ผบ.ตร.เรียกคืนความเชื่อมั่น ปชช. ลงดาบก๊อกสองโยนผู้กำกับห้วยขวางฝังกลบหนองจอก เซ่นรีดเงินนักท่องเที่ยว ลั่นจ่อข้อหาระนาวยกแก๊ง 14 นาย ฮึ่มบินสอบพยานถึงต่างประเทศ ขณะที่ชูวิทย์เปิดตัวหนุ่มสิงคโปร์ ยันควักเงินจ่ายคาด่านข้อหาพกบุหรี่ไฟฟ้า-วีซ่า
เมื่อวันพุธ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีตำรวจ สน.ห้วยขวางรีดเงินดาราสาวชาวไต้หวัน เป็นเหตุให้ ผกก.สน.ห้วยขวางถูกเด้งไปประจำที่ ศปก.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอีก 7 นายถูกเด้งไปประจำที่ ศปก.บก.น.1 และถูกแจ้งข้อหา 157 เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะการเรียกรับเงินจำนวน 27,000 บาท ตามที่ดาราสาวชาวไต้หวันกล่าวอ้าง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
โดยก่อนเข้าประชุม พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตรียมนำพยานที่เป็นชาวสิงคโปร์ออกมาแฉถึงพฤติการณ์ของตำรวจในวันเกิดเหตุและเตรียมให้ปากคำกับตำรวจในฐานะพยานว่า ช่วงเช้า พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ประสานมาว่าให้เตรียมพนักงานสอบสวนไว้ เพื่อความปลอดภัยของพยาน จะต้องดำเนินการไปสอบด้วยตนเอง โดยจะสอบถามให้ครอบคลุมทุกประเด็นเพื่อให้มัดตัว ซึ่งตำรวจ สน.ห้วยขวางทั้ง 7 นายได้แจ้งข้อหาไปแล้ว เมื่อพยานมาสอบได้เนื้อหาสาระก็แจ้งข้อหาต่อเลย โดยมีการเตรียมรูปทั้ง 14 นายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด่านในวันดังกล่าว และรูปของตำรวจทั้งหมดทั้ง สน.ห้วยขวาง
เมื่อถามว่า พยานคนดังกล่าวเป็นคนนำเงินให้ตำรวจ จะถูกดำเนินคดีให้สินบนหรือไม่ ผบก.น.1 ตอบว่า ประเด็นนี้พนักงานสอบสวนได้ประชุมหารือกันแล้ว ถ้าเป็นกรณีที่ผู้เสียหายถูกข่มขืนใจหรือถูกขู่เข็ญจากเจ้าพนักงาน จะมองว่าเขาเป็นผู้เสียหายตามคดีอาญา สอบไว้เป็นพยาน ส่วนข้อหาที่จะแจ้งเพิ่มเติมกับตำรวจที่เกี่ยวข้อง ถ้าพยานสอบได้ถึงไหนแจ้งข้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อหาเรียกรับทรัพย์สิน กรรโชก อะไรที่เข้าข่ายแจ้งหมด แต่ต้องรอสอบพยานจากนายชูวิทย์เสียก่อน ถึงใครเอาหมด ส่วนความคืบหน้าการไปสอบพยานที่ต่างประเทศ ผู้การศูนย์สืบสวนสอบสวนนครบาลได้ขออนุมัติเดินทางไว้หมดแล้วและยังมีพนักงานสอบสวนเป็นคณะกรรมการทำวีซ่าไว้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำสั่งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับการถึงระดับรองผู้บังคับการ ประจำปี 2566 พบว่ามีใบคำสั่งล่าสุดที่ 72/2566 ลงวันที่ 30 มกราคม 2566 ให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ที่เดิมมีคำสั่งให้ปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิมใน สน.ห้วยขวาง ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผกก.สน.หนองจอก และมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ที่เดิมมีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.หนองจอก มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผกก.สน.ห้วยขวางแทน ที่มีผลบังคับใช้วันนี้ 1 ก.พ.66 ซึ่งถือว่าเป็นการลดเกรดจากพื้นที่ทองคำไปอยู่แถวชานเมืองที่มีความสำคัญน้อยกว่า
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึง การย้าย ผกก.สน.ห้วยขวางว่า คำสั่งให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศช่วยราชการที่ ศปก.บช.น. ยังอยู่ ยังคงให้มาช่วยราชการตามเดิม เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนเรื่องการเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวไต้หวัน ทำงานอย่างเต็มที่ รวดเร็ว เป็นอิสระ ตรงความเป็นจริง เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่ให้มีข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน ซึ่งการลงโทษ พ.ต.อ.ยิ่งยศในส่วนนี้เป็นการลงโทษทางปกครอง แต่หากผลการสอบสวนของคณะกรรมการออกมาว่ามีความผิดเพิ่มเติม จะดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไปอย่างแน่นอน
“ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำกำชับไปยังคณะกรรมการสอบสวนว่า หากพยานหลักฐานสาวถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย ทั้งการดำเนินคดีอาญา วินัย และปกครอง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” โฆษก ตร.ระบุ
วันเดียวกัน ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิง สุขุมวิท นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดตัวนายสกาย นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกับดาราสาวชาวไต้หวัน และเป็นผู้จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท กรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าให้กับตำรวจ สน.ห้วยขวางขณะตั้งด่านตรวจ
โดยนายสกายระบุว่า หลังกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนที่ร้านอาหารย่านสุขุมวิท ได้เรียกรถแกร็บเพื่อจะไปห้วยขวางกับเพื่อน 4 คน หนึ่งในนั้นคือ อันหยูชิง ดาราสาวไต้หวัน ระหว่างทางก็มาเจอด่าน สน.ห้วยขวาง และเรียกหาวีซ่า เมื่อตนเองแย้งว่ามาจากสิงคโปร์อยู่ไม่เกินไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า จากนั้นตำรวจจึงบอกว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย บอกจะต้องไปโรงพัก ตนเองจึงเริ่มกลัวก่อนถามตำรวจกลับว่าผิดกฎหมายได้อย่างไร เพราะซื้อจากร้านที่ขายในไทย ตนเองไม่รู้ว่าผิด
“ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปโรงพัก เพราะรู้สึกกลัว จึงไปถามตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่ง ก่อนเดินมาแจ้งว่าถ้าไม่จ่ายค่าปรับต้องติดคุก พร้อมบอกว่าบุหรี่ไฟฟ้า 3 เครื่อง ต้องจ่ายเครื่องละ 8,000 รวม 24,000 บวกกับไม่มีพาสปอร์ตต้องจ่ายอีก 3,000 บาท จึงจ่ายไป 27,000 บาท เหลือเงินติดตัวอยู่ 3,000 บาท ก่อนถูกถ่ายรูปพร้อมบุหรี่ไฟฟ้าที่ด่าน” นายสกายระบุ
นายสกายเปิดเผยอีกว่า ซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาจากตลาดห้วยขวาง ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากเห็นมีขายทั่วไป คิดว่าเหมือนกัญชาที่ถูกกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าจำหน้าตำรวจในวันนั้นได้
จากนั้นนายชูวิทย์ได้เปิดแฟ้มตำรวจที่ตั้งด่านที่บริเวณหน้าสถานทูตจีนให้ดู นายสกายพยักหน้า บอกว่าจำหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาสอบปากคำนายสกายด้วยตนเอง เพื่อกันไว้เป็นพยานคดีต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
เร่งตั้ง‘สสร.’ให้ทันปี70
รัฐสภาจัดงานวันรัฐธรรมนูญคึกคัก แต่พรรคประชาชนเมินเข้าร่วม