‘เสี่ยหนู’ปัดดูด‘สาธิต’เข้าภท.

"อนุทิน" แจงไม่กล้าจีบ "สาธิต" เข้าภูมิใจไทย อ้างพรรคมีคนมีความสามารถอยู่แล้ว คงไม่มีตำแหน่งเหมาะสมให้ "อนุสรณ์" ฟันธงพรรคร่วมรัฐบาลแตกหลังเอเปก "ลุงตู่" โบกมือลาหอบ ส.ส.ไปพรรคใหม่ สอท.โวจะทยอยเปิดตัวบิ๊กเนมกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนคุณภาพเข้าพรรคอีกหลายคน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุในรายการข่าวช่องหนึ่งถึงนายอนุทินว่าจีบเข้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังมีภาพร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน พร้อมด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรค ปชป. า ไม่กล้าจีบนายสาธิต เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย และนายสาธิตเป็น รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของพรรค และที่ผ่านมาก็ทำงานด้วยดีในกระทรวงสาธารณสุข และตนยังเคยบอกว่านายสาธิตจะมีอนาคตที่ดีในพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน 

"ท่านมีอนาคตที่ไกลในพรรค ปชป.อยู่แล้ว เราจะไปดึงท่านมาทำไม เพราะที่ พรรค ภท.ก็มีบุคลากรที่มีความสามารถเยอะอยู่ คงไม่มีที่ที่เหมาะสมสำหรับท่านและในการรับประทานอาหารดังกล่าว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่มีการพูดเรื่องจีบนายสาธิต แต่เป็นการหารือเรื่องงานต่างๆ และสถานการณ์การเมืองธรรมดา เท่านั้น" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาช่วงหลังการประชุมเอเปกว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤตศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ

"คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายจะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง เพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือกและทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ยังมีแนวโน้มจะโบกมือลา ขนลูกพรรคในกลุ่มก๊วนของตัวเองไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ แสดงว่าชื่อชั้นของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลขายไม่ได้ และไปต่อลำบาก ซึ่งจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกพรรคการเมืองที่จะนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่พูดแล้วทำ แต่ต้องทำอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ทำผิดทิศผิดทางและไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง วิกฤตศรัทธาประชาชนที่พุ่งเข้าใส่พรรคร่วมรัฐบาล นำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรงในพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ประชาชนอยู่อย่างสิ้นหวัง”นายอนุสรณ์กล่าว

ที่ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค สอท.และประธานภาคกลาง เป็นประธานการประชุมผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง ของพรรค โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการพรรค เข้าร่วมประชุมด้วย นายวัชระกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการติดตามสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ และติดตามการทำงานเชิงลึกในพื้นที่ของผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง ตามนโยบายที่พรรคได้มอบหมายให้ พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องที่ได้จากการพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลส่งต่อคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคในการกลั่นกรองนโยบายรายพื้นที่

นายวัชระได้ให้ความเชื่อมั่นกับผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ว่า แม้พรรคจะเป็นพรรคใหม่ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาได้ไม่ถึงหนึ่งปี แต่กระแสพรรค โดยเฉพาะ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มีกระแสตอบรับก็ล้นหลาม ทั้งนี้ หลังการประชุมเอเปก ตนเชื่อมั่นว่าการเมืองจะมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็วแน่นอน ทั้งการขับเคลื่อนของท่านนายกรัฐมนตรี การขับเคลื่อนของแต่ละพรรคการเมือง หรือแม้แต่ สอท.ก็จะมีการขับเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยกล้าประกาศว่าขนาดของพรรคจะมีความใหญ่ขึ้น จะมีความพร้อมทั้งในแง่ของผู้นำ นโยบายที่สำคัญ และผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ซึ่งพรรคจะทยอยเปิดตัวละครลับๆ ที่เป็นบิ๊กเนม มั่นใจว่าหากเปิดไปแล้ว พรรคนี้จะกลายเป็นแม่เหล็กทางการเมืองที่จะดึงดูด ส.ส.และคนมีคุณภาพเข้ามาร่วมงานด้วยอีกหลายคน

ที่บ้านท้ายวัง ต.วังกระแจะ อ.เมืองฯ จ.ตราด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย และทีมงานเดินทางมายังศูนย์ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย จ.ตราด และได้กล่าวกับที่ประชุมว่า การมาพบปะพี่น้องประชาชนชาวตราดครั้งนี้ เพื่อขอให้ช่วยเลือกว่าที่ผู้สมัครของพรรคคือ นายกิตติธัช ไชยอรรถ เป็น ส.ส.ตราด เพื่อจะให้พรรคเข้าไปบริหารประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติที่วันนี้ ประเทศชาติติดหนี้สินต่างๆ ที่กู้เงินมาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งสิ่งแรกหากพรรคสร้างอนาคตไทยจะเริ่มก็คือพักหนี้ 5 ปี และจะปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนไปลงทุน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้จะมีนโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ให้กับภาคเกษตรกรด้วย

หลังจากนั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจีรวงศ์ ร่วมกับกรรมการพรรค และนายกิตติธัช ไชยอรรถ และกรรมการศูนย์ฯ ตราด ทำการติดริบบิ้นเปิดศูนย์ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทยของจังหวัดตราดอย่างเป็นทางการ

นายสนธิรัตน์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การเมืองหลังจากการประชุมเอเปกจะเกิดความวุ่นวายมากขึ้น โดยเฉพาะหลังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 กฎหมายลูกที่จะใช้ในการเลือกตั้งน่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเมื่อนั้น นักการเมืองระดับบิ๊กเนมจะเคลื่อนไหวย้ายพรรค, ควบรวมพรรค หรือนักการเมืองลาออกจากพรรคหนึ่งเพื่อไปสังกัดพรรคหนึ่ง ซึ่งจะเกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นนายกรัฐมนตรีจะสามารถยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ทันที ซึ่งแน่นอนว่านักการเมืองจะต้องรีบตัดสินใจให้เกิดความชัดเจนว่าจะอยู่พรรคไหน หรืออยู่ขั้วการเมืองไหน

เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตใหม่ กล่าวว่า สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมราว 70% ที่สามารถประกาศตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตได้แล้ว เหลือที่ยังไม่พร้อมอีกราง 30% แต่หากมีการเลือกตั้งเร็วก็สามารถจัดผู้สมัครลงได้ครบ 100% ทั้งนี้ ทางพรรคก็เน้นในเรื่องกติกาเลือกตั้งที่มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งตัวเลขทางพรรคสร้างอนาคตไทยได้มีการประเมินมาโดยตลอด แต่ยังไม่บอกว่า ควรจะเป็นเท่าไร เพราะเรามีเป้าหมายที่พร้อมจะรับใช้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การยืนอยู่บนสถานการณ์ที่ไม่ขัดแย่งกับขั้วการเมืองใด ทั้งขั้วเผด็จการ หรือประชาธิปไตย แต่ขออยู่ขั้วที่ 3 เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก ที่สุดแล้วพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่สถานการณ์เดิมในอดีตที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง 2 ฝ่ายจนประเทศไม่สามารถเดินไปยังจุดไหนได้

นายสนธิรัตน์ยังกล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นจากสำนักโพลต่างๆ แล้วยังไม่มีชื่อ ดร.สมคิด อยู่ความนิยมของประชาชนที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะโพลเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งในช่วงใกล้เลือกตั้ง หรือช่วงท้ายๆ บ้านเมืองจะตัดสินใจว่าใครคือคนที่เขาต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งสำคัญที่พรรคสร้างอนาคตไทยต้องเร่งทำในขณะนี้ก็คือ การประชาสัมพันธ์พรรคเพื่อสร้างความรู้จักในภาพรวมให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีคุณภาพให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตัดสินใจ

 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมากล่าวหาว่าภาพลักษณ์เผด็จการของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอุปสรรคในเวทีโลกว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าว สะท้อนความหวั่นไหวและหวาดกลัวของพรรคเพื่อไทยที่ได้เห็นภาพความสำเร็จของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้รับการยอมรับและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีจากบรรดาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำประเทศที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมด้วยตนเอง ยิ่งมีเสียงชื่นชมการจัดงานการประชุมที่ได้มาตรฐานระดับโลก จากบุคลากรของเอเปกเองคือ นางรีเบคกา สตา มาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปก ด้วยแล้ว พรรคเพื่อไทยอาจรับไม่ได้ที่นานาประเทศชื่นชมไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง