กกต.นัดพรรคการเมือง8ก.พ.

"กกต." แจงการคำนวณจำนวนราษฎรต้องยึดตามทะเบียนราษฎร    รวมผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นไปตามที่กฤษฎีกาให้ความเห็น เผยไทม์ไลน์แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. เร่งให้เสร็จภายในเดือนก.พ. ขอบคุณนายกฯ ไม่ก้าวล่วงทำงาน ยืนยันพร้อมเลือกตั้งไม่ว่าจะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการ กกต. พร้อมด้วยนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และนายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต.  ร่วมแถลงข่าวชี้แจงกรณีมีการระบุว่า กกต.ขอเวลารัฐบาลในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งรวม 45 วันนั้น ว่าได้มีการประสานและชี้แจงทำความเข้าใจว่าเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว เรามีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในเรื่องต่างๆ

เช่นการที่ กกต.จังหวัดจะต้องแบ่งเขตภายในเวลา 3 วัน การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และพรรคการเมืองอีก 10 วัน โดยเมื่อครบระยะเวลา กกต.จังหวัดจะต้องพิจารณา เพื่อทำความเห็นว่ารูปแบบใดเหมาะสมอีก 3 วัน รวมเป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะส่งให้ กกต.พิจารณา ซึ่งกกต.กลางจะรีบพิจารณา โดยตั้งเป้าว่าดำเนินการให้เสร็จภายในไม่เกิน 5 วัน 400 เขต เราจะใช้ระยะเวลาวันละ 100 เขต สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดปัญหากับเรา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสะดวกสบาย เรามีการเตรียม และตั้งเป้าหมายการทำงานไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันเราต้องคำนึงถึงพรรคการเมืองที่ต้องมีเวลาในการดำเนินการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องเผื่อเวลาให้กับพรรคการเมือง โดยในวันพุธที่ 8 ก.พ. จะมีการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองเข้ามาหารือเรื่องค่าใช้จ่าย ว่าจำนวนที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ และวิธีการทำไพรมารีโหวต เพื่อให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้อย่างถูกต้อง เราไม่ได้นิ่งนอนใจทำงานทุกวัน และกล้าที่จะพูดว่าเราพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งให้ชอบด้วยกฎหมาย

กกต.ผู้นี้ยังกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ออกมาระบุว่าจะไม่ก้าวล่วง กกต. ทำให้การประสานงานออกมาในรูปแบบที่ดี ท่านเข้าใจในระยะเวลาเหล่านี้ การที่เรามีน้ำใจคิดหวังดีกับส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง อาจจะส่งผลร้ายกลับมาที่ กกต.หากมีความไม่เข้าใจข้อกฎหมายและระเบียบกำหนดว่าอย่างไร ข้อวิจารณ์ต่างๆ เรารับฟังตลอด ถ้าถูกต้องเราพร้อมรับมาปฏิบัติ

ส่วนอีกเรื่องกรณีการประกาศจำนวนส.ส.แต่ละจังหวัดที่พึงมี ซึ่งคิดจากข้อมูลการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 3 วันนี้เป็นข่าวดัง อยากทำความเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 86 กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่มีการประกาศปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จนถึงปี 2557 จะประกาศจำนวนราษฎรรวม

ต่อมาปี 2558 เป็นปีแรกที่สำนักทะเบียนกลางประกาศโดยแยกชายหญิงของคนที่มีสัญชาติไทย และคนที่ไม่มีสัญชาติไทย และปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งการคิดจำนวนราษฎรต้องคิดยอดรวมอย่างเดียว การคิดอย่างนี้เคยมีปัญหาเมื่อปี 2557 ที่ อ.แม่สอด จะยกฐานะเป็นเทศบาล มีการโต้แย้งว่าควรจะรวมผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยเป็นราษฎรรวมหรือไม่

ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาก็มีความเห็นสอดคล้องกับ กกต. ว่าการคิดจำนวนราษฎรนั้นต้องคิดรวมทั้งหมดของบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่ต้องแยกคนที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย เพราะต้องคำนึงถึงบุคคลที่มีสิทธิใช้บริการ และผู้เสียภาษีอากรในการคิดค่าธรรมเนียม คือผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยอาจจะได้รับแตกต่างจากผู้ที่มีสัญชาติไทย แต่การคิดจำนวนราษฎรต้องคิดรวมทั้งหมดไม่ว่าผู้นั้นจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ หรือมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ เพราะคนที่มีสัญชาติไทยก็ไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่สอดคล้องต้องกัน และทำมาโดยตลอด ข้อมูลที่นำเสนอคิดว่าทั้งสองปัญหานี้มีความกระจ่างพอสมควร

นายปกรณ์ยังกล่าวถึงกรอบระยะเวลาการทำงานของ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ในช่วงวันที่ 1-3 ก.พ. กกต.จังหวัดจะเร่งดำเนินการแบ่งเขตให้แล้วเสร็จใน 3 รูปแบบ จากนั้นวันที่ 4-13 ก.พ. จะปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชน 14-16 ก.พ. กกต.จังหวัดจะสรุปและทำความเห็น เลือกรูปแบบเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอ กกต.กลาง โดยในวันที่ 20-28 ก.พ. กกต.กลางจะพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าใน 1 วันจะพิจารณาไม่ต่ำกว่า 100 เขต

"จากการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ใน 30 จังหวัด ก็พบว่าไม่มีจังหวัดไหนไม่สามารถแบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ซึ่งจะเห็นว่าจังหวัดใหญ่ๆ พร้อมแล้ว และผมก็ได้กำชับว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตที่เคยถูกข้อครหาเมื่อการเลือกตั้งปี 2562"    นายปกรณ์ยืนยันว่าการแบ่งเขตในการเลือกตั้งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย และการที่ระบุว่าแบ่งเขตแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวในเรื่องนี้ตนก็ได้ลงพื้นที่ไปดูใน จ.สุโขทัย พบว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ภูเขา แต่มีความกว้างที่ห่างกัน ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

สำหรับวันพุธที่ 8 ก.พ. กกต.จะเชิญพรรคการเมืองร่วมประชุมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้สมัครและพรรคการเมือง รวมถึงการทำไพรมารีโหวต ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่พรรคการเมืองจะได้ทราบว่าสาขาและตัวแทนพรรคจะต้องดำเนินการอย่างไร

กกต.ผู้นี้ยังยืนยันว่า กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยุบสภาที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน หรือสภาอยู่ครบวาระที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ไม่ว่าจะเกิดกรณีใดเราก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนกรณีพรรคการเมืองร้องว่าป้ายหาเสียงถูกทำลาย เรื่องนี้ กกต.จังหวัดและกกต.กทม.ดูแลอย่างเต็มที่ แม้ว่าขณะนี้จะถือว่ายังไม่มีผู้สมัครหรือว่ายังไม่มีเขตเลือกตั้งที่ชัดเจนที่จะเป็นองค์ประกอบให้สามารถดำเนินการเอาผิดได้ แต่ก็ได้มีการรวบรวมข้อมูล ซึ่ง กกต.จะพิจารณาทุกคำร้องและทุกความเห็น

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาการแบ่งเขตก็มีการเอาเปรียบกัน ฝ่ายรัฐบาลหรือคนที่มีอำนาจรัฐก็มักจะใช้โอกาสนี้แบ่งเขตเพื่อให้ตนเองได้เปรียบ ฉะนั้นคราวนี้เราจึงไม่ปล่อย ทางฝ่ายค้านและทุกคนจะมีส่วนร่วมในการจับตา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี จึงอยากเชิญชวนสังคมให้ช่วยกันดู

เมื่อถามว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แจ้งไทม์ไลน์ กกต. ขอทั้งเดือน ก.พ. หรืออีก 30 วัน ให้ กกต.แบ่งเขตให้เสร็จก่อนจึงค่อยยุบสภา จะเรียกร้องให้ใช้เวลาเร็วกว่า 30 วันหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า เชื่อว่าการแบ่งเขตไม่นาน และคงไม่ใช้เวลานานเช่นนั้น เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าในแต่ละเขตเขามีตุ๊กตาไว้แล้ว และกฎหมายลูกได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว เชื่อว่ากระบวนการกำลังดำเนินการอยู่ ย้ำว่าคงใช้เวลาไม่นานเช่นนั้น แต่หากรัฐบาลจะใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้ติดใจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง