ทส.ตั้งรักษาการอธิบดี หมายเรียกสอบ10ผอ.

ทส.ตั้ง "รุ่งนภา" รักษาการเก้าอี้อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสอบ ผอ.ทุกสำนัก-หัวหน้าอุทยานทุกแห่ง ปมซื้อขายตำแหน่ง อึ้งเก้าอี้เกรดเอจ่ายถึง 20 ล้าน ตร.ออกหมายเรียก 10 ชื่อบนซองแล้ว พร้อมให้ "ชัยวัฒน์" แจงข้อมูลเงินของกลางหลังปีใหม่

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในคดีเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริตว่า​ คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่ทาง ทส.ได้ตั้งขึ้นได้ข้อสรุป โดยในเบื้องต้นได้เสนอให้ย้ายตัวอธิบดี​กรมอุทยานฯ เข้ามายังส่วนกลาง แต่เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม​ ได้มีคำสั่งดึงตัวให้ไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้คำสั่งของกระทรวงไม่จำเป็นต้องออก นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีความเห็นให้สอบผู้อำนวยการสำนักทุกสำนัก เพื่อความชัดเจนในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่รายชื่อที่ปรากฏอยู่บนซองตามที่เป็นข่าว

นายวราวุธกล่าวว่า​ ได้ให้แนวทางให้ดำเนินการสอบสวนโดยเร็วที่สุด โดยความเร็วจะต้องควบคู่ไปกับความรอบคอบ​และครอบคลุมในทุกที่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจับตามอง ฉะนั้นต้องทำงานอย่างรอบคอบ และรับฟังความคิดเห็นจากข้าราชการที่ได้รับผลกระทบด้วย​ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ขณะที่ต้องดูตามระเบียบราชการ หากตรวจสอบย้อนหลังแล้วจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับภารกิจที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งต้องขอความชัดเจนจากนายจตุพร​ บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.

เมื่อถามว่า บทลงโทษจะเป็นอย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า คำตัดสินหรือข้อเท็จจริงที่ทำ คณะกรรมการฯ ได้ค้นพบมา จะมีกติกา โดยจะมีคณะกรรมการสามัญประจำกระทรวง​ หรือ อ.ก.พ. เป็นผู้ตัดสินแนวทางทั้งไล่ออก​ ปลดออก พักราชการ ซึ่งจะมีมาตรการในการดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ผ่านมาการทำงานของกระทรวง จะมีหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ​ (ป.ป.ท.​), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน​ (ปปง.​), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ (ป.ป.ช.) พิจารณา อย่างกรณีนี้ นอกจากข้าราชการในกระทรวงแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ป.ป.ช.มายังกระทรวง และกระทรวงจะดำเนินการตามแนวทาง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่จะสามารถกู้คืนภาพลักษณ์ของกระทรวงได้อย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า ด้วยปริมาณ เพื่อนข้าราชการที่เรามีอยู่ในกระทรวงหลายหมื่นชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การทำงานของกระทรวงที่ผ่านมา  ข้าราชการทุ่มเทอย่างเต็มที่ การทำงานจากนี้ไปคงจะต้องเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนในการยึดมั่นทำตามแนวนโยบาย ทั้งของรัฐบาลหรือของตนเอง ที่มีการกำชับในทุกการประชุมว่าต้องดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนภายใต้การเดินหน่วยงานที่โปร่งใสและตรงไปตรงมา อะไรผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อะไรที่ว่าถูกก็ดำเนินการกันต่อไป แต่ยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะช่วยคนผิดเด็ดขาด

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่เพียงแค่ตรวจสอบหน่วยงานที่ปรากฏชื่อบนซองใส่เงิน แต่ได้เรียก ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทุกสำนักทั่วประเทศทั้ง 16 สำนักมาสอบทั้งหมดด้วย และหลังจากนี้จะสอบหัวหน้าอุทยานทุกแห่งด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร

ส่วนกรณีการซื้อขายเก้าอี้ในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเลในราคาสูงถึง 20 ล้านบาท โดยเฉพาะอุทยานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว นายจตุพร กล่าวว่า เห็นตัวเลขแล้วตกใจ สงสัยเหมือนกันว่าจะมีใครยอมจ่ายด้วยเงินที่มากขนาดนั้น ยิ่งมีโควิดระบาดในช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวแทบไม่มีเลย แต่เพื่อความโปร่งใส จะมีการสอบสวนเรื่องนี้ด้วย

ปลัด ทส.กล่าวถึงผู้ที่เหมาะสมจะมาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ว่า ต้องมีความรู้ โดยเฉพาะความรู้เฉพาะด้านทั้งป่าไม้ ทรัพยากรและสัตว์ป่า มีสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแรง มีความอาวุโสที่เหมาะสม ที่สำคัญเลยมีความซื่อสัตย์สุจริต

ด้านนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัด ทส. ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการเรียกรับผลประโยชน์ในส่วนราชการ ของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งนางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นรักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ หากนางรุ่งนภาติดภารกิจ ก็ให้นายนริน ประทวนชัย และนายสิทธิชัย เสรีส่องแสง รองอธิบดีคนที่ 2 และ 3 ทำหน้าที่รักษาการตามลำดับต่อไป

วันเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ  (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนทำการออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏรายชื่ออยู่บนซองเงินของกลางที่ตรวจยึดได้จากภายในลิ้นชักโต๊ะทำงานของนายรัชฎา ให้มาเข้าให้ปากคำถึงที่ไปที่มาของซองเงินดังกล่าวในฐานะพยานไปบ้างแล้วเกือบ 10 ราย โดยนัดหมายให้มาพบช่วงหลังปีใหม่

เมื่อถามว่า หากกลุ่มผู้ให้ซองเงินที่ปรากฏรายชื่อปฏิเสธว่าซองเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินวิ่งเต้นโยกย้าย จะหนักใจหรือส่งผลต่อรูปคดีหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ขอแค่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ยอมให้ความร่วมมือมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เพียงเท่านั้น ซึ่งการมาเข้าพบพนักงานสอบสวน ก็เหมือนกับการเปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงที่ไปที่มาของเงิน แต่หากยังคงยืนยันว่าไม่ใช่เงินวิ่งเต้น ก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ขอให้เตรียมหลักฐานมาแสดงให้ดีพอก็แล้วกัน หากไม่อยากตกเป็นผู้ต้องหาร่วมไปด้วย

นอกจากการออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏรายชื่อบนซองเงินดังกล่าวแล้ว ทางพนักงานสอบสวนยังได้ประสานเชิญตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พยานปากสำคัญมาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อให้ช่วยชี้แจงว่าซองเงินของกลางที่พบจากห้องทำงานของผู้ต้องหานั้นเป็นเงินจากส่วนไหนบ้าง โดยจะนัดหมายให้มาพบหลังช่วงเทศกาลปีใหม่เช่นเดียวกัน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จะเดินทางไปยื่นถามคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 3 ม.ค.66 ถึงเหตุผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ระดับ A หมวดการป้องกันการทุจริต ได้คะแนนเต็ม 100 และเป็นเหตุให้สำนักปลัด ทส.ได้โล่รางวัลดีเยี่ยมด้วยหรือไม่ และการประเมินมีมาตรฐานที่จะเอาภาษีประชาชนไปละลายหรือไม่ ซึ่งควรทบทวนและเรียกคืนโล่รางวัลดังกล่าวหรือไม่ หลังมีการจับกุมอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินแลกกับการโยกย้ายข้าราชการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง