ไม่ติดใจป้อมปาดหน้า ‘พีระพันธุ์-บิ๊กตู่’ไม่คิดเล็กคิดน้อยลุยราชบุรีคึกคัก

"บิ๊กตู่" ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี พร้อมเปิดงานตรุษจีน กองเชียร์แห่ให้กำลังใจคึกคัก ชมนายกฯ หล่อมาก บอก "อย่าชมมากเดี๋ยวผมเหลิง" 2 ส.ส.พปชร.-ปชป.รอต้อนรับ ไร้เงา "มาดามวุ้น" บ้านใหญ่เมืองโอ่ง "พีระพันธุ์" แย้ม "รทสช." เตรียมจัดเต็มแผนพา "ลุงตู่" ลุยหาเสียง วางคิวนอกเวลาราชการไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เผยนายกฯ ไม่ติดใจ "บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่ปาดหน้า "เอกนัฏ" เมินโดนร้อง กกต.สอบพรรคเปิดตัว "ประยุทธ์" ผิด กม. ยันทำทุกอย่างถูกต้อง "เสื้อแดงนครพนม" โวย "พท." วางตัวผู้สมัครไม่ถามชาวบ้าน เตือนโอกาสดับฝันแลนด์สไลด์สูง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท ไปยังจุดจอด ฮ. กรมการทหารช่าง (ค่ายภาณุรังษี) ตำบาลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เพื่อตรวจราชการจังหวัดราชบุรี เมื่อเดินทางถึงนายกฯ เดินทางได้ตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีวัฒนธรรมชุมชนไท-ยวน ที่ชุมชนคุณธรรม และกาดวิถีชุมชนคูบัว ที่วัดโขลงสุวรรณคีรี ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี มีนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), นายมานิต นพอมรวดี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาต้อนรับ

โดยนายกฯ สักการะพระพุทธศรีสุวรรณภูมิ และนมัสการพระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรว์โส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี  พร้อมถวายจตุปัจจัยแด่พระครูใบฎีกา ซึ่งพระครูใบฎีกาได้ให้ศีลให้พร พร้อมมอบรูปหล่อจำลองขุนหญิงกวักทองมา พระแม่ผู้ปันโชคลาภ รุ่นบันดาลโชคลาภ ให้กับนายกฯ

จากนั้นไปตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีวัฒนธรรมชุมชนไท-ยวน โดยมีชาวบ้านให้กำลังใจพร้อมชมว่านายกฯ หล่อมาก ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้กำลังใจ และกระเซ้ากลับชาวบ้านว่า "อย่าชมมากเดี๋ยวผมเหลิง"  พร้อมขอให้ชาวบ้านค้าขายดี โชคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้แม้จะมาในนามนายกฯ เพื่อตรวจราชการ แต่ปรากฏว่าที่จุดแรกยังมีประชาชนบางส่วนสวมเสื้อพรรค รทสช.มาต้อนรับ รวมทั้งยังมีกลุ่มอาสาสมัครแรงงานสวมเสื้อสีเหลือง ด้านหลังปักชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พร้อมถือป้ายข้อความ อาทิ ลุงตู่ของประชาชน, เรารักลุงตู่ อาสาสมัครแรงงานจังหวัดราชบุรี, ลุงตู่สู้ๆ, ลุงตู่อยู่นานๆ, นายกฯ ในดวงใจ มารอต้อนรับด้วย รวมทั้งบริเวณทางเข้ามีป้ายพรรค รทสช.ที่มีรูปนายพีระพันธุ์และนายเกชา

เวลา 17.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปบริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา เป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี โดยนายกฯ สวมเสื้อถังจวงลายมังกรสีทอง เมื่อมาถึงผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมพี่ชายต้อนรับ ซึ่งทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์เห็น น.ส.ปารีณา ถึงกับกล่าวว่า “เฮ้ย เชียร์อยู่นะ สบายดีไหม ใจเย็นลงแล้วนะ” ซึ่งบรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานเทศกาลตรุษจีนตอนหนึ่งว่า วันนี้ได้รับข่าวดี รัฐบาลจีนได้เปิดประเทศแล้ว ในลักษณะจะให้กรุ๊ปทัวร์มาไทยเป็นนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งเดิมปัจจุบันเราก็เปิดแล้ว โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่จะให้กรุ๊ปทัวร์มาเยือน ซึ่งขอบคุณมากทุกคน

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอวยพร เทศกาลตรุษจีนเป็นภาษาจีนว่า ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ สุขสมหวังและร่ำรวยตลอดปี

ราชบุรีคึกคักเชียร์บิ๊กตู่

ขณะเดียวกัน ยังมีบรรดาผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และพรรครวมไทยสร้างชาติทยอยเดินทางมาพร้อมป้ายสนับสนุน มีข้อความ อาทิ ชาวราชบุรียินดีต้อนรับ ลุงตู่อยู่ต่อไปยาวๆ เชียร์ลุง, ซื่อสัตย์ จริงใจ ไร้โกง, FC ลุงตู่ Love Love, ลุงตู่ ที่สุดเลย ขณะที่ภายในงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมารอต้อนรับด้วยชุดเสื้อสีแดงร่วมกับชาวไทยเชื้อสายจีนที่พร้อมใจกันสวมชุดสีแดง

อย่างไรก็ตาม ในจุดนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมนายสีหเดช ไกรคุปต์ พี่ชาย ได้สวมเสื้อสีแดงมาร่วมงาน และยังมี ส.ส. เช่น น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ, นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 4 ประชาธิปัตย์ เข้าร่วมงาน

ส่วนนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หรือมาดามวุ้น ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาพบ โดยคนใกล้ชิดระบุว่าที่ไม่ได้มาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ของตนเอง

ต่อมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับปฏิเสธตอบคำถามถึงการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกฯ​ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มักจะชิงลงพื้นที่ก่อน ซึ่งถือเป็นการตัดหน้า​ โดยกล่าวสั้นๆ ว่า​ ดูเอาแล้วกัน เมื่อถามว่าพอใจหรือไม่กับการลงพื้นที่ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้มาตรวจราชการนะ​ ก็พอใจแหละ

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงกรณีพรรค รทสช.วางแผนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะสมาชิกพรรค รทสช.และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ลงพื้นที่จังหวัดชุมพรในวันที่ 28  ก.พ.นี้ว่า ขณะนี้กำลังจัด ซึ่งเป็นการไปลงพื้นที่พบประชาชน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ เป็นวันหยุดราชการ และถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรม ในนามพรรค รทสช. นอกจากจังหวัดชุมพรแล้วก็จะมีจังหวัดอื่นๆ อีก รวมถึงในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน โดยจะพยายามลงพื้นที่ทั่วประเทศ

"เหตุผลที่เลือกจังหวัดชุมพรเป็นพื้นที่แรก เพราะมีความพร้อม คงไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์เป็นพิเศษ ประชาชนเป็นการพบประชาชนในแบบปกติ บางคนอาจจะบอกว่าเซอร์ไพรส์ และบางคนอาจจะบอกว่าไม่เซอร์ไพรส์ก็ได้ก็ แล้วแต่มุมมอง พรรคมีเป้าหมายหลายพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดชุมพร ที่จะพา พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ สำหรับเรื่องนโยบายของพรรคจะเริ่มทยอยออกตั้งแต่เดือนหน้า" นายพีระพันธุ์กล่าว

หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า ในเรื่องการลงพื้นที่หาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามพร้อมที่จะให้ลงพื้นที่หาเสียงได้เมื่อใด ซึ่งทางพรรคเองก็เห็นว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายใกล้จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นจากนี้ไปทางพรรคจะจัดให้มีลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์นอกเวลาราชการ ทั้งวันเสาร์-อาทิตย์และวันธรรมดา ในหลายๆพื้นที่ทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ

ถามว่า การลงพื้นที่จังหวัดชุมพรพล.อ.ประยุทธ์จะมีการปราศรัยบนเวทีด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ท่านต้องพบประชาชนและทักทายประชาชนอยู่แล้ว ก็คงจะต้องมีเวทีให้ และทางจังหวัดชุมพรก็พร้อมจัดในวันที่ 28 ม.ค.นี้

ซักว่าการหาเสียงที่ พล.อ.ประยุทธ์สามารถอยู่ได้ 2 ปี จะทำให้ลำบากหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยว การทำงานการเมืองเรื่อง 2 ปี เป็นแค่ตำแหน่งนายกฯ แต่ไม่ได้ห้ามทำงานการเมือง และความจริงคนที่มีศักยภาพเหมือนท่าน ก็สามารถสร้างสรรค์คนใหม่ๆ ขึ้นมาแทนได้ที่ดีแบบท่าน ไม่ใช่ว่าครบ  2 ปีแล้วต้องหยุด ไม่เกี่ยว หากท่านมีความปรารถนาจะทำงานให้กับส่วนรวม ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นนายกฯ ตลอดไป เราจะต้องช่วยกันพัฒนาคนใหม่และเด็กใหม่ขึ้นมาทำพรรคให้ดี เพื่อรองรับอนาคตข้างหน้า

ไม่ติดใจ'ป้อม'ปาดหน้า

นายพีระพันธุ์กล่าวถึงเสียงวิจารณ์กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ปาดหน้าลงพื้นที่ในหลายจังหวัดว่า เรื่องนี้ไม่ได้มองว่าเป็นการปาดหน้า หากใครจะมองเช่นนั้นก็แล้วแต่ สำหรับตนไม่ได้สนใจ การเมืองใหญ่ไม่ควรจะมาคิดเล็กคิดน้อย สำหรับตนไม่ได้ติดใจ และไม่ได้มีปัญหาใดๆ ต่างคนต่างก็ต้องทำงานกันทั้งนั้น เข้าใจดีว่าทุกพรรคการเมืองก็ต้องลงพื้นที่กันทั้งนั้น เพียงแต่ใครจะลงแบบไหนอย่างไรก็แล้วแต่ เป็นนักการเมืองก็ต้องหัดใจกว้างกันบ้าง ไม่ใช่มาคิดอะไรจุกจิกๆ

"นายกฯ ก็ไม่ได้คิด นายกฯ เข้าใจว่าทุกคนก็ต้องทำงาน เข้าใจดีถึงภาระหน้าที่ของพรรคการเมือง และหน้าที่การเป็นนักการเมืองก็ต้องแบบนี้ ทุกคนก็ต้องหาเสียง ต้องมีความใกล้ชิดประชาชน ทุกพรรคก็มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้เหมือนกัน" นายพีระพันธุ์กล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นประธานการประชุมคณะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เพื่อซักซ้อมวางแผนการทำงานในพื้นที่ กทม. รวมถึงวางแผนเรื่องการสื่อสารและเตรียมพร้อมการจัดทำแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

นายเอกนัฏกล่าวว่า การเตรียมตัวผู้สมัคร กทม.ตอนนี้มีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้า กกต.มีประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ได้ชัดเจนเมื่อไหร่ พรรคก็พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 33 เขต แต่ถ้า กกต.ประกาศแบ่งเขตล่าช้ามาก เราอาจเปิดตัวผู้สมัครก่อนก็ได้ ซึ่งเราเปิดกว้างให้ทุกคนในพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานที่ไปลงพื้นที่ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดและออกแบบแนวทางการสื่อสารกับประชาชน และนโยบายที่ถูกใจคนกรุงเทพฯ

ถามว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์มีกระแสการตอบรับที่ดีมากในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้กระแสดังกล่าวจะยังใช้ได้อยู่หรือไม่ เลขาฯ พรรค รทสช.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการเป็นผู้นำประเทศในสภาวะขณะนี้ และเชื่อว่าแม้กติกาการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่คนกรุงเทพฯ มีส่วนมากที่ตัดสินใจจะเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อให้คนเหล่านี้ไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ตนจึงยังมั่นใจในกระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์

ถามถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย ร้องต่อ กกต. กล่าวอ้างพรรค รทสช.กระทำผิด 5 ประเด็นในวันงานเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์นั้น เลขาฯพรรค รทสช.กล่าวว่า ยืนยันทุกอย่างทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ กกต.ในการชี้แจงเรื่องนี้ เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความเปิดเผย ไม่ได้ทำอะไรที่ลับๆล่อๆ หรือผิดกฎหมาย และ กกต.ก็เข้ามาสังเกตการณ์ตั้งแต่การร่วมประชุม

ซักว่าผู้ยื่นร้องได้นำหลักฐานเป็นเสื้อและหมวกที่แจกให้กับผู้มาร่วมงานไปยื่นร้องต่อ กกต.ด้วย นายเอกนัฏกล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนี้พรรคจะต้องไปพิจารณาว่าจะไปร้องหรือไม่ว่าทั้งสองคนลักลอบเอาทรัพย์สินของพรรคออกจากห้องประชุม  เพราะถือเป็นหลักฐานได้เช่นกัน เพราะทั้งเสื้อและหมวกถือเป็นทรัพย์สินของพรรคที่ให้ใช้ในห้องประชุมที่จัดกิจกรรมเท่านั้น ถ้าทั้งสองคนไปนำทรัพย์สินเหล่านี้ออกมา ก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะถูกดำเนินคดีหรือไม่

ถามถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทั้งพลังประชารัฐ (พปชร.) และ รทสช.ต่างแย่งกันใช้นโยบายนี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคตั้งใจว่าจะต่อยอดโครงการนี้  เพราะเราเชื่อว่าการที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ก็จะต้องมีการปูพื้นด้านสวัสดิการที่เป็นธรรม สำหรับทุกคนไม่จำกัดอาชีพ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม หากพรรคไหนจะนำไปใช้ ก็ต้องดูว่าคนเชื่อหรือเปล่า ในต่างจังหวัดตนได้ยินเขาพูดกันสั้นๆ ว่า บัตรลุงตู่ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะบัตรนี้เกิดขึ้นในยุคลุงตู่

เสื้อแดงนครพนมโวย พท.

ส่วนนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายสมชัยยื่นร้อง กกต.

ตรวจสอบพรรค รสทช.วันเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งเรื่องการปราศรัยของนายไตรรงค์ ที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายว่า "เรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วจะให้เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมันเป็นเรื่องได้อย่างไร ไปร้องก็ช่างหัวมันปะไร นี่แหละคำตอบผม เพราะผมเป็นคนอย่างนี้ ช่างหัวมึง มึงไปร้องที่ไหนก็เชิญ ก็ผมมันเด็กบ้านนอก ผมไม่ใช่ลูกผู้ดีนะ”

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่อ กกต. พร้อมระบุว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.กับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมจะเข้าสังกัดพรรค รทสช. เพื่อช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ในเร็วๆ นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีการวิจารณ์การลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการปาดหน้าแย่งชิง ส.ส.ในพื้นที่ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะมีการลงพื้นที่ รวมทั้งไม่ได้ตอบกรณีนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเช่นกัน

 ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะไม่ตอบคำถามเลยหรือ พล.อ.ประวิตรได้ส่ายหน้า และนั่งรถเดินทางไปตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติทันที

ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต ในฐานะประธานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย, นายวรรณกร ภัทรปกรณ์ อดีตสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต ในฐานะรองประธานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนาและวิธีการทำงานในเขตเลือกตั้ง โดยมีว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทยจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสงขลา ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนจำนวนมาก

นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า กระแสของพรรคในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตดีมาก เนื่องจากทุกคนเชื่อว่าเมื่อพูดนโยบายออกไปแล้วทำได้จริงและทำได้ครบ

"วันนี้ที่ได้ยินคือประชาชนเดินเข้ามาถามตลอดว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่มาลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบ้างหรือ คือเสียงสะท้อนที่ประชาชนต้องการเจอผู้นำของพรรคเพื่อไทย วันนี้บริบทของภาคใต้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่สามารถเอาความรู้สึกในอดีตมาวัดได้อีกต่อไป กล้าพูดได้เลยว่าพรรคการเมืองฟากประชาธิปไตยจะแลนด์สไลด์อย่างแน่นอน" ประธานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามันพรรค พท.ระบุ

จ.นครพนม นายสุเทพ รักษาพล แกนนำคนเสื้อแดงนครพนม และแกนนำครอบครัวเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม  กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขต โดยเฉพาะเขต 4 มีชื่อนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีชื่อ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม รวมถึงนายชาญชัย คำจำปา นายกเทศมนตรีตำบลพระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ที่มีฐานสร้างครอบครัวเพื่อไทยได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของภาคอีสานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงนครพนมมองว่าพรรคไม่มีความชัดเจน ไม่มีการชี้แจงเหตุผล รวมถึงกระบวนการสรรหาว่าที่ผู้สมัครที่จะต้องมาจากการสำรวจความคิดเห็นของคนเสื้อแดง รวมถึงครอบครัวเพื่อไทยที่ร่วมอุดมการณ์การเมืองมาตลอด

"กลุ่มคนเสื้อแดงเขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม พร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพียงต้องการออกมาทบทวนชี้แจงข้อเท็จจริงในการสรรหาว่าที่ผู้สมัคร เพราะจากข้อเท็จจริง บุคคลที่เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของกลุ่มคนเสื้อแดง และทำงานเพื่อชาวบ้านมาตลอด มีความชัดเจนอยู่แล้ว แต่สุดท้ายมีการเปิดตัวอีกคน แต่ไม่ได้มีอคติกับบุคคลดังกล่าว เพียงอยากให้พรรคเพื่อไทยออกมายืนยันให้เหตุผลกับคนเสื้อแดงที่ร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง เพราะเกิดความสับสน ทั้งมี ส.ส.เพื่อไทยที่ยังมีตำแหน่ง แต่มีการประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครคนใหม่ หากไม่ทบทวนชี้แจง มั่นใจกระทบแลนด์สไลด์แน่นอน” แกนนำคนเสื้อแดงนครพนมกล่าว

วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่บัญชีรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินที่บริจาคให้แก่พรรคการเมืองประจำเดือน พ.ย.2565 โดยมีทั้งหมด 14 พรรค อาทิ พรรครวมไทยสร้างชาติ 3,000,000 บาท, พรรคเพื่อไทย 16,000,000 บาท, พรรคประชาธิปัตย์ 598,000 บาท, พรรคก้าวไกล 251,239 บาท และพรรคภูมิใจไทย 26,000,000 บาท

ที่น่าสนใจคือ พรรค รทสช. พบมีผู้บริจาครวม 3 รายการ มูลค่า 3 ล้านบาท ได้แก่ นายชัยชาญ อุปพันธ์ นักธุรกิจ เป็นกรรมการบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท เซอร์วิส ออโต้ช๊อป จำกัด, บริษัท เดอะ ทีพีเอส จำกัด และ หจก.เพอร์เฟค ชายน์ บริจาค 1 ล้านบาท, บริษัท เอ วาย ดับบลิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทำธุรกิจขายเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มี น.ส.สุมนัส มนตรีโชค เป็นกรรมการ บริจาค 1 ล้านบาท, บริษัท อี.เอ็น.ซ็อฟท จำกัด นายสาวิทย์ อิทธิพงษ์ และนายธนพล ขันธหิรัญ เป็นกรรมการบริการเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมบริการติดตั้งคอมพิวเตอร์พร้อมระบบซอฟต์แวร์ นายสาวิทย์ อิทธิพงษ์ และนายธนพล ขันธหิรัญ บริจาค 1 ล้านบาท

ส่วนพรรค พท. มีผู้บริจาครวม 9 รายการ รวมมูลค่า 16 ล้านบาท เช่น นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย 2 ล้านบาท, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำคนสำคัญของพรรค 4 ล้านบาท, น.ส.จุฑารัตน์ เมนะเศวต เพื่อนสนิทคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ 3 ล้านบาท, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช 1 ล้านบาท เป็นต้น

พรรค ภท. มียอดบริจาคมากถึง 85 รายการ รวมมูลค่า 26 ล้านบาท โดยผู้บริจาคที่น่าสนใจ หจก.น้ำก่ำก่อสร้าง เอกชนรับเหมาก่อสร้าง บริจาค 10 ล้านบาท, บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด 1 ล้านบาท, บริษัท ธนาวิส 2020 จำกัด 1 ล้านบาท, น.ส.ทัศนีย์ โพธารส บริจาค 2 ล้านบาท, นายกำพล อัศวโชค บริจาค 2 ล้านบาท, น.ส.สุภัทรา สอนแตง บริจาค 2 ล้านบาท, นายนรเทพ อมรางกูร บริจาค 3 ล้านบาท, นายธวัช เบญจพลชัย บริจาค 2 ล้านบาท และนายบุญส่ง ศิริมาศเกษม บริจาค 1 ล้านบาท เป็นต้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ