‘เอสซีฯ-พท.’พล่าน แจงอุ๊งอิ๊งค์ไม่เกี่ยวตู้ห่าว บิ๊กเด่นตีเส้น3สัปดาห์จบ

“บิ๊กเด่น” ยันเอาจริงเรื่องปราบทุนจีนสีเทา ลั่น 2-3 สัปดาห์ต้องสะเด็ดน้ำ ไม่ว่าผลจะออกอย่างไร เพราะหากปล่อยล่าช้าอาจถูกด่ามวยล้ม “นพดล-เอสซี แอสเสทฯ” แจ้นแจงด่วน รีบปัดสวะ ยันไม่เกี่ยวอุ๊งอิ๊งค์ ระบุคนซื้อบ้านต้องเป็นคนหรือนิติบุคคลไทยเท่านั้น!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายธุรกิจจีนสีเทาว่า เรื่องนี้เริ่มมาจากการไปตรวจพบการกระทำความผิดในสถานบริการ เช่นที่ผับท็อปวัน-สถานบันเทิงจินหลิง ซึ่งตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งได้เน้นมาตลอดว่าตำรวจต้องไปตรวจสถานบริการ เพราะแต่ก่อนตำรวจมักจะละเลย โดยหลังเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ 1 ต.ค. ได้สั่งให้สุ่มตรวจต่อเนื่อง โดยสถานบันเทิงจินหลิงเกิดจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สืบทราบมาว่าสถานบริการแห่งนี้น่าจะมีการทำผิดกฎหมาย เพราะแอบเปิดในที่ลับ และใช้ระบบสมาชิกที่เข้าข่ายต้องสงสัย ตำรวจจึงเข้าไปตรวจค้นและพบการเสพยาเสพติดจำนวนมากที่เป็นกลุ่มคนจีน

“นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็มีการนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผมจึงได้สั่งการให้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ท่านรับผิดชอบด้านการปราบปราม ผมบอกให้ไปช่วยกันดูเรื่องนี้ ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้เข้ามา ซึ่งตอนนี้ช่วยกันทำงาน ใครมีข้อมูลอะไรก็ทำกันไป”พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ผบ.ตร.เล่าอีกว่า ตอนนี้ถือว่าได้ขยายผลอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการตรวจค้นผับจินหลิง จนพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือหาวเจ๋อ ตู้ หรือตู้ห่าว ซึ่งมีการดำเนินคดีกับในข้อหาร่วมกันสมคบกระทำความผิด มีการยึด-อายัดทรัพย์สิน เครื่องบินส่วนตัวต่างๆ ตามที่เป็นข่าว และต่อไปเราจะตรวจสอบทั้งระบบ โดยเพิ่มความเข้มในเรื่องของชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวในเมืองไทย เราจะดูแลอย่างเข้มงวด ใครที่เกี่ยวข้องถึงแม้ไม่สามารถดำเนินคดีได้อย่างชัดเจน แต่ต้องถูกโยกย้ายในคำสั่งหน้านี้ พวกตำรวจ ตม.อะไรต่างๆ เราก็อยากจะกวาดบ้านตัวเอง

เมื่อถามถึงว่า คดีนี้สังคมจับตามองกันมาก เพราะอาจเชื่อมโยงกับนักการเมือง คนเลยมองกันว่าตำรวจจะเอาจริงเอาจังแค่ไหน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ยืนยันว่า เอาจริง แต่ขึ้นกับพยานหลักฐาน ซึ่งได้เร่งรัดแล้วว่าขออย่าให้นาน หลักฐานถึงหรือไม่ถึง ขอให้ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ขอให้จบ  อย่าให้นานเกินไป เพราะหากค่อยๆ หายไป เดี๋ยวหาว่ามวยล้มต้มคนดูอีก

ด้านนายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงการตั้งข้อกล่าวหาต่อนายตู้ห่าว โดยเฉพาะประเด็นการกว้านซื้อบ้านในบางโครงการ แล้วพยายามโยงเรื่องนี้มาบิดเบือนใส่ร้ายพรรค พท.และแกนนำพรรคให้เสียหายนั้น พรรคขอใช้สิทธิชี้แจงดังนี้ 1.กรณีดังกล่าวข้างต้น ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ อยู่ ซึ่งพรรคเห็นว่าสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มีอยู่ตามกฎหมายได้อยู่แล้ว  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค และพรรคไม่ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

2.ขอย้ำว่าพรรค พท.ไม่เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว นายตู้ห่าวไม่เคยบริจาคเงินให้พรรค ซึ่งข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาก็เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกิจในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา และพรรคไม่ได้เป็นรัฐบาลเป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว ดังนั้นหากจะกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงเวลานี้ในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลสามารถไปตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าเบี่ยงเบนประเด็น

  3.กรณีที่พยายามโยงว่าชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถือหุ้นในบริษัทในบางสื่อนั้น การพาดพิงและกระจายข่าวต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่า น.ส.แพทองธารไม่ได้รู้จักนายตู้ห่าว และเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายบ้านให้บุคคลใดๆ 

 “เอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่า ทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัท กระจายไป ไม่ใช่ซื้อจากบริษัท เอสซี แอสเสทฯ อย่างเดียว” นายนพดลกล่าว

 นายนพดลกล่าวอีกว่า 4.ช่วงเวลานี้ ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นพรรคต่างๆ นำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พรรค พท.ขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ และโปรดยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอที่เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

ขณะที่นายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกเอกสารชี้แจงกรณีนี้ว่า ตามที่มีการเสนอข่าวเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทากว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทนั้น บริษัทใคร่ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า 1.บริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี โดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังในทุกโครงการ ขายให้เฉพาะคนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น 2.ในการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน บริษัทกำหนดให้ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินผ่านธนาคารเท่านั้น และ 3.ผู้ถือหุ้นบริษัทไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆ กับการซื้อขายบ้านของบริษัทในทุกกรณี จึงเรียนมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์