนได้หรือไม่ นพ.ธงชัยกล่าวว่า สิ่งที่เราทำได้อย่างประกาศของกรมการแพทย์แผนไทยฯ บังคับได้เฉพาะผู้มาขออนุญาต แต่หากไม่ใช่ก็บังคับไม่ได้ แต่เราจะไปดูประเด็นอื่นๆ เช่น การให้ความรู้  อย่างการเอาช่อดอกไปมวนสูบที่บ้านก็ต้องมีการให้ข้อมูล  อย่างบุหรี่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กในบ้านจะเอามาสูบในบ้านง่ายๆ ทั้งที่บุหรี่เป็นสำเร็จรูปสูบได้เลย แต่ช่อดอกกัญชายังมีขั้นตอนในการนำมาสูบ ซึ่งเรื่องนี้พ่อแม่ครอบครัวสังคมต้องช่วยกันดูแล แต่หากไปสูบในที่สาธารณะก็จะสามารถใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข เรื่องกลิ่น ควัน มาดำเนินการได้  ส่วนการจะเอาผิดโดยตรงยังต้องอาศัยการมี พ.ร.บ.เข้ามาจึงจะสมบูรณ์

“ในส่วนของการดูแลการใช้ในครัวเรือนนั้น แม้ประกาศนี้จะไม่สามารถครอบคลุมไปถึงประชาชนที่ไม่ได้ขออนุญาต แต่เรายังมีส่วนอื่นๆ มาดูแลได้ ที่น่ากังวลคือ ร้านค้าผู้ประกอบการที่มีการจำหน่ายและมีการสูบด้วย ตรงนี้สามารถเอาผิดได้ต้องปิดทันที เพราะเราไม่ได้สนับสนุนให้สูบหรือสันทนาการ และห้ามโฆษณาด้วย อย่างจำหน่ายบอกได้เพียงราคา แต่ห้ามเชิญชวนลดแลกแจกแถม และเรายังมีข้อกำหนดห้ามจำหน่ายในสถานที่ที่กำหนด เช่น  วัด สวนสาธารณะ เป็นต้น หากไม่ปฏิบัติก็จะมีการยึดใบอนุญาต หากยังทำก็ดำเนินการตามกฎหมาย เป็นกระบวนการที่จะมีการดำเนินการต่อไป” นพ.ธงชัยกล่าว

นพ.ธงชัยกล่าวอีกว่า ประกาศนี้จะควบคุมผู้ที่มาขออนุญาต ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ต่างๆ สำหรับคนมาขออนุญาตที่ต้องมีสถานประกอบการแน่นอน มีแหล่งที่มาของกัญชา และการนำไปใช้ชัดเจน สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนหรือขออนุญาตกับกรมฯ เรากำลังวางแผนทำเป็นข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในอนาคตจะทำให้ทราบว่ามีการจำหน่ายเท่าไหร่ มีใครมาขึ้นทะเบียน มีการส่งออกเท่าไหร่ จะทำให้ทราบข้อมูลภาพรวมทั้งหมด โดยระบบนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้หรือต้น ม.ค.66   

ที่สวนครูองุ่น ซอยทองหล่อ 3 เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย จัดเวทีแถลงการณ์เพื่อยืนยันถึง “ความจำเป็นของการมี พ.ร.บ.กัญชาเพื่อควบคุมกัญชาเชิงระบบในสังคมไทย” โดยนายธนโชติ เธียรรุ่งโรจน์ ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรออร์แกนิก จ.สระแก้ว กล่าวว่า วันนี้ ส.ส.ที่ท่านบอกว่าเป็นผู้แทนประชาชน แต่กำลังจะผลักประชาชนลงเหว และทำให้ประชาชนติดคุกด้วยการคว่ำ พ.ร.บ.กัญชา เนื่องจากประชาชนได้ลงทะเบียนปลูกกัญชานับล้านคน อย่างไรก็ตามถ้ามีการคว่ำ พ.ร.บ.จริง พวกเราก็จะไม่หยุด ตนไม่เข้าใจว่าแพทยสภา ส.ส.บางคน หรือคนที่ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.กัญชา จะสร้างดาวคนละดวงไปเพื่ออะไร ทำเพื่อสร้างความโดดเด่นให้ตัวเอง ทำไมไม่สร้างดาวในวงโคจรเดียวกัน คือออกกฎหมายมาใช้ในการควบคุม อยากให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ ไม่ใช่ประโยชน์ในทางการเมือง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง