‘2ป.’อี๋อ๋อโชว์ครม. เลิกปาดหน้า‘ตู่’ไปชุมพร ‘ป้อม’ปราบศัตรูฯเวทีแรก

"บิ๊กตู่" ไม่ขัดข้อง "พี่ป้อม" ปาดหน้าลงพื้นที่ บอกไม่ได้ผูกขาไว้  แผ่นดินนี้ใครจะไปไหนก็ได้ ไปสุพรรณบุรีรับฟังชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย ลั่นพูดในนามรัฐบาลไม่ได้มาหาเสียง "ปชช." โผเข้าสวมกอดบอกเมื่อคืนนอนไม่หลับกลัวถูกตัดสิทธิ์ ดีใจที่นายกฯ ลงมาดูเอง "ประวิตร" ยัวะสื่อซักขัดขา "น้องตู่" ลั่นไม่ไป จ.ชุมพรแล้ว  "พปชร." เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 71 คน “สกลธี” นำทีม กทม.ประเดิมปราศรัยครั้งแรก เลือกเขต "ป้อมปราบศัตรูพ่าย" เอาเคล็ด "อนุทิน" แจง "วีรศักดิ์" ไขก๊อก รมช.คมนาคมไร้ปัญหา "สุวัจน์-กรณ์" ประกาศ 12 นโยบายรื้อโครงสร้าง ศก.หาเงินใหม่เข้า ปท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 ม.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยวันนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีวาระการประชุมถึง 54 วาระ ประกอบกับ พล.อ.ประยุทธ์มีภารกิจติดตามการแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีประชาชน 113 รายร้องเรียนเข้ามา โดยส่วนใหญ่จะพูดกันที่เนื้อหาของวาระการประชุม ไม่มีการแสดงความคิดเห็นแตกประเด็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา รวมถึงที่ประชุมยังไม่ได้มีการหยิบยกการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือแม้แต่สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันขึ้นมาพูดคุยหารือ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ช่วงชิงการลงพื้นที่หลายครั้งจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า พล.อ.ประวิตรปาดหน้าแย่งคะแนน แต่ปรากฏว่าในที่ประชุม ครม.ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรนั่งติดกัน ก็มีการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนปกติ ไม่มีท่าทีระหองระแหงเหมือนที่วิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีว่า เป็นกำหนดการมาหลายวันแล้ว ซึ่งจะต้องไปดูแลเกี่ยวกับเรื่องเกษตรกรและที่ดินทำกินต่างๆ ซึ่งได้รับการร้องเรียนมา ก็ต้องไปดูแลแก้ไข ทั้งหมดที่นายกฯ ไปในเวลาราชการเป็นการทำงานตามกรอบของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ได้ไปเรื่องอื่น

ถามถึงการลงพื้นที่ จ.ชุมพร ที่จะเป็นเวทีปราศรัยครั้งแรกในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีเป็นเรื่องของพรรค

ซักว่ามีข่าว พล.อ.ประวิตรจะลงพื้นที่ชุมพรในช่วงเช้าด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะไปก็ไปสิ แผ่นดินผืนนี้ใครจะไปไหนก็ไปได้ไม่ใช่หรือ ใครจะไปก่อนไปหลังก็ไม่เห็นมีปัญหา ตนไม่ได้ขัดข้อง ฉะนั้นอย่าไปเสนอข่าวทำนองนี้ ตนคิดว่าไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ ต้องลงพื้นที่ทั้งในภารกิจนายกฯ และในส่วนของพรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็แน่นอน บทบาทของผมต้องเปลี่ยนตามวาระที่ไป อันไหนที่เป็นเรื่องของรัฐบาลก็รัฐบาล ผมมีหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องดูแลคนทั้งประเทศทุกจังหวัดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ติดตามแผนงานโครงการที่ทำไป มันได้ผลไม่ได้ผลอย่างไร มีปัญหาตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้นในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเป็นการหาเสียงก็ว่ากันไป ผมก็ต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้ชัดเจนเท่านั้นเอง”

'ตู่-ป้อม'ไปที่เดียวกันได้

ซักว่า แต่คนชอบไปมอง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสวนขึ้นมาระหว่างที่สื่อยังถามไม่จบว่า คนที่มองก็มีพวกคุณนั่นแหละมอง คนอื่นเขาไม่ค่อยมองหรอก เมื่อถามอีกว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้สังคมมอง

 “ผมไม่ได้ผูกขาเขานี่นา ท่านก็ไม่ได้ผูกขาผม ผมไปไหนก็ไปได้ ท่านจะไปไหนก็ไปได้ ไปเวลาเดียวกันก็ได้ไม่มีปัญหาหรอก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่า มองว่าเป็นยุทธศาสตร์หรือไม่ เพราะในกระแสมีแต่ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร นายกฯ ไม่ตอบคำถามพร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเริ่มไม่พอใจ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่า ดูเหมือนมีระยะห่างต่อกันระหว่างพี่น้อง 2 ป.ในเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ  และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

จากนั้น เวลา 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเพื่อตรวจราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเมื่อเดินทางถึงสุพรรณบุรี นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อด้วยรถยนต์ฟอร์จูเนอร์ สีดำ ทะเบียน กฉ 4212 ยะลา ไปยังพื้นที่ใช้ประโยชน์ ณ แปลงจัดสรร ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง ตรวจติดตามพื้นที่ทำกินกรณีชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย ร้องเรียนการขอจัดที่ดินทำกินล่าช้า

นายกฯ พบปะกับประชาชนที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่ อบต.วังยาว โดยเมื่อนายกฯ มาถึงได้รับพวงมาลัยและดอกไม้จากชาวบ้าน พร้อมระบุว่า ขอบคุณทุกคน ตนมีกำลังใจมากขึ้น ก่อนสอบถามปัญหาชาวบ้านและกล่าวว่า นายกฯ ทำคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มาหลายปีแล้ว จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้กับผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลนี้ วันนี้ถือโอกาสมาดูว่ามีปัญหาอะไรอีกบ้าง

"ผมมาในนามนายกฯ รักทุกคนอยู่แล้ว และต้องทำให้ถูกต้อง วันนี้มาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียมและการเข้าถึงโอกาส ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย กฎกติกา ต้องยอมรับซึ่งกันและกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ ยังสอบถามชาวบ้านว่าใครเป็นคนจัดสรรให้ โดยชาวบ้านตอบว่า “คุณพี” พล.อ.ประยุทธ์จึงถามอีกว่า “คุณพี” คือใคร แต่ไม่ว่าใคร ก็ตัดสินไม่ได้ เพราะตนคือนายกฯ ถ้านายกฯ ตัดสินไม่ได้ ใครก็ทำให้ไม่ได้เหมือนกัน ขณะที่ชาวบ้านกล่าวกับนายกฯ อีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการให้ นายกฯ จึงรีบปรามว่า ไม่ใช่ ศัตรูกัน คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ตรงนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ ไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ได้สั่งการไปว่าให้ดำเนินการให้ชาวบ้าน 113 รายนี้ก่อน ซึ่งหากถูกต้องจะต้องทำผัง และจับสลากว่าใครอยู่ตรงไหน ซึ่งจากการเอกสารพบว่ามีชาวบ้านไม่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ 59 ราย เหลือเพียง 54 รายที่ถูกต้อง ขอให้ทุกคนต้องยอมรับกฎกติกาตรงนี้

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งชาวบ้านกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นายกฯ ลงมาดูด้วยตัวเอง เมื่อคืนนอนไม่หลับ ถ้านายกฯ ไม่มา อาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์ได้ ขณะเดียวกันนี้ยังมีชาวบ้านเข้ามาสวมกอดนายกฯ และขอถ่ายรูป อีกทั้งมีชาวบ้านขอหอมแก้ม ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า โควิดยังมีอยู่ จึงให้ถ่ายรูปด้วยเท่านั้น

ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนพูดในนามรัฐบาล ไม่ได้มาหาเสียง หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคือให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนกำหนดการลงพื้นที่ จ.ชุมพร ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถือเป็นการขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 28 ม.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์และคณะจะเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ และการปราศรัยจะเริ่มขึ้นเวลา 17.00 น. ซึ่งมีแกนนำพรรค รทสช.ทยอยขึ้นเวที ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย พล.อ.ประยุทธ์

พปชร.เปิด 71 ว่าที่ผู้สมัคร

ด้าน พล.อ.ประวิตร หลังการประชุม ครม. ปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีข่าวจะลงพื้นที่ จ.ชุมพรในวันที่ 28 ม.ค.นี้หรือไม่ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าช่วงนี้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรหันมาตอบแบบมีอารมณ์ว่า "คุยทุกวัน โธ่ถามอยู่ได้ คุยทุกวัน" เมื่อถามต่อว่าได้พูดคุยกันดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "โห ไม่มีอะไร"

ถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีช่วงบ่ายวันนี้หรือไม่ แต่พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม ซักอีกว่าจะมีการพูดคุยชี้แจงเรื่องลงพื้นที่หรือไม่พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ไม่รู้ ก่อนที่จะขึ้นรถยนต์เดินทางออกไปจากทำเนียบฯ

จากนั้น เวลา 16.10 น. พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าที่ทำการพรรค พปชร. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า พปชร.จะมีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดชุมพรหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า ไม่มีๆ เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวว่าหัวหน้าพรรคที่จะเดินทางไป จ.ชุมพร วันที่ 28 ม.ค.นี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันเสียงเข้มว่า “ไม่มี บอกไม่มีก็ไม่มีสิ โธ่เอ๊ยถามอยู่นั่นแหละ ถามทุกวัน”

กระทั่้งเวลา 16.30 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. รวมทั้งสิ้น 71 คน แบ่งเป็นในต่างจังหวัด จำนวน 43 คน เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ล็อตแรก จำนวน 28 คน

จากนั้น พล.อ.ประวิตรและผู้บริหารพรรคยังได้ร่วมกันเปิดตัวนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ที่จะรับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ล็อตแรก จำนวน 28 คน อาทิ นายกิติภูมิ นีละไพจิตร์ เขตคลองสามวา, นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. เขตหนองจอก,  นายพีระพงษ์ รัสมี เขตลาดกระบัง, นางนาถยา แดงบุหงา เขตสะพานสูง แขวงประเวศ, นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ เขตพระโขนง บางนา, นายศันสนะ สุริยะโยธิน เขตคลองสาน ธนบุรี, นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เขตจอมทอง ธนบุรี เฉพาะแขวงดาวคะนอง, นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา เขตทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ, น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน เขตทวีวัฒนา หนองแขม เฉพาะแขวงหนองค้างพลู, พ.ต.ท.วันชัย ฟักเอี้ยง เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย เฉพาะแขวงบางขุนศรี, น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ เขตบางกอกน้อย, ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อํานรรฆสรเดช เขตบางซื่อ, นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล เขตบางพลัด และนายเอกชัย ผ่องจิตร์ เขตบางแค

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า วันนี้เราเปิดผู้สมัครทั้งหมด 71 คน และเปิดไปแล้ว 350 คน และจะทยอยเปิดให้ต่อเนื่องให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง พยายามจะส่งให้ครบทุกจังหวัดทั้ง 400 คน อยากฝากให้ผู้สมัครทั้งหลายลงพื้นที่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ให้มากที่สุด

ส่วนนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวเสริมว่า พล.อ.ประวิตรพร้อมที่จะไปปราศรัยเป็นที่แรกให้กับเรา คือที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 

เวทีแรกใช้ป้อมปราบฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายวิรัชประกาศว่าเวทีปราศรัยแห่งแรกเป็นชื่อป้อมปราบศัตรูพ่าย ปรากฏว่าเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.  เพราะล้อมาจากชื่อเล่นของ พล.อ.ประวิตร และยังเป็นชื่อมงคลที่ปราบศัตรูพ่ายหมด

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรว่าจะใช้ฤกษ์ดีวันไหนที่จะไปปราศรัย แต่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสกลธี เป็นลูกชายของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ คมช. ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร เช่นเดียวกับ น.ต.นิธิ ผู้สมัคร ส.ส.เขตทวีวัฒนา เป็นบุตรชายของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 ก.ย.49 และเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 ของ พล.อ.ประวิตร นอกจากนี้ น.ต.นิธิยังเป็นสามีของเป้ย ปานวาด เหมมณี ดารานักแสดง 

นายวิรัชให้สัมภาษณ์ถึงการติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่จะลงสมัครในต่างจังหวัดและ กทม.ว่า ในเรื่องเทคนิคการหาเสียงและปราศรัย เราได้เน้นย้ำในส่วนของนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน หรือ "ป้อม  700" ที่เป็นสโลแกนจำง่ายและตัวชู อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ว่าที่ผู้สมัครชื่นชอบ จึงมั่นใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่สัปดาห์หน้าจะทยอยเปิดนโยบายอื่นๆ เพิ่มเติมอีก

"หลังจากนี้ พปชร. โดย พล.อ.ประวิตร จะเดินสายลงพื้นที่อีกหลายจังหวัด ยังไม่มีกำหนดการออกมาชัดเจนจะไปจังหวัดใดบ้าง" นายวิรัชกล่าว

นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กถึงสาเหตุการลงสมัคร ส.ส.กทม.ในนามพรรค พปชร.ว่า ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง เพราะรักและเคารพทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร เมื่อพิจารณาด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งเรื่องคนหลายคนที่ติดตามกันมา และความอิสระในการทำงาน จึงตัดสินใจอยู่ช่วย พล.อ.ประวิตร ที่พรรคพลังประชารัฐ

 “ผมอยากเรียนกับทุกท่านว่า ผมก็ยังคงเป็นจั้ม สกลธี คนเดิมที่ทุกท่านเคยรักและสนับสนุน จุดยืนต่างๆ ทั้งเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของผมไม่มีวันเปลี่ยน และความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองยังมีอยู่เต็มหัวใจของผมครับ รักและเคารพทุกคนนะครับ”นายสกลธีระบุ

ส่วน น.ต.นิธิกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้ให้โอกาสและกำชับให้ช่วยกันและตั้งใจลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน พร้อมกับช่วยนำเสนอนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ ยืนยันว่ามีความตั้งใจ และจะทำให้ดีที่สุด แต่อยู่ที่ประชาชนด้วย

 ถามว่า ในส่วน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในเหตุการณ์รัฐประหารของประเทศไทย (คมช.) บิดา จะตามมาด้วยหรือไม่ นายนิธิกล่าวว่า คุณพ่อไม่มา เนื่องจากท่านวางมือทางการเมืองแล้ว แต่ได้ให้กำลังใจที่เข้ามาทำงานการเมือง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.กล่าวถึงความชัดเจนของกลุ่มสามมิตรว่า เรื่องของการเมืองถ้าดูจากข่าวสารเชิงลึก เห็นว่าจะมีการควบรวมพรรคการเมืองกันหลายพรรค ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ทำให้จำนวน ส.ส.หรืออดีต ส.ส.รวมกัน และผู้สมัครในแต่ละพรรคที่ควบรวมกันเปลี่ยนแปลงไปเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องให้เวลากับการควบรวมไปอีกสักระยะ ยังมีเวลาอยู่ ฉะนั้นเรื่องของกลุ่มสามมิตร ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ

ถามว่า จุดยืนของสามมิตร ถ้าถึงวันที่ 7 ก.พ. คือชัดเจนว่ายังไม่มีการออกจากพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ผมว่าพอแล้ว การเมืองขอตอบพอแล้ว มันเป็นคำถามซํ้าซาก พอเถอะนะการเมือง เอาไว้แค่นั้นที่ผมตอบไปแล้ว ว่ามันมีข้อมูลเรื่องควบรวมพรรคการเมือง”

ชพก.ชูนโยบาย ศก.สู้

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการลาออกของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ว่า นายวีรศักดิ์ได้แจ้งการลาออกตามขั้นตอน ซึ่งนายวีรศักดิ์ยังเป็นสมาชิกพรรค ภท.อยู่ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค โดยได้แจ้งกับตนว่าสุขภาพไม่ค่อยดี

ถามว่า มีข่าวนายวีรศักดิ์จะย้ายไปพรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุทินกล่าวว่าได้เคยตอบไปแล้วว่า ส.ส.ย้ายเข้า-ย้ายออกเป็นเรื่องปกติ

ถามว่า จะมีการเสนอปรับ ครม.แทนนายวีรศักดิ์หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวจะหารือเบื้องต้นกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. เพราะมีหลายปัจจัยประกอบกัน มีเวลา 2 เดือนที่เหลือของสภาเป็นส่วนประกอบ

ในส่วนของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นว่า ไม่น่าจะครบทั้ง 400 เขต พื้นที่ที่ไม่ใช่จุดแข็งก็ไม่จำเป็นต้องส่ง อีกทั้งบัตรเลือกตั้งสองใบสามารถลงคะแนนให้กับพรรคได้ทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ยุทธศาสตร์ของพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 100 เขตบวกลบ และบัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนเป้าหมายยังเหมือนเดิมคือไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง

ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค,  นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค ร่วมกันแถลงเปิดนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งและขับเคลื่อนประเทศ บนแนวคิด “งานดี-มีเงิน-ของไม่แพง!” โดยสร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ และเปิดนโยบายทั้งหมด 12 เรื่อง

ส่วนนายกรณ์กล่าวว่า นโยบายรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยได้อีก 5 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี ด้วยยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี (Spectrum Economy) ซึ่งทุกนโยบายเศรษฐกิจ ทุกการรื้อโครงสร้างเหล่านี้ จะทำให้คนไทยมีงานดี มีเงิน และของไม่แพง เรามีนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งใช้เงิน แต่เรามียุทธศาสตร์หาเงินใหม่เข้าประเทศ รองรับการทำงานของรัฐบาลในอนาคตต่อไป

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงปลายเดือน ม.ค. ครอบครัวเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง โดยแต่ละเวทีจะมีการสับเปลี่ยนผู้ปราศรัยตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ เริ่มเวทีแรกในวันที่ 27 ม.ค. ลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามกีฬากลาง จ.เลย เวทีที่ 2 ลานตลาดนัดเก้าค่ำ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู วันที่ 28 ม.ค.เปิดเวทีปราศรัยที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย วันที่ 29 ม.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัด อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี

 “ทั้ง 3 วันนี้จะเป็นการคิกออฟเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย พร้อมรณรงค์เป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น จะเดินหน้าในพื้นที่จังหวัดที่อยู่ห่างไกลกรุงเทพฯ ที่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน เดินทางถี่ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับ น.ส.แพทองธารที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรค และแสดงความพร้อมตลอดเวลาในการลงพื้นที่ การเสวนาหารือ รวมทั้งการขึ้นเวทีปราศรัย” นายณัฐวุฒิกล่าว

ที่ศูนย์ประสานงานพรรคไทยสร้างไทย ย่านลาดปลาเค้า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ให้การต้อนรับนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม เข้าเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้มอบและสวมเสื้อพรรคไทยสร้างไทยให้กับอดีต ส.ส.ทั้ง 2 คน

ด้านนายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังชล เปิดเผยว่า วันที่ 24 ม.ค. พรรคพลังชลจัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1/2566 ที่ห้องแสนสุข 1 โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ ต.แสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี มีวาระการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังชลเมื่อปี พ.ศ.2561 ให้ยกเลิกทั้งฉบับ และให้ใช้ข้อบังคับพรรคพลังบูรพา พ.ศ.2566 แทน เพื่อให้เป็นแนวทางและหลักเกณฑ์ในการบริหาร และทิศทางแนวทางของพรรค เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป.พรรคการเมือง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง