
แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 2 เผย "ในหลวง-พระราชินี" ทรงหายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ตามปกติ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" พระหทัยเต้นผิดจังหวะ คณะแพทย์ฯ กราบบังคมทูลให้ทรงลดพระราชกิจลงสักระยะหนึ่งจนกว่าพระอาการทางพระหทัยจะคงที่ "สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี" เสด็จไปทรงเยี่ยมและติดตามพระอาการ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ" ราชสกุลกิติยากร-ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร ขอทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 2 มีเนื้อหาว่า "ตามที่สํานักพระราชวังมีแถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการถวายการตรวจคัดกรอง ตามวาระปกติ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เป็นที่ทราบโดยทั่วแล้วนั้น
คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากถวายการรักษาด้วยพระโอสถ พระอาการโดยรวมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเป็นปกติ ผลการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เป็นลบ คณะแพทย์จึงลงความเห็นว่าทั้งสองพระองค์ทรงหายจากการติดเชื้อแล้ว และทรงสามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ตามปกติ จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน"
สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระประชวร ระบุว่า "ตามที่สํานักพระราชวังมีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษาภาวะพระหทัยเต้นเร็วผิดปกติด้วยวิธีจี้ไฟฟ้าพระหทัยด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2565 และเสด็จพระราชดําเนินกลับไปประทับพักฟื้นพระวรกายต่อ ณ วังสระปทุม ในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เป็นที่ทราบโดยทั่วแล้ว นั้น
คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รายงานเพิ่มเติมว่า คณะแพทย์ฯ ได้ตรวจพบการเต้นผิดจังหวะของพระหทัยขึ้นมาใหม่อีกแบบหนึ่ง แต่เป็นเพียงชั่วคราวและทรงหายได้เอง คณะแพทย์ฯ จึงขอพระราชทาน กราบบังคมทูลให้ทรงลดพระราชกิจลงสักระยะหนึ่ง จนกว่าพระอาการทางพระหทัยจะคงที่"
เมื่อเวลา 16.59 น. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จจากสนามบินสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากเสร็จสิ้นการเสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 ถึง 26 ธันวาคม 2565
เมื่อเสด็จถึงอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เสด็จขึ้นลิฟต์ไปทรงเยี่ยมและติดตามพระอาการ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นการส่วนพระองค์ ทั้งนี้ นับตั้งแต่สำนักพระราชวังได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ มีพระอาการประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย ระหว่างทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงที่จะเข้าแข่งขันสุนัขใช้งาน ณ สนามฝึกกองพันสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 นั้น ความทราบฝ่าพระบาท สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงห่วงใยพร้อมกับทรงติดตามพระอาการโดยตลอด แม้จะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอยู่ ณ ประเทศญี่ปุ่นขณะนั้นก็ตาม
อนึ่ง ในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ได้เสด็จออก ณ ห้องที่ประทับ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ทรงนำเอกอัครราชทูต ข้าราชบริพาร และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ร่วมบำเพ็ญกุศลสวดมนต์ บทโพชฌังคปริตร 7 จบ เพื่ออาราธนาบารมีของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ให้คุ้มครองและเป็นสิริมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงหายจากพระอาการประชวร มีพลานามัยแข็งแรง
วันเดียวกัน ที่ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ราชสกุลกิติยากร ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน, ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร เลขานุการในพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, ท่านผู้หญิงจีริกัญญา โชติกเสถียร ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถวายแจกันดอกไม้สีส้ม บริเวณหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ฯ และลงนามถวายพระพรให้ทรงหายจากอาการพระประชวร
ขณะเดียวกัน ยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ ภาครัฐ เอกชน และประชาชนเดินทางมาถวายแจกันดอกไม้สีส้ม ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เพื่อทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและหายจากพระอาการประชวรอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม, สมาคมผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาแห่งประเทศไทย, มูลนิธิภูมิโหราศาสตร์, โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม, โรงเรียนปลูกจิต, โรงเรียนราชวินิตบางแค, สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย, คณะสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน, สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนพะเยาวิทยาคม, โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย, คณะสงฆ์วัดเปรมประชา, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงเรียนสตรีสุโขทัย, สมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย, โรงเรียนปัญญาศักดิ์, บริษัท ทิพยประกันภัย, อาสากาชาดสภากาชาด, สมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย, โรงเรียนสารสาสน์, โรงพยาบาล BNH, โรงเรียนบดินทรเดชา, โรงเรียนเทพศิรินทร์สมุทรปราการ, สภาวัฒนธรรมเขตราษฎร์บูรณะ
ณ หอประชุมโรงเรียนเหล่าฝ้ายผดุงวิทย์ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย นายทนงศักดิ์ เตียวศิริชัยสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้นำคณะครูและนักเรียนจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ โดยมีพระสงฆ์ 5 รูปนำประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา พร้อมลงนามถวายพระพรขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพลานามัยสมบูรณ์โดยเร็ววัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม.ดัน‘พิธา’นั่งนายกฯ พลังเงียบเชียร์ภูมิใจไทย
นิด้าโพลเผยคนกรุงหนุน "พิธา" เป็นนายกฯ ตามด้วย "อุ๊งอิ๊ง" และ "บิ๊กตู่" แต่เลือกเพื่อไทยเป็น ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ
PM2.5ทำ‘เชียงราย’อ่วม
เชียงรายผงะ! ฝุ่นพิษสูงกว่าค่ามาตรฐานของประเทศ 9 เท่า
หึ่ง!บิ๊กตู่เมินปาร์ตี้ลิสต์
"บิ๊กตู่" ส่อไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ ขณะที่แกนนำตัวท็อป "พีระพันธุ์-เอกนัฏ-ไตรรงค์-จุติ-ธนกร-แรมโบ้" ติดโผหมด
อิ๊งค์หนุนแม้วกลับ! แต่ปัดไม่เกี่ยวแลนด์สไลด์ จตุพรท้าให้มาก่อน14พ.ค.
“อุ๊งอิ๊ง” เคารพและเป็นกำลังใจให้ “ทักษิณ” หากจะกลับมาไทยแล้วติดคุกจริง!
ประตูคุกรอ‘แม้ว’ ฉุดแลนด์สไลด์!เพื่อไทยรีบชิ่งผวาข้อหา‘ครอบงำ ’
วิจารณ์ลั่น! "ทักษิณ" กลับ ไม่มีใครห้าม ประตูคุกเปิดรอรับ รวมไทยสร้างชาติตอกย้ำคดีโกงติดคุกแทนนายไปแล้วหลายคน แต่นายใหญ่หนีคดีไปใช้ชีวิตสุขสบายในต่างแดนกลับบอกว่าตนเองทรมานมามากแล้ว เพื่อไทยรีบเขี่ยพ้นตัว "แม้ว" ไม่เกี่ยวกับพรรค แค่คนอยากกลับบ้าน "เศรษฐา" ในฐานะพ่อลูก 3 ยันไม่กระทบแลนด์สไลด์
ถล่มรัฐขึ้นค่าไฟ อ้างเอื้อนายทุน ต้มคนครั้งใหญ่!
สหภาพการไฟฟ้าฯ ยำรัฐบาล บริหารการผลิตไฟฟ้าเอื้อเอกชน ทำให้ค่าไฟแพงขึ้น เผยการผลิตไฟฟ้าอยู่ในมือเอกชนถึง 70% แนะหยุดเปิดโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพราะผลิตเกินจนประชาชนต้องแบกต้นทุนแทน "กรณ์" ซัดถือเป็นการต้มประชาชนครั้งใหญ่