จี้ประยุทธ์เบรกกัญชาเสรี

2 รมต.สธ.สยบข่าวขัดแย้ง "อนุทิน" ปัดโยนไฟใส่ประชาธิปัตย์ ย้ำประกาศคุมกัญชางาน รมช.กำกับดูแล "หมอตี๋" เรียกอธิบดีแพทย์แผนไทยฯ   หารือ ชี้ต้องศึกษากฎหมายให้ชัด แจง ส.ส.มีสิทธิเห็นต่าง ปชป.จี้นายกฯ ยกเลิกปลดล็อกกัญชาเสรี อ้าง ศก.เสียหายหมื่นล้านแค่นายทุนบางราย

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวปฏิเสธกระแสความขัดแย้งระหว่างตนเองกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. ถึงกรณีที่ระบุว่ากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งออกประกาศเรื่องการควบคุมกัญชา อยู่ในความดูแลของนายสาธิต หลังพรรคประชาธิปัตย์วิจารณ์ประกาศดังกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายสาธิต อันนี้เป็นงานกระทรวง ไม่ใช่งานพรรค ตนแยกแยะถูก ซึ่งตามคำสั่งมอบหมายงานชัดเจนอยู่แล้วว่า รมช.สธ.กำกับดูแลภารกิจ 5 กรม คือ กรมอนามัย, กรมการแพทย์แผนไทยฯ, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ส่วนตนกำกับดูแล 3 กรม คือ กรมควบคุมโรค, กรมสุขภาพจิต และกรมการแพทย์

"เมื่อมีเรื่องกัญชา รมช.สธ.ที่ดูแลกรมการแพทย์แผนไทยฯ อยู่ก็จะเป็นผู้ดูแลกำกับเรื่องการใช้กัญชาให้เป็นไปตามประกาศ ไม่ถือว่าเป็นการโยนไฟเข้าบ้านพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นเรื่องของภาระงานในกระทรวงในกำกับดูแล" นายอนุทินระบุ

ด้านนายสาธิตกล่าวว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับนายอนุทินแล้ว ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน ทั้งนี้้ได้เชิญ นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ มาหารือถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย การควบคุมการจำหน่าย การใช้ช่อดอกกัญชาไม่ได้เข้าถึงกลุ่มเปราะบาง เรื่องนี้ต้องศึกษากฎหมายให้ชัดเจน ซึ่งต้องยอมรับว่าการที่มีกฎหมายหลายฉบับจะมีความยากลำบากในการกำกับควบคุมกัญชาอยู่ ในแง่การอาศัยหน่วยงานอื่น การตีความที่ไม่ชัดเจน หรือการใช้กฎหมายหลายบท หรือใช้ประกาศหลายฉบับ จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะเวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการผิดจะมีความเสี่ยงถูกฟ้องกลับ ดังนั้นเราต้องให้ความปลอดภัยความเชื่อมั่นกับผู้ปฏิบัติงานให้ได้ ว่าเมื่อปฏิบัติแล้วจะมีความปลอดภัยแน่นอน จึงต้องศึกษากฎหมายให้ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้หารือกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หลังพรรคเปิดศึกกัญชากับ รมว.สธ. นายสาธิตกล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ที่ตนไม่สบาย เลยไม่ได้เข้าประชุมพรรค แต่ได้ติดตามข่าวสาร ซึ่งการแสดงความเห็นต่างในเรื่องนโยบายเป็นสิทธิของพรรคการเมือง สิทธิของ ส.ส.แต่ละคน ในเชิงนโยบายเห็นภาพชัดว่ามีปัญหาอะไรอยู่บ้าง ตนในฐานะ รมช.สธ. ต้องช่วยแก้ แต่ต้องศึกษาข้อมูลทางกฎหมายก่อน ตามหลักแล้วถ้ากฎหมายชัดเจนเราถึงลงมือทำได้

ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง,  นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพิสิฐ ลี้อาธรรมส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงถึงการใช้กัญชาที่มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน

โดย นพ.บัญญัติกล่าวว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่ผ่านมาแล้ว 6 เดือน พบว่ามีเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบจากสารเสพติดที่อยู่ในกัญชาเพิ่มมากขึ้น จึงมี 5 ข้อเรียกร้องคือ 1.เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา ยกเว้นกรณีความจำเป็นทางการแพทย์ 2.ให้ประชาสัมพันธ์โทษของการใช้กัญชาที่มีผลกับสมองเด็กและเยาวชน 3.ให้มีมาตรการควบคุมการผลิตและการขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสมโดยให้มีเครื่องหมายเตือนอย่างชัดเจน และระบุว่าห้ามเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภค 4.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ไม่ให้จงใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม จนสื่อไปในทางเข้าใจผิดว่าเด็กและเยาวชนบริโภคได้ และ 5.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง

"ผมจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนำกัญชากลับเข้าไปบรรจุในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง ส่วนการที่มีคนคนหนึ่งกล่าวหาว่าผมและพรรคจัดฉากให้เด็ก 9 ขวบและ 10 ขวบสูบกัญชาริมหาดพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อหวังผลทางการเมือง ผมขอปฏิเสธอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่โพสต์เรื่องนี้ก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้ว ดังนั้นผู้ที่กล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูด" นพ.บัญญัติระบุ

นายพิสิฐกล่าวว่า ในสภาคนบางคนพูดว่า หากเราไปเลิกกัญชาเสรีจะมีผลเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท แต่ตนคิดว่าความสูญเสียนั้นอาจเป็นของนายทุนบางรายหรือไม่ จึงเรียกร้องนายกฯ สั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ยกเลิกการปลดล็อกเสรี ให้กลับมาอยู่ที่เดิม เพราะกัญชาเสรีมีแต่ผลเสีย

ขณะที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวตอบโต้ว่า   นักการเมืองที่ดี ก่อนจะสื่อสารอะไร ขอให้ไปอ่านหนังสือหาความรู้ แล้วค่อยมาพูด   รู้ให้จริงแล้วค่อยพูด อย่าสักแต่พูดไปวันๆ เป็นนกแก้วนกขุนทอง ตนอ่านที่เขาพูดนี่หัวเราะก๊ากเลยตอบได้ทุกข้อ และตอบตนมาให้ได้ก่อนว่าเรื่องขวาง พ.ร.บ.กัญชาฯ ทำไมถึงตั้งหน้าตั้งตาขวาง ทั้งที่ในกฎหมายมีมาตราเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กและเยาวชนชัดเจน โทษหนักอึ้งกว่าเดิม 2-3 เท่า ต่อให้เป็นพ่อแม่ก็มีความผิด ถูกดำเนินคดีได้

"ที่บอกว่ากฎหมายเอื้อนายทุน มันเอื้อตรงไหน ก็ใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน ทั้งประชาชน ทั้งนายทุน แถมยังให้ประชาชนปลูกในบ้าน ตรงนี้มันก็ปิดกั้นการผูกขาดแล้ว แต่ถ้าปลูกในบ้านต้องระวังเด็กใช้  ระวังการใช้ผิดๆ เพราะกฎหมายตามไปเอาผิดคนปลูกได้ เป็นพ่อแม่ก็ไม่เว้น ส่วนการจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด อันนี้ยิ่งเลอะเทอะ อาจารย์วิษณุก็บอกว่าทำไม่ได้ ที่ทำได้คือช่วยกันออกกฎหมายมาดูแลการใช้ ถ้าเป็นห่วงกันจริงต้องช่วยกัน แต่ถ้าอยากได้เงื่อนไขมาอัดภูมิใจไทยแบบไม่สนใจสังคม ไม่สนใจประชาชน ถ้าเอาแค่นั้น ก็ทำแบบที่ทำอยู่นั่นแหละ ถูกแล้ว และเมื่อถึงวันหนึ่งประชาชนจะตัดสินท่านเอง" รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง