17ม.ค.ถึงคิว‘ป้อม’ แถลงนโยบายพปชร.สิ้นเดือนโชว์วิชั่น/ตู่สั่งรมต.รับซักฟอก

"บิ๊กตู่" นิ่งไม่ตอบสื่อ ยังปิดห้องคุยร่วมกัน 3 ป.เหมือนเดิม กำชับ "รมต." กลางวงประชุม ครม.เตรียมรับมืออภิปรายครั้งสุดท้าย "วิษณุ" ติว 20 ประเด็น ให้ รมต.ทุกกระทรวง นายกฯ แจงแต่งตั้งที่ปรึกษาฯ ไม่เกี่ยวการเมือง "พี่ป้อม" บอกยังคบ "น้องตู่" เหมือนเดิมแม้แยกทางการเมือง โชว์ฟิตลากยาวประชุม กก.บห.-กก.นโยบายพรรค พปชร. ลั่น 17 ม.ค. แถลงนโยบายพรรคเอง ส่วน 21 ม.ค.จัดประชุมใหญ่ 30 ม.ค. ระดมทุนพรรค "มิ่งขวัญ" ยังอยู่ร่วมประชุมกับบิ๊กป้อม "วีระกร" โดดหนี "พปชร." ซบ "ภท."  อนุทินเปิดตัว "พุทธิพงษ์" ช่วยงาน กทม. 11 ม.ค.นี้ "สภา" ล่มอีก

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 10 ม.ค. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนเมื่อถูกถามว่าเมื่อคืนนอนหลับหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระบุว่านอนไม่หลับหลายวัน ก่อนตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยได้เข้าห้องรับรองสีเหลือง ตึกสันติไมตรี เพื่อพูดคุยจิบกาแฟร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรร​ณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เหมือนเช่นเคย ก่อนที่จะไปเป็นประธานการประชุม ครม.

หลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสวัสดีและยกมือรับไหว้สื่อมวลชน จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะพูดอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่อยากเลย เมื่อถามอีกว่าอยากพูดอะไรหลังจากเปิดตัวสมัครสมาชิกพรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เป็นนายกฯ เมื่อถามว่าเป็นนายกฯ แล้วมีอะไรจะพูดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบพร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที เมื่อถามว่ามีการมองตอนนี้เหมือนเป็นสงครามตัวแทนระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ตรงนี้เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบแต่อย่างใด

ส่วน พล.อ.ประวิตรตอบคำถามถึงกรณีได้ติดตามการเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ว่า ตอบไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯ หลังจากเปิดตัวกับพรรค รทสช.ไปแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คุยทั้งวัน คุยทั้งวันนั่นแหละ คุยตั้งแต่เช้า แต่ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง

เมื่อถามย้ำว่า มีโอกาสจะคุยเรื่องการเมืองกับนายกฯ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่ายังคบกันเหมือนเดิมใช่หรือไม่  รองนายกฯ กล่าวว่า คบกันเหมือนเดิม  ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า พรรค พปชร.จะเปิดตัว พล.อ.ประวิตรเช่นเดียวกับพรรค รทสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อยู่พรรคมาตั้งกี่ปีแล้ว จะมาเปิดตัวอะไร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ลากิจไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองว่า สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นเวลานอกราชการ

ถามว่าการตั้งคนของพรรคการเมืองมาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ สามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทุกรัฐบาลก็ทำแบบนี้ เพราะมีโควตาที่ปรึกษาของนายกฯ ได้ 5 คน ก็ตั้งคนของพรรคการเมืองเข้ามา ถ้าไม่ตั้งของพรรคตัวเองก็เป็นของพรรคอื่น ทุกรัฐบาลทำแบบนี้ 

"ผมได้ตรวจสอบแล้ว และยืนยันว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง เป็นตำแหน่งลอยๆ เพราะตำแหน่งข้าราชการการเมืองคือตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีได้แค่ 5 คน และตอนนี้เต็มหมดแล้ว ดังนั้นตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จึงจะไม่ได้รับเงินเดือน และไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ โดยเป็นการแต่งตั้งตามระเบียบ กฎหมายการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11(6) ซึ่งเป็นบทบัญญัติเดียวกันกับการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีสามารถแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิมาเป็นที่ปรึกษา กรรมการ อนุกรรมการ หรือผู้มาช่วยงานอย่างไรก็ได้ และสามารถกำหนดสิทธิประโยชน์ให้กับบุคคลนั้นๆ เฉพาะเวลาที่ไปปฏิบัติภารกิจให้เท่านั้น" นายวิษณุกล่าว

กำชับ'รมต.'รับศึกซักฟอก

ถามว่า บางคนมีความกังวลว่าตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อาจจะไปขอให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือตัวเองเพื่อประโยชน์ทางการเมือง รองนายกฯ กล่าวว่า ไปทำเช่นนั้นไม่ได้ ยกเว้นแต่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คนที่เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีไปติดตามเรื่องการแก้ปัญหาตามเรื่องที่นายกฯ มอบหมายได้ตามสมควร

ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงข้อสั่งการนายกฯ ในการประชุม ครม.ว่า นายกฯ กล่าวถึงการที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยประธานผู้แทนราษฎรได้ประสานมายัง ครม.เพื่อขอทราบความพร้อมเกี่ยวกับกำหนดวันแถลงชี้แจงตามญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นการอภิปรายรัฐบาลโดยภาพรวม ไม่ใช่เป็นรายตัวบุคคล ซึ่งนายกฯ ขอให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงได้เตรียมความพร้อมในส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตน และขอให้ใช้โอกาสนี้เป็นการชี้แจงประชาชนทราบถึงการทำงานของรัฐบาล ส่วนการกำหนดวันที่เวลาที่เหมาะสมนั้น คาดการณ์ว่าจะเป็นกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะให้ฝ่ายวิปรัฐบาลเป็นผู้กำหนด

นายอนุชากล่าวว่า นายกฯ ยังกล่าวถึงความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข่าวแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนได้ โดยการแต่งตั้งดังกล่าวไม่ใช่ที่ปรึกษาที่รับผลตอบแทน เป็นการแต่งตั้งที่ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรเพิ่มเติม โดยในอนาคต ถ้ามีการแต่งตั้งลักษณะนี้ ขอให้ดูรายละเอียดตั้งแต่ตอนเริ่ม ถ้าเรียกว่าการแต่งตั้ง "ที่ปรึกษาของ" เน้นคำว่า "ของ" แสดงว่าจะไม่มีค่าตอบแทน แต่ถ้าเป็น "ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี" จะเป็นข้าราชการการเมือง

"ปัจจุบันมีการแต่งตั้งไป 5 คน คือนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม,  นายชุมพล กาญจนะ, นายเสกสกล อัตถาวงศ์ และนายดิสทัต โหตระกิตย์ โดยทั้ง 5 คน เป็นการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น" นายอนุชากล่าว 

มีรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.ให้น้ำหนักการประชุมไปที่การเตรียมความพร้อมรับการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ได้ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยเริ่มที่นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรัฐมนตรีประสานงานวิปรัฐบาลและรัฐสภา รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 ทางสภาจึงหารือมายังคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดวันอภิปราย โดยที่ประชุมระบุว่าควรให้เวลาอภิปราย 2 วัน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเห็นด้วยว่าควรใช้เวลา 2 วัน อาจจะเป็นช่วงกลางเดือน ก.พ. โดยให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ ก็ให้วิปไปคุยกัน แต่ขอให้เลือกวันที่เหมาะสม โดยไม่ให้กระทบการทำงานของทุกคน

"นายกฯ ได้กล่าวติดตลกว่า อยากให้ผ่านวันที่ 14 ก.พ. ก็จะดี ให้ผ่านวันแห่งความรักไปก่อนค่อยมาฟาดฟันกัน ไม่เช่นนั้นจะอาบเลือดกันไปเสียก่อน แต่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ขอให้ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมไว้เสมอ ให้ช่วยเหลือกัน เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ให้ช่วยกันตอบเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกพรรคการเมือง" แหล่งข่าวอ้างสิ่งที่นายกฯ ระบุ

ปลื้มกระแส'บิ๊กตู่'รทสช.ดี

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้อธิบายเพิ่มถึงญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านแบ่งย่อยได้ 20 เรื่อง ประกอบด้วย 1.สังคมมีความเหลื่อมล้ำ 2.ประมงพื้นบ้าน ประมงระดับชาติ 3.สวัสดิการของหญิงตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิด 4.ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ 5.เรื่องทุจริตในทุกระดับ รวมถึงดัชนีวัดด้านทุจริตสูงขึ้น 6.เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน 7.การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม 8.ปัญหายาเสพติด 9.การแก้รัฐธรรมนูญ 10.หนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนสะท้อนเศรษฐกิจล้มเหลว 11.ธนกิจการเมือง 12.จัดสรรงบประมาณไม่เป็นธรรม 13.การปราบปรามบ่อนการพนัน 14. อาชญากรรมข้ามชาติและการฟอกเงิน 15.อาชญากรรมเทคโนโลยี 16.การแก้ปัญหาความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ 17.มาตรการป้องกันอาชญากรรมที่รุนแรง 18.การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 19.ปฏิรูประบบราชการและการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และ 20.ยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน ใครรับผิดชอบอันไหนก็ให้ดูข้อมูลไว้ เพราะเกี่ยวกับทุกกระทรวงไม่ใช่เรื่องอภิปรายรายบุคคล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เน้นย้ำเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายของทุกกระทรวง ว่าขอให้รัฐมนตรีทุกคนดูเรื่องคุณสมบัติอย่างละเอียดก่อนจะพิจารณา และการที่ตนตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ ขึ้นมาหลายคนนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง เพราะแต่ละคนก็คอยให้ข้อมูลเป็นที่ปรึกษาอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม นายวิษณุยังกล่าวต่อที่ประชุมด้วยว่ามีคนสอบถามตนเข้ามามากว่าในการหาเสียงจะใช้รถหลวง ใช้ทีมรักษาความปลอดภัยที่ใช้ตามปกติเหมือนทุกวันนี้ได้หรือไม่ ซึ่งตนสอบถามไปยังเลขาฯ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ความว่าสามารถใช้ได้ตามปกติ เหมือนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่เราไปตลอด หรือสถานที่ต่างๆ ก็ใช้กัน เพียงแต่ขออย่าให้เวอร์เกินความจำเป็น

วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดตัวของ พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมงานพรรค รทสช.ว่า เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ กระแสนายกฯ ดีอยู่แล้ว ตนคิดว่าวันนี้ประชาชนตอบรับนายกฯเยอะมาก คิดว่ามีความแตกต่างกับตอนปี 2562 ที่ พล.อ.ประยุทธ์เสนอชื่อเป็นนายกฯ แต่วันนี้จากที่ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะลุยการเลือกตั้งเอง ฉะนั้นเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้มั่นใจว่าจะดีกว่าครั้งก่อน

ถามว่า การเปิดตัวของ พล.อ.ประยุทธ์จะกระทบกับความสัมพันธ์ของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า คงไม่พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรเป็นพี่น้องกันมา 40 ถึง 50 ปี ฉะนั้นตนมองว่าความสัมพันธ์นี้ยั่งยืนเหมือนเดิมทุกอย่าง เรารู้ว่าทั้งสองยังรักใคร่กันดีเหมือนเดิม

ซักว่าได้คุยกับกลุ่มสามมิตรหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ตนก็คุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมตลอด ตนคิดว่าท่านก็ยังมีเวลาอยู่ที่จะตัดสินใจ ซึ่งตนก็เคารพท่าน อยากให้ท่านมาช่วยนายกฯอยู่เหมือนเดิม

"จริงๆ แล้ว นายสมศักดิ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใกล้ชิดกับนายกฯ อยู่แล้ว เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และเหมือนเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว เรามีการคุยกันตลอด และได้เห็นบรรยากาศอย่างนี้มาโดยตลอด ผมคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ฉะนั้นการที่จะมาทำงานร่วมกันอีกไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้" นายธนกรกล่าว

ป้อมแถลงนโยบาย พปชร.

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวลา 15.00 น. พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีการประชุมกันถึงเรื่องการเตรียมแถลงนโยบายของพรรคในแต่ละด้านในวันที่ 17 ม.ค. การจัดประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 21 ม.ค. ที่จะมีการแก้ไขข้อบังคับ และแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคทดแทนตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น โดยไม่มีเงื่อนไขห้ามไม่ให้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเป็นกรรมการบริหารพรรค นอกจากนี้ยังเตรียมการจัดงานระดมทุนในวันที่ 30 ม.ค. ที่จะจัดขึ้นที่ห้องบางกอก คอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น 22 โรงแรมเซนทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในรูปแบบดินเนอร์ทอล์ก รูปแบบจะคล้ายครั้งก่อน เบื้องต้นจะเปิดให้ผู้สนับสนุนพรรคซื้อโต๊ะในราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท ขณะเดียวกันในงานระดมทุนของพรรค จะมีการปาฐกพิเศษและโชว์วิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นอกจากนั้นยังมีการเชิญวิทยากรมาบรรยายเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรค,  นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พล.อ.ประวิตรได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายพรรคต่อทันที โดยเป็นการนั่งประชุมต่อเนื่องยาวกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากมีวาระต่างๆ จำนวนมาก 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ยังได้เข้ามาประชุมคณะกรรมการนโยบายพรรคด้วย โดยเดินทางมาพร้อมกับ พล.อ.ประวิตร

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ในการแถลงนโยบายของพรรควันที่ 17 ม.ค. จะเดินทางมาแถลงด้วยตัวเอง

ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงการสรรหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แทนส.ส.พปชร.ที่ประกาศตัวออกไปว่า ต้องบอกว่าคนที่จะมาแทนในแต่ละเขตนั้นมีมากกว่า 1 คนด้วยซ้ำ และได้มีการคัดเลือกไปเยอะมากแล้ว

ถามว่า พรรคจะมีการหารือเพื่อประกาศให้ พล.อ.ประวิตรเป็นแคนเดตนายกฯ ได้เมื่อไหร่ นายสันติกล่าวว่า น่าจะเดือน ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการจัดประชุมใหญ่ จะเป็นวันไหนนั้น 2-3 วันนี้จะมีกำหนด ซึ่งเราต้องชูหัวหน้าพรรคของเรา

ถามถึงพื้นที่เลือกตั้งจะมีการเหลื่อมกันระหว่าง พปชร.กับ รทสช.หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า เรื่องชนกันนั้นมันชนกันทุกพรรคอยู่แล้ว เพราะการเลือกตั้งมีกติกา เราก็คงเข้าใจถ้าหลีกให้กัน ประชาชนจะยอมหรือ ประชาชนก็ไม่ได้เลือก เป็นการไปตัดอำนาจประชาชน

ถามย้ำว่า จะสู้เต็มที่ทุกเขตเลยใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า สู้เต็มที่ ไม่มีดีลพรรคพี่พรรคน้องหลบให้กันแน่นอน เมื่อถามว่าจะมีการปลุกกระแสพลังประชารัฐเเลนสไลด์หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า พยายามอยู่ แต่ว่าเราไม่คุย

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบคำถามถึงการเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์เข้าเป็นสมาชิกพรรค รทสช. เพียงแค่ส่งยิ้ม รวมทั้งเมื่อถามว่าจนถึงขนาดนี้ตัดสินใจได้หรือยังว่ายังคงอยู่พรรค พปชร.ต่อหรือไม่ นายสมศักดิ์ไม่ตอบ แต่พยักหน้ารับ

ประชุมรัฐสภาล่มอีก

ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัดหมายการประชุม ปรากฏว่าไม่สามารถเปิดประชุมได้ เนื่องจาก ส.ส.ลงชื่อไม่ครบองค์ประชุม ทำให้การล่าช้าออกไปชั่วโมงกว่า จนกระทั่งเวลา 10.12 น. มีสมาชิกแสดงตน 344 คน จึงสามารถเปิดประชุมได้ อย่างไรก็ตาม การประชุมไปเป็นอย่างกระท่อนกระแท่น การพิจารณาร่างกฎหมายแต่ละมาตราต้องรอเวลาเพื่อให้สมาชิกแสดงตน

นอกจากนี้ ระหว่างการอภิปรายมาตรา 5 ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวทิ้งท้ายหลังการอภิปรายในมาตราดังกล่าวว่า ตนขออภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จึงถือโอกาสขอกราบลาประธานไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาช่วงเย็นเวลา 17.00 น. เมื่อเข้าสู่การพิจารณามาตรา 7 ก็ยังคงมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ในฐานะทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวระหว่างรอว่า “ดูท่าจะไปลำบาก แต่ผมจะนั่งรอต่อไปเรื่อยๆ”

ทั้งนี้ ได้ใช้เวลารอสมาชิกแสดงตนถึง 25 นาที แต่ไม่สามารถประคองการประชุมต่อไปได้ ทำให้นายพรเพชรกล่าวว่า เนื่องจากได้องค์ประชุมเพียง 321 คน ถือว่าไม่ครบ และเห็นใจสมาชิกที่นั่งอยู่ จึงขอปิดการประชุมในเวลา 17.45 น.

นายวีระกรให้สัมภาษณ์ภายหลังการอภิปรายว่า ตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส.เรียบร้อยแล้ว มีผลวันที่ 10 ม.ค. เวลา 16.00 น. และจะแถลงเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคภูมิในไทย (ภท.) ในวันที่ 11 ม.ค. เวลา 09.00 น. เหตุผลที่ย้ายพรรคเนื่องจากมองว่าการเข้าถึง พล.อ.ประวิตรค่อนข้างที่จะยาก ส่วน ส.ส.นครสวรรค์ คนอื่นของพรรค พปชร. คือนายนิโรธ สุนทรเลขา และนายสัญญา นิลสุพรรณ ทราบว่าจะย้ายออกจากพรรค พปชร. เช่นกัน และน่าจะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดตัวนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อมาดูแล กทม.ว่า วันที่ 11 ม.ค.นี้ พรรคจะมีการประชุมและสรุปนโยบายการดำเนินงาน และแนะนำให้เห็นว่าใครคือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนได้คุยกับนายพุทธิพงษ์มาระยะหนึ่งแล้ว และแสดงเจตจำนงมาช่วยงานการเมืองให้พรรค โดยจะมารับผิดชอบพื้นที่ กทม. ซึ่งนายพุทธิพงษ์ได้เตรียมการมาระดับหนึ่งแล้ว

ถามถึงกระแสข่าวนายวีรศักดิ์ หวังศุภิจโกศล รมช.คมนาคม และกรรมการบริหารพรรค จะเลิกเล่นการเมือง นายอนุทินกล่าวว่า นายวีรศักดิ์บ่นมาว่าจะยุติการเมืองเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ตนจึงแจ้งให้ไปฟิตร่างกาย เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ ส่วนจะยุติหรือไม่ยังไม่ได้คุยกัน เพราะระยะหลังคุยกันแต่เรื่องสุขภาพไม่ได้คุยเรื่องการเมืองที่จะไม่อยู่กับพรรค แต่ที่ผ่านมานายวีรศักดิ์ก็มาร่วมกิจกรรมต่างๆ ของพรรคโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม นายวีรศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากตนมีปัญหาสุขภาพ และคุณหมอแนะนำไม่อยากให้เล่นการเมือง ตนจึงไปแจ้งต่อหัวหน้าพรรค และนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยว่าหลังจากนี้จะไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ โดยจะให้คนอื่นรับแทน และส่วนตัวจะยังสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการกำหนดวันพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายสุทินกล่าวว่า ทราบว่าทางประธานสภาฯ บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว แต่เหลือขั้นตอนการนัดหมายทั้งวิป 2 ฝ่ายคุยกัน เพื่อหารือกรอบเวลา แต่ประธานสภาฯ ยังไม่นัด ซึ่งก็คาดว่าในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ขัดฝ่ายรัฐบาล หากอยู่ในกำหนดวันช่วงปลายมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และขอแต่ว่าอย่ายุบสภาก็พอ

ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค สอท. ยอมรับพรรคมีความสนใจในตัวนายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย หากในอนาคตจะตัดสินใจร่วมงานกันในพรรคก็ยินดี.