อย่าเอาแต่การเมือง ‘บิ๊กตู่’อบรมส.ส.ปมสภาล่ม/แม่กลองคึกคักต้อนรับนายกฯ

แม่กลองคึกคัก "รังสิมา"  พาชาวบ้านแห่ต้อนรับ ตะโกนลั่นลุงตู่อยู่ต่ออีก 2 ปีก็มีความหมาย "2 ส.ส.ราชบุรี" จาก "พปชร.-ปชป." ก็มาโชว์ตัว "บิ๊กตู่" ยิ้มร่านั่งรถไฟชมตลาดร่มหุบ บอกมีความสุขได้พบ ปชช. ก่อนอารมณ์เสียหลังเกษตรกรบอกแก้ไขปัญหาสวนผลไม้ได้จะเลือกเป็นนายกฯ ต่อ ลั่นไม่จำเป็น ขอเป็นนายกฯ ของคนทั้ง ปท. ชี้สภาล่มเหตุส.ส.เล่นเกมการเมือง "รทสช." ตั้ง 15 กก.กำหนดแนวนโยบายยุทธศาสตร์  ​"ประยุทธ์" ประธาน "พท." ติวว่าที่ผู้สมัครส.ส.โซนเหนือตอนบน "สนธิญา​" ร้อง กกต.สอบทักษิณ​ครอบงำเพื่อไทย ปม กปปส.สมัครเข้าพรรคได้

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,   นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี,   นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จาก กทม.ไปลงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อตรวจราชการ จ.สมุทรสงคราม

หลังจากเดินทางถึง คณะนายกฯ เดินทางโดยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน 3กญ 2929 กรุงเทพมหานคร ไปยังสถานีรถไฟลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อขึ้นขบวนรถไฟดีเซลรางที่ 4383 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยที่สถานีรถไฟลาดใหญ่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะย้ายมาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มารอต้อนรับร่วมกับชาวบ้าน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ

เวลา 11.15 น. นายกฯ ได้ขึ้นรถไฟต่อไปยังสถานีแม่กลอง โดยนั่งอยู่ตู้ท้ายขบวน ยิ้มและโบกมือทักทายประชาชนตลอดทาง ต่อมาเวลา 11.25 น. ขบวนรถไฟของนายกฯ เดินทางมาถึงสถานีรถไฟแม่กลอง มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติรอรับจำนวนมาก ซึ่งประชาชนบางส่วนสวมเสื้อยืดพรรค รทสช. มารอให้กำลังใจนายกฯ ด้วย และทันทีที่มาถึงประชาชนบางส่วนตะโกนว่า ลุงตู่สู้ๆ, ลุงตู่อยู่ต่อ, อยู่อีก 2 ปีก็มีความหมาย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนมีความสุข ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ ผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนตื่นเต้นอยู่แล้ว ถึงแม้ตนจะไม่ได้มา ทุกคนก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว

จากนั้นนายกฯ ได้เดินไปรับฟังการบรรยายสรุปจากผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะเดินเลียบแม่น้ำแม่กลองตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมตรวจเยี่ยมวิถีเศรษฐกิจชุมชน โดยระหว่างที่เดินมีประชาชนมาขอถ่ายรูปมอบดอกไม้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยู พร้อมกำมือไปที่หัวใจส่งให้ประชาชน ก่อนที่จะเข้าสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม และนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ที่อุโบสถวัดเพชรสมุทรฯ

แห่รับบิ๊กตู่ลงแม่กลอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก น.ส.รังสิมา ส.ส.เจ้าของพื้นที่ที่มารอต้อนรับแล้ว  ยังมี ส.ส.และอดีต ส.ส.มารอต้อนรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย ได้แก่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรค ปชป.,  น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรค รทสช.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย

 ภายหลังนายกฯ สักการะหลวงพ่อบ้านแหลมและนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณเสร็จ ได้เดินขึ้นรถเพื่อไปยังจุดต่อไป โดยพระสมุทรวชิรโสภณได้เดินมาส่งที่รถยนต์ จากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นรถและได้ลดกระจกลงมา มีประชาชนตะโกน "นายกฯสู้ๆ" ขณะที่นายกฯ ได้ยิ้มพร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ต พร้อมกล่าวว่า "สวัสดีนะคะ" และมีชาวบ้านบอกว่า "ลุงตู่แล้วมาแม่กลองอีกนะ"  นายกฯ กล่าวว่า "ต้องมาสิ ไม่มาก็ส่งใจมาทุกวันอยู่แล้วละน่า"

ต่อมาเวลา 13.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายังวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างมูลค่า และยกระดับรายได้ของประชาชน จ.สมุทรสงคราม พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆของกลุ่มเกษตรกร ทั้งเรื่องประมง เรื่องปัญหานาเกลือ เรื่องปัญหาสวนมะพร้าว และผลไม้ ทั้งส้มโอและลิ้นจี่ โดยช่วงหนึ่งมีตัวแทนชาวสวนผลไม้ระบุว่า ถ้าหากนายกฯ แก้ไขปัญหาได้ ก็จะเลือกให้เป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาในนามนายกฯ ประชาชนน่ารักทุกคน การลงพื้นที่ครั้งนี้จำเป็นต้องลงมารับฟังความคิดเห็นเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง และจะรับข้อเสนอและข้อคิดเห็นทั้งหมดที่ได้ฟังในวันนี้ไปพิจารณาว่ายังติดขัดมีอุปสรรคตรงไหน เพราะจำได้ว่าทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับตัวแทน ได้สั่งการให้ดำเนินการและตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อน และมอบหมายให้รองนายกฯ กำกับดูแลกว่า 50 คณะ แต่ทั้งหมดนายกฯ เป็นประธาน

"วันนี้มารับฟังปัญหาเพิ่ม แต่ยอมรับว่าก็มีปัญหาเดิมอยู่บ้าง แต่จะรับไปดำเนินการพิจารณาให้เร็วที่สุด ซึ่งผมเข้าใจ แต่เมื่อกี้ไม่ชอบอยู่อย่างหนึ่ง คือที่พวกท่านพูดว่าจะยินดีให้ผมเป็นนายกฯ อีก 2 ปีหากสามารถแก้ปัญหาให้ได้ ไม่จำเป็นหรอก ไม่จำเป็น ผมต้องการทำงานให้กับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ผมเป็นนายกฯ ที่คิดถึงคนทั้งประเทศ ผมบอกได้แค่นี้แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า มายืนตรงนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ ต้องการทำงานเพื่อพี่น้องทุกคนให้มีความสุขเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกับทุกคน พ่อก็ต้องรักลูกทุกคน ต้องทำให้ทุกคนเจริญเติบโตให้ดีที่สุด ตนมีหน้าที่ตรงนี้ และไม่บังอาจเป็นพ่อให้กับทุกคน แต่จะดูแลพวกเราทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ให้เจริญเติบโตให้ได้มากขึ้น

"วันนี้อาจจะพูดแรงไปนิด แต่ผมหนักใจในเรื่องเหล่านี้ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุขและพอใจ เหมือนการมีลูกทั้งหมด 60 กว่าล้านคน จะทำให้ทุกคนพอใจทั้งหมดทีเดียวคงไม่ได้ แต่จะทำให้ทุกกลุ่มพอใจ อย่างน้อยก็จะได้ร่วมเดินตามการทำงานของรัฐบาลต่อไปในอนาคต วันนี้ทุกคนไม่ชอบความจริง แต่ผมชอบพูดความจริง อาจจะไม่ถูกใจบ้างก็ต้องขอโทษ เพราะผมเป็นคนแบบนั้น ผมไม่สามารถปกปิดอะไรไว้ได้หรอก เพื่อให้มารักชอบผม ทำไม่ได้ เพราะมันมีปัญหากับประเทศ และระบบเงินงบประเทศของประเทศ และความน่าเชื่อถือทางการเงินการคลัง ถ้าเราทำตรงนี้เสียหาย ทุกอย่างจะล้มหมด ผมยืนยันจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อาจจะฟังดูว่านายกฯ เครียดอะไรหรือเปล่า ไม่ได้โกรธใครเลย แต่เสียงมันเป็นอย่างนี้เอง บางเวลาก็ยิ้มหัวเราะได้ แต่พอเป็นงานเป็นการก็เป็นแบบนี้ คิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อกี้ที่พวกท่านพูด ก็จดไว้ 5 หน้ากระดาษ บางอันก็ซ้ำเดิม แสดงว่าแก้ไม่ได้จริง ก็ต้องยอมรับว่าอะไรใช่ ไม่ใช่รับปากจะไปดูแลให้

ชี้สภาล่มเหตุ ส.ส.เล่มเกม

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ถามว่ามีใครจะถามอะไรหรือไม่ เมื่อเช้านั่งรถไฟมาสนุกดี เห็นในรูปอยากมาตั้งนานแล้วที่ตลาดร่มหุบ ร่มบ้านของเธอ คนมาเต็มบนรถไฟ คนต่างประเทศเต็มไปหมด เขาตื่นเต้นกับตลาดร่มหุบ และตื่นเต้นเป็น 2 เท่าที่ได้เจอนายกฯ ไทย ตนก็งงๆ เขาก็ต้อนรับตนดี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่เขารู้ว่านี่คือนายกฯ แน่นอน ถ่ายรูปกันไป ก็ขอบคุณในนามประเทศไทยและชาวสมุทรสงคราม ยินดีที่ท่านมาเที่ยวทำให้เศรษฐกิจฐานรากของเราดีขึ้น ตนไปไหนไม่เห็นมีใครรังเกียจประเทศไทย เขาชื่นชมว่าเราทำได้อย่างไร เศรษฐกิจก็ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกฯ พูดมาถึงตรงนี้ ปรากฏว่าไฟดับ พล.อ.ประยุทธ์พยายามเคาะไมโครโฟน แต่เสียงไมโครโฟนยังไม่ดัง ทำให้ต้องตัดสินใจลงจากเวทีมาทักทายประชาชน ซึ่งจังหวะนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติ โดยนายกฯ ใช้เวลาพูดต่อไปอีก 19 นาที

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทักทายประชาชน พร้อมชมว่า "ยิ้มสวย ผมก็อยากยิ้มเหมือนกัน แต่ก็ยังทำไม่ได้"   นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า "เมื่อช่วงเช้าที่ไปไหว้พระ ได้ขอพรให้กับคนไทยทุกคน เพื่อให้ประเทศเรียบร้อย มีความสุข ผมไม่ได้ขออะไรเพื่อตัวเองมากมาย ผมขออย่าทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน พูดกันดีๆ วันนี้ถ้าพูดไม่เพราะก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ถึงนายกฯ จะพูดไม่เพราะ แต่ก็มีหัวใจให้กับพวกเราทุกคน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายยังมี ส.ส.บางส่วนตามมาสมทบด้วย โดยเฉพาะ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรค พปชร. ที่มีข่าวจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรค รทสช.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่นายอัครเดช ส.ส.ราชบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์อีกคน เดินมาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภาหลังสภาล่มบ่อยว่า ได้ขอร้องบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลดูว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหากฎหมายแต่ละฉบับของใครๆ ก็รู้กันอยู่ กรุณาทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้วกัน ตนก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ไม่เคยไปก้าวก่ายอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ฉะนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่แล้วกันให้ดีที่สุด ประชาชนก็แยกแยะเอาเอง เลือกเอาเอง เลือกจะฟัง เลือกจะเชื่อกันเอาเองแล้วกัน 

"ฝากไว้กับบรรดา ส.ส.ช่วยดูในเรื่องกฎหมายด้วยแล้วกัน กฎหมายบางอย่างที่เราพยายามเร่ง แต่ออกไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจกัน ไม่อยากให้ประเด็นกฎหมายหรือ พ.ร.บ.ที่เสนอเข้าไปถูกเรียกว่าการเมือง แต่เป็นเรื่องของประชาชน กฎหมายทุกตัวไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นของประชาชนทั้งประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่า การลงพื้นที่เสียงของประชาชนเชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ โดยเฉพาะวันนี้มีประโยคเชียร์ว่า 2 ปีก็มีค่า ขณะเดียวกันมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เดี๋ยวว่ากัน ก็ว่าไป นายกฯ จะตัดสินใจอีกที เรื่องของนายกฯอย่าตอบตอนนี้ บางเรื่องตอบทีหลังก็ได้ แต่วันนี้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็ตาม

ซักว่าได้คุยกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช.แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 สภาจะล่มหรือไม่ว่า ประชุมได้ถึงเที่ยงคืน เมื่อถามต่อว่าฝ่ายรัฐบาลสามารถเล่มเกมกลับเพื่อให้สภาล่ม จนฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ รัฐบาลไม่เล่นเกมอยู่แล้ว แต่สมาชิกเล่นของเขากันเองอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่ทราบ ที่ผ่านมารัฐบาลก็กำชับเรื่องนี้ โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อ่านจดหมายของนายชวนว่าขอความร่วมมือ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับอีกครั้งหนึ่งว่าการประชุมสภาเหลืออีกไม่กี่ครั้ง ขอให้ช่วยรักษาเกียรติประวัตินี้เอาไว้ ให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นผลงานของสภาที่จะบันทึกไว้

"ยืนยันว่าการอภิปราย ม.152 ไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลพร้อมที่จะตอบ แต่หากองค์ประชุมไม่ครบด้วยเหตุใดผมก็ไม่ทราบ แต่ถึงอย่างไรถ้าไม่มีใครขอให้นับองค์ประชุมก็ไม่เป็นไร" นายวิษณุกล่าว

ร้อง กกต.โทนี่ครอบงำพท.

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์จะไปเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 ของพรรค รทสช.ว่า ไม่ขอวิจารณ์ และไม่ขอให้ความเห็นเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรใหม่และไม่มีอะไรพิเศษ ถ้าจะเป็นนักการเมืองในวิถีประชาธิปไตยก็ต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเกือบทั้งหมดก็ลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว การเลือกตั้งเที่ยวหน้าตนก็ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อเช่นเดียวกัน

ที่พรรค รทสช. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการแต่งตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองของพรรคว่า  เป็นการตั้งตามมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมานี้ จะมีการประชุมกันสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรือถ้าพล.อ.ประยุทธ์ติดงานก็อาจจะใช้วิธีประชุมผ่านทางซูม โดยคณะกรรมการมีทั้งหมด 15 คน

สำหรับคณะกรรมการชุดนี้ มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน นายพีระพันธุ์เป็นรองประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายชุมพล กาญจนะ, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายสุชาติ ชมกลิ่น, นายธนกร วังบุญคงชนะ, นายเสกสกล อัตถาวงศ์, นายอนุชา บูรพชัยศรี, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร, นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว และนายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ, นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

 ที่ จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ และประธานยุทธศาสตร์ด้านการเลือกตั้งภาคเหนือตอนบน, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานยุทธศาสตร์ ร่วมโครงการสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคเหนือตอนบน ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยและทีมทำงานเข้าร่วมงาน

  นายสมพงษ์กล่าวถึงจุดประสงค์การจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งให้แก่ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคเหนือตอนบนทั้ง 8 จังหวัดคือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ และน่าน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ครบถ้วนแล้วทั้งหมด 36 เขต

 นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแน่นอน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทยต้องการชัยชนะอย่างถล่มทลาย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน ชูธงขายนโยบายที่ทำได้จริง โดยผู้แทนที่ใกล้ชิดประชาชน และแคนดิเดตที่บริหารเป็น พร้อมนำนโยบายของพรรคไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง

นพ.พรหมินทร์บรรยายสรุปหลักคิด ปัจจัยความสำเร็จและนโยบายหลักในการสู้ศึกสนามเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง เพราะเพื่อไทยมีหัวใจคือประชาชน จึงอยู่ในหัวใจของประชาชนตลอดมา การสร้างรายได้คือหลักคิดของเพื่อไทย เราเคยทำได้และจะทำอีก จากคิดใหม่ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน

"วันนี้เพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน นโยบายในอดีตที่เพื่อไทยเคยสำเร็จจนเป็นแบรนด์และยังคงมีคุณค่าอยู่ในปัจจุบันจะกลับมา และมาในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม เช่น การยกระดับ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ราคาพืชผลเกษตรขึ้นยกแผง แก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ และรายได้นั้นต้องเป็นรายได้ใหม่ของคนทุกกลุ่ม" นพ.พรหมินทร์กล่าว

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบกรณีนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน อ้างว่าพรรคฝ่ายค้านสนับสนุนแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 โดยมีผู้บริหารสูงสุดของพรรคเพื่อไทย (พท.) โทร.เข้าไป อันเป็นการกระทำที่เข้าข่ายสนับสนุนผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าล้มล้างการปกครอง และอีกกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28, 29 ที่ครอบงำ ชี้นำ ควบคุม กรณีแกนนำ กปปส.เข้าไปสังกัดเป็นสมาชิกและผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย

นายสนธิญากล่าวว่า กรณีนายทักษิณพูดเป็นคลิปข่าวทั่วไปว่าการรับสมัครสมาชิกหรือผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.เพื่อไทย ในส่วนผู้เคยเป็น กปปส.นั้น ตนเน้นว่านายทักษิณพูดว่าสามารถกระทำได้ จึงร้องให้ กกต.วินิจฉัยว่าการพูดดังกล่าวของนายทักษิณ ชี้นำ ครอบงำ หรือควบคุมหรือไม่อย่างไร

 “ต้องไม่ลืมว่านายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย และปัจจุบันเป็นบิดาของว่าที่แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เข้าข่ายการกระทำผิดประเด็นที่จะครอบงำ ชี้นำ หรือควบคุม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ในมาตรา 28 มาตรา 29 หรือไม่ ในกรณีที่นายทักษิณพูดเรื่อง กปปส. ที่ได้เป็นผู้สมัครหรือสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” นายสนธิญากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง