
ปลัด สธ.เผยแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น แนะฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 4 เดือน ต้องฉีดกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกันเพื่อให้ปลอดภัยก่อนเข้าปีใหม่ สั่งจัดรถโมบายยูนิตบริการกลุ่ม 608 "อนุทิน" แนะคนไทยต้องได้รับวัคซีน 4 เข็มจึงจะปลอดภัย
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วันที่ 28 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและเน้นย้ำให้ประชาชนไปรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้หารือกันแล้วเห็นว่า ประชาชนคนไทยต้องได้รับวัคซีน 4 เข็มจึงจะปลอดภัย และวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนเพียงพอ จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา (20-26 พ.ย.65) แนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาในโรงพยาบาล 4,914 ราย เฉลี่ยวันละ 702 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 553 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 319 ราย และเสียชีวิต 74 ราย เฉลี่ยวันละ 10 ราย โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบการระบาดเพิ่มในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ว่าจะมีการระบาดเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว ประชาชนมีการผ่อนคลายมาตรการและมีกิจกรรมรวมตัวกันมากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้เสียชีวิตที่ผ่านมา พบว่าเป็นการติดเชื้อครั้งแรก และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือ ไม่ได้รับวัคซีน รับวัคซีนไม่ครบ หรือได้รับเข็มสุดท้ายนานเกินกว่า 3 เดือน
“วัคซีนโควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการเสียชีวิตได้ ซึ่งหลังจากฉีดวัคซีนไประยะหนึ่งแล้ว ภูมิคุ้มกันที่มีจะลดลง จึงต้องมีการฉีดเข็มกระตุ้น ดังนั้นหากยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย ขอให้รีบมาฉีด และหากฉีดกระตุ้นเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้ว ขอให้มาฉีดเพิ่ม ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 ช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ เพื่อเร่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ทันช่วงปลายปีที่จะมีกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานให้เพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีน โดยเฉพาะ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว และกำชับโรงพยาบาลในสังกัดทุกจังหวัดให้เปิดจุดบริการฉีดวัคซีน รวมถึงจัดบริการเชิงรุกในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงด้วยแล้ว" นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า แม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ สำหรับกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับนานเกิน 6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หรือร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนคนในครอบครัวที่ไปสถานที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมากในช่วง 5 วัน ควรงดการใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ และหากพบว่ามีการติดเชื้อ ขอให้รีบพามาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาได้ทันเวลา ซึ่งได้จัดยาและเวชภัณฑ์ไว้เพียงพอ รวมถึงเตียงระดับ 2-3 ทั่วประเทศ สำหรับรองรับผู้ป่วยอาการปานกลางถึงรุนแรง ยังมีเพียงพอรองรับสถานการณ์เช่นเดียวกัน
"การกระจายวัคซีนโควิดถึงระดับ รพ.สต.เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้าน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาลชุมชน และลดการสูญเสียรายได้ของญาติจากการหยุดงานพามาฉีดวัคซีน แต่เพื่อเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนให้มากขึ้นและสะดวกยิ่งขึ้น ได้แจ้งให้มีการจัดกิจกรรมเชิงรุก เช่น จัดรถโมบายยูนิตฉีดวัคซีนพร้อมนัดหมายให้มารับบริการในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์" นพ.โอภาสกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Bangkok Goals on BCG Economy: ความสร้างสรรค์ของไทยในการผลักดัน การเติบโตอย่างสมดุลครอบคลุมยั่งยืน
การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปี 2565
8องค์กรประชาชน ร้อง‘ปธ.ศาลฎีกา’ ปล่อยตะวัน-แบม
8 องค์กรสิทธิมนุษยชนฯ ร่วมเสวนาขานรับข้อเสนอ "ตะวัน-แบม"
ลดราคาดีเซล 50สตางค์/ลิตร ในรอบ7เดือน
กบน.ไฟเขียวลดราคาดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร มีผล 15 ก.พ.นี้
เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน28ก.พ.
กกต.ย้ำเร่งแบ่งเขตคาดประกาศ 28 ก.พ. แจงทำล่วงหน้าไม่ได้เกรงทำเกินกฎหมายรองรับ
6ตร.รีดเงินไต้หวันนอนคุก สั่ง‘ต่อศักดิ์’คุมด่านทั่วปท.
บิ๊กนครบาลเผย 6 ตร.ไถเงินยังปากแข็ง แต่โดนแจ้งข้อหา 149
ภท.จี้นายกฯยุบสภา อ้างส.ส.ไม่อยากประชุม! เอาคืนชิ่งหนีทำล่มครั้งที่6
สภาล่มครั้งที่ 6 "ภท." เอาคืนประท้วงร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถูกดองยาว "ศุภชัย" จี้นายกฯ ยุบสภา เหตุ ส.ส.ไม่อยากประชุมแล้ว