"บิ๊กตู่" จ่อประเดิมลงพื้นที่ จ.ชุมพร ในฐานะสมาชิก รทสช. พบแฟนคลับ 28 ม.ค. "พี่ป้อม" ปาดหน้า "น้องตู่" อีกรอบ เตรียมยกคณะตรวจงานปากน้ำโพ 20 ม.ค. ก่อนปลายเดือนนายกฯ ลงพื้นที่ "ธนกร" ลั่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนายกฯ เป็นคนริเริ่ม "วิษณุ" เผยรอความชัดเจน ก่อนถก กกต.กำหนดไทม์ไลน์เลือกตั้ง เตือนไลฟ์สดเพจพรรคประชุมหน่วยงานรัฐสุ่มเสี่ยง "เขตรัฐ-เคภัทรพล" ซบพรรค รทสช. "ไพบูลย์" ถาม "โรม" เป็นใครกล้าประกาศไม่จับมือ "ประวิตร" เพื่อไทยคึกคักเดินตลาดนนทบุรี "อุ๊งอิ๊ง" เมินพปชร.เปิดนโยบายบัตร 700 บาท ยังกั๊กจับมือขั้ว พปชร. "เก่ง" ไขก๊อก พท. คาดซบเจ๊หน่อย
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 19 ม.ค.2566 จะลงพื้นที่ จ.ราชบุรี จากนั้นวันที่ 30 ม.ค. จะลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.พิจิตรและ จ.นครสวรรค์
ขณะที่ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์เตรียมจะลงพื้นที่ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นครั้งแรกที่ จ.ชุมพร ในวันเสาร์ที่ 28 ม.ค. ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงใหญ่ของนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ที่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช.ไปก่อนหน้านี้ โดยพื้นที่ จ.ชุมพร ถือเป็น 1 ในพื้นที่ความหวังที่ พรรค รทสช.ต้องการชนะยกจังหวัดทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง เนื่องจากนายชุมพลมีฐานเสียงที่เข้มแข็งในพื้นที่ จ.ชุมพรมาหลายสมัย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี ของ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะในวันที่ 19 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น. จะออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังไปยังจุดจอด ฮ. กรมการทหารช่าง (ค่ายภาณุรังษี) ตำบลพงสวาย อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี และเดินทางไปยังวัดโขลงสุวรรณคีรี อ.เมืองราชบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีวัฒนธรรมชุมชนไท-ยวน ชุมชนคุณธรรม และกาดวิถีชุมชนคูบัว ซึ่งเป็นความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชนตามหลัก “บวร” เพื่อใช้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าและเพิ่มรายได้ให้กับคนใน
จากนั้น เวลา 16.30 น. จะเป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนบริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา อ.เมืองราชบุรี และเดินทางกลับ กทม. ในเวลา 18.30 น.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) ก็มีภารกิจตรวจราชการพื้นที่ จ.พิษณุโลกและ จ.นครสรรรค์ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยช่วงเช้าจะเดินทางไปกราบสักการะพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก และติดตามผลการดำเนินงานก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน เพื่อมอบนโยบายก่อนพบปะประชาชน จากนั้นเดินทางไปยังโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน (ช่วงที่ 1) ต.วัดจันทร์ อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก เพื่อรับฟังความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน (ช่วงที่ 1) และพบปะประชาชน
ส่วนช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรและคณะ จะเดินทางไปที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ต.พระนอน จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาล อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หน่วงน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากสี่แควโมเดล ที่ห้องประชุมศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ให้กับผู้ว่าฯ นครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ป้อมปาดหน้าตู่อีกรอบ
นอกจากนี้จะเดินทางไปที่โครงการแก้มลิงบ้านแหลมทอง รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินโครงการในพื้นที่และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพ และปล่อยปลาบริเวณหน้าอาคารสำนักงานการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ และพบประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ดและแก้มลิงบ้านแหลมทอง และเดินทางกลับ กทม.ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ครั้งนี้ ถูกจับตามองว่าเกิดขึ้นหลังจาก ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ลาออกไปอยู่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรค รทสช. ขณะที่บางส่วนยังไม่ตัดสินใจชัดเจน และยังเป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นการเดินทางไปล่วงหน้า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะไป หลังจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค. พล.อ.ประวิตรได้ลาประชุม ครม. เพื่อเดินทางไป จ.ราชบุรี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะลงไปไม่กี่วัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามกรณีพรรค พปชร.เปิดนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 ต่อเดือน เป็นการเกทับพรรคเพื่อไทย (พท.)กรณีนโยบายค่าแรง 600 บาทหรือไม่ว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเริ่มดำเนินการครั้งแรกเมี่อปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ให้แนวคิดเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการของประเทศไทยในรอบหลายสิบปี โดยให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย จนสามารถระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง ซึ่งผู้รับสิทธิโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2559 จำนวนทั้งสิ้น 7.7 ล้านราย ล่าสุดข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน ณ วันที่ 1 ม.ค.2566 มีจำนวน 13.22 ล้านราย
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐบาลหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อวางไทม์ไลน์เลือกตั้งว่า ยังไม่มีการหารือ เพราะมีเงื่อนไขอยู่ 3 อย่างคือ ยุบสภาก่อนหมดสมัยประชุม, ยุบสภาหลังปิดสมัยประชุม และไม่ยุบสภา ปล่อยให้สภาหมดวาระวันที่ 23 มี.ค. โดยทั้ง 3 อย่างจะมีวิธีการต่างกัน จึงยังไม่รู้จะเชิญ กกต.มาหารืออย่างไร
"วันนี้ที่ กกต.วางไทม์ไลน์ไว้คือรัฐบาลอยู่ครบวาระ อย่างไรก็ตาม หากรู้แนวทางที่ชัดเจนจะเชิญ กกต.มาหารือทันที ไม่ใช่เราจะไม่หารือ เพียงแต่ยังหารือตอนนี้ไม่ได้ ยืนยันว่าดำเนินการทัน ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น ผมได้สอบถาม กกต.ไปแล้ว คาดว่าจะใช้ประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่ง กกต.มีงบประมาณที่เหลือจากปีก่อนๆ และรัฐบาลเพิ่มไปอีกจำนวนหนึ่ง" นายวิษณุกล่าว
ถามถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 รัฐบาลมีโจทย์หรือไม่ว่าจะให้พิจารณาวันใด นายวิษณุกล่าวว่า มี คือตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ ขอให้วิปไปตกลงกันในเรื่องนี้ จะยาวถึงวันที่ 28 ก.พ.ก็ยังได้
ถามว่า กกต.ได้ประสานมายังรัฐบาลถึงกรอบการลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เขาไม่จำเป็นต้องมาหารือ หากผิด กกต.ก็สั่งเลยว่าผิด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่กลัวจะมีคนอื่นทำซ้ำ กกต.จะประกาศมาเอง
ซักว่ากรณีมีการประชุมของส่วนราชการที่มีสมาชิกพรรคการเมืองเป็นประธานหรือร่วมประชุม สามารถถ่ายทอดทางเพจเฟซบุ๊กของพรรคการเมืองได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นความเสี่ยงหากพรรคการเมืองเอาไปถ่ายทอดเอง แต่ต้องดูทั้งหมดถึงจะตัดสินได้ว่าเป็นการทำซ้ำหรือไม่ หรือถ่ายทอดเพื่อแฝงประโยชน์ทางการเมือง เรื่องนี้ถือว่ามีรายละเอียด ตนคงตอบไม่ถูก
"เพจพรรคการเมืองสามารถถ่ายทอดได้ แต่คำพูดไม่ควรแฝงการหาเสียง อย่างกรณีขึ้นไปอวยพรงานแต่งงานไม่มีใครห้าม แต่อวยพรในลักษณะหาเสียงไม่ได้ ไม่ได้ห้ามผู้สมัคร ส.ส.ทำกิจกรรมสังคม ไปงานศพและให้ซองได้ เพียงแต่อย่าเกิน 3,000 บาท" รองนายกฯ กล่าว
มีรายงานจาก กกต. กรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) เตรียมนำหลักฐานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของพรรค รทสช.ให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองหลายพรรคจัดกิจกรรมประชุมใหญ่เปิดแถลงนโยบายการเลือกตั้ง จัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จัดประชุมตัวแทนประจำจังหวัด และจัดประชุมสาขาพรรค เป็นต้น โดยทุกกิจกรรมที่แต่ละพรรคการเมืองดำเนินการเมื่อแจ้งเข้ามา ทาง กกต.แต่ละจังหวัดจะมอบหมายเจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์ทุกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดของการจัดงาน และมติของผลการประชุม เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมารวบรวมเป็นรายงานเสนอให้เลขาธิการ กกต.ได้รับทราบ
"การจัดงานของพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ไปสมัครเข้าพรรคและมีปราศรัยนั้น
ฝ่ายกฎหมายของ กกต.จังหวัด พนักงานสืบสวน สายข่าวที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ใดแจ้งหรือร้องคัดค้านเข้ามา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความละเอียดรอบคอบ เป็นไปตามกรอบกฎหมาย โดยไม่ได้นิ่งนอนใจ ยืนยันว่าต้องดำเนินการตรวจสอบหมดไม่มีละเว้น หากผลออกมาเป็นอย่างไร จะต้องแจ้งให้เลขาธิการ กกต.รับทราบตามขั้นตอนอยู่แล้ว" แหล่งข่าวจาก กกต.ระบุ
ที่พรรค รทสช. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้รับใบสมัครเข้าพรรค รทสช. ของนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง
นายเอกนัฏกล่าวว่า นายเขตรัฐจะลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตกรุงเทพมหานคร และพรรคจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเขตกทม.ในเร็วๆ นี้ และในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะมีการนัดประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังรอความชัดเจนในการแบ่งเขตจาก กกต.ก่อน ซึ่งพรรคจะเร่งทำงาน และแนะนำตัวผู้สมัครในพื้นที่ คาดว่าจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายของพรรคภายในเดือนก.พ.นี้
"ภายหลังมีการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ไปเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ก็มีเสียงจากสมาชิกและแฟนคลับจากต่างจังหวัด เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่พบปะประชาชนในทั่วทุกภาค และพยายามจะไปให้ครบทุกภาค และไปในจุดที่ง่ายต่อการเดินทาง" นายเอกนัฏกล่าว
ถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่จ.ราชบุรีไปก่อน พล.อ.ประยุทธ์ เลขาพรรค รทสช. กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่มีผลกระทบ เป็นเรื่องธรรมดาของการปฏิบัติราชการ แต่อีกส่วนหนึ่งคือในฐานะสมาชิกพรรค ก็ไปในเวลานอกราชการ อาจใช้เวลาในช่วงเย็นหรือวันหยุดให้คุ้มค่า
สอบอีเวนต์เปิดตัว 'บิ๊กตู่'
ต่อมานายเอกนัฏพร้อมด้วยนายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ เปิดตัว เคภัทรพล หรือนายภัทรพล แก้วสกุณี ดารานักแสดงจากละครสารวัตรใหญ่ เตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตอำเภอลำลูกกา เฉพาะเขตเทศบาลเมืองคูคต เทศบาลเมืองลำสามแก้ว และเทศบาลเมืองลาดสวาย และนางประเสริฐศรี ฮ้อแสงชัย ว่าที่ผู้สมัครเขต อ.เมืองปทุมธานี (เฉพาะ ต.สวนพริกไทย) อ.คลองหลวง (เฉพาะเทศบาลเมืองคลองหลวง) อ.ธัญบุรี (เฉพาะ ต.ประชาธิปัตย์)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภัทรพลนั้นเดิมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และได้ยื่นใบลาออกไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีรายงานว่า พรรค พปชร.เตรียมจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น. โดยระเบียบวาระการประชุมประกอบด้วย เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม รับรองรายงานการประชุม แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง เลือกตั้งกรรมการสรรหาแทนตำแหน่งที่ว่าง และเรื่องอื่นๆ
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาประกาศไม่จับกับพรรค พปชร. หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันว่าสามารถร่วมงานได้กับทุกพรรคการเมืองว่า สิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดเป็นธรรมดาที่จะต้องเปิดกว้าง ใครที่จะพูดคุยกับหัวหน้าพรรคก็ยินดี
"ส่วนตัวสำหรับพรรคก้าวไกล ตราบใดที่มีนโยบายจะแก้ไขมาตรา 112 ไม่มีวันคุยด้วย และส่วนตัวเชื่อว่าในพรรค พปชร.ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน เรารับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ส่วนที่นายรังสิมันต์ออกมาประกาศไม่จับมือกับพรรค พปชร. ก็ถือว่าเป็นความเห็นของเขา แต่สำหรับพรรค พปชร. ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง เช่นเดียวกับเรื่องที่นายรังสิมันต์ระบุการลาประชุม ครม.ของ พล.อ.ประวิตร เพื่อไปแถลงนโยบาย เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไม่ให้ราคานั้น ขอย้อนถามว่านายรังสิมันต์เป็นใคร เป็นความเห็นของนายรังสิมันต์แค่คนเดียว ไม่เห็นต้องไปสนใจ เป็น ส.ส.แล้วอย่างไร ยืนยันได้ว่าการทำงานของพรรค พปชร.ยึดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมายต่างจากบางพรรคที่ไปเสนอแก้ไขมาตรา 112" นายไพบูลย์กล่าว
ถามถึงความเป็นไปได้กับการจับมือกับพรรคเพื่อไทย นายไพบูลย์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรกล่าวชัดเจนว่าหลังการเลือกตั้ง ก็พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ติดต่อมา แต่ไม่ใช่ พล.อ.ประวิตรเสนอตัวไปพูดกับเขาเอง แต่พรรคการเมืองไหนโทร.ไปหลังเลือกตั้ง ก็พร้อมที่จะพูดคุยด้วยทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ให้สัมภาษณ์ไม่พร้อมจับมือกับพรรค พปชร. นายไพบูลย์กล่าวว่า ก็ถูกแล้ว เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง ทุกพรรคเมื่อถึงเวลาก็ต้องแข่งขันกันในสนามเลือกตั้ง อย่าเพิ่งพูดว่าใครเป็นใคร หรือใครผูกมิตรกับใคร ไม่มีทั้งสิ้น แต่หลังจากการเลือกตั้งแล้วทุกพรรคการเมืองก็จะพูดคุยกัน ให้รอดู อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ในบรรดาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด ขอย้ำเลยว่า พล.อ.ประวิตรเป็นคนเดียวที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มากที่สุด
อุ๊งอิ๊งยังกั๊กจับมือลุงป้อม
วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พร้อมด้วย ส.ส.นนทบุรี และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่นตลาดสดนนทบุรี จ.นนทบุรี จากนั้นได้เดินทางมาที่ตลาดกรมชลประทาน พบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาค้าขายภายในพื้นที่
น.ส.แพทองธารได้สอบถามถึงการค้าขายและภาวะเศรษฐกิจกับแม่ค้าร้านขนมครก ปาท่องโก๋ ร้านขายไข่ไก่และร้านผักสด และให้กำลังใจอวยพรให้ค้าขายดี
นพ.ชลน่านกล่าวว่า จ.นนทบุรีมีทั้งหมด 8 เขต เราคัดเลือกผู้สมัครแล้วเรียบร้อย และมีความมั่นใจในพื้นที่มาตลอดเรามั่นใจจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยทั้ง 8 เขต เรามั่นใจผู้สมัครมีความแน่นแฟ้นในพื้นที่ ทำให้เรามั่นใจกว่าเดิม
ถามถึงนโยบายพรรค พปชร.เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาท จะเป็นการบลัฟพรรค พท.ในนโยบายค่าแรง 600 บาทหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราพูดและเราสัญญาในสิ่งที่มั่นใจว่าเราทำได้ ในส่วนพรรคอื่นก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นที่พิจารณากันเอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าภายในปี 2570 จะทำให้ได้ตามที่บอกประชาชน ส่วนนโยบายพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นวิธีที่ไม่เหมือนกัน
ถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตรทอดไมตรีพร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรคเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นเรื่องดี แต่เรายึดหลักประชาธิปไตยและเราหาเสียงแบบแลนด์สไลด์ เพราะต้องการที่จะทำให้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นจริงให้ประชาชน ถ้าต้องจับมือพรรคร่วมอย่างที่บอกนโยบายหรือแนวคิดต้องเป็นในแนวทางเดียวกัน เพราะเป็นทิศทางที่ประชาชนผ่านแล้วถึงเลือกเรา เรายึดสิ่งนั้นเป็นหลัก
ซักว่า ถ้าพรรค พปชร.ทอดไมตรีมาหาพรรค พท.ก่อนมีความเป็นไปได้ที่จะเห็น 2 พรรคนี้จับมือกันหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปมากที่จะตอบ เราอยากให้เกิดแลนด์สไลด์ ทุกคะแนนเสียงอย่าปันใจให้พรรคอื่น ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพราะประเทศไม่ไหวแล้ว ต้องใช้นโยบายที่จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เกมการเมืองคือการเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนเกมการเมืองอย่างอื่นที่เป็นดรามานั้นไม่สำคัญ และไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือปากท้องของประชาชน
ที่ร้านฟอเรสต้าคาเฟ่ เขตดอนเมือง นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนชาวดอนเมืองมาร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยนายการุณกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากอีกวันหนึ่งที่จะต้องก้าวข้ามไป ตัดสินใจและคิดมานานพอสมควร อยากก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามวิกฤตที่เจอมาหลายรอบ
จากนั้นนายการุณได้อ่านจดหมายที่ร่างด้วยลายมือ มีเนื้อหาสรุปว่า “พี่น้องที่รัก ผมขอบคุณและซาบซึ้งถึงโอกาส ที่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ที่ให้มาตลอด ขอบคุณนายกฯ ในดวงใจทั้งสองท่าน คือนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ให้โอกาสได้เข้ามารับใช้ประชาชน ขอยืนยันตรงนี้ด้วยเกียรติว่า จะไม่มีวันทำร้าย ไม่มีวันให้ร้าย อดีตนายกฯ ที่ผมรักทั้งสองท่าน ผมการุณ โหสกุล มีหัวใจดวงเดิมที่ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ จุดยืนของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ขอกราบลาอดีตนายกฯ ทั้งสองท่าน และผู้ใหญ่ในพรรคที่ให้ความกรุณา ผมขอลาออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ภารกิจของผมหลังจากนี้คือร่วมมือกับพี่น้องที่มีหัวใจดวงเดียวกันคือรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญต้านรัฐประหาร ส่งมอบประเทศไทยที่ดีกว่าให้ลูกหลาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายการุณอ่านจดหมายจบ ประชาชนชาวดอนเมืองได้กรูกันไปให้ดอกไม้ให้กำลังใจ และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยบางส่วนมาร่วมให้กำลังใจนายการุณด้วย โดยคาดว่าเร็วๆ นี้ นายการุณจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค
ที่พรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค พร้อมแกนนำพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค ที่ปรึกษาพรรค กรรมการบริหารพรรค หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้าประจำจังหวัด และสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า จะได้มีการเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ได้จัดทำขึ้นโดยคณะทำงานด้านนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อนำไปเป็นนโนบายในการหาเสียงของพรรคชาติพัฒนากล้าต่อไป โดยใช้ชื่อว่า “รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจให้ทุกคนมีโอกาส เปิดนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า ที่จะทำให้คนไทย “งานดี มีเงิน ของไม่แพง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
นายกฯ อิ๊งค์บอกข่าวดี! เมียนมาจะปล่อย 4 คนไทยหลังปีใหม่
นายกฯ เผยข่าวดีปม 4 คนไทยเรียบร้อยหลังปีใหม่ ส่วนเรื่องคดีความต้องคุยกันต่อ