
"ผบ.ตร." สั่งเข้มคดี “มาเก๊า 888” สาวถึงใครจัดการไม่มียกเว้น เผยออกหมายจับตัวละครหลัก 1 ราย และผู้ต้องหาต่างชาติทยอยมอบตัว ขณะที่ "บิ๊กต่อ" ตะเพิด ตร.นอกรีต ใช้เครื่องแบบหากินให้ลาออก
วันที่ 7 ก.พ.66 ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เดินทางไปตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.หนองบัวลำภู โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. ต้อนรับ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้รายงานความคืบหน้าปฏิบัติการ "มาเก๊า 888" กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ หลังเปิดปฏิบัติการไป 4 ครั้ง โดยตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมถึงการสอบปากคำ "ผู้กองไบร์ท" ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร รอง สว.ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ซึ่งเบื้องต้น ผบ.ตร. เน้นย้ำขยายผลทุกกรณี หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงปรากฏความผิดถึงใคร ต้องดำเนินคดีทุกราย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เปิดเผยว่า จุดเริ่มของปฏิบัติการมาเก๊า 888 มาจากการที่สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจในกรณีที่ดาราสาว ดิว อริสรา ออกมาให้ข้อมูล จึงได้เรียน ผบ.ตร. เพื่อทำการสืบสวน ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ได้เน้นย้ำชุดทำงาน จนเป็นที่มาของปฏิบัติการมาเก๊า 888 ตามที่ปรากฏ โดยเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ชุดทำงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้เข้าตรวจค้นรถหรูตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และนครราชสีมา ซึ่งได้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าการดำเนินการ
โดย ผบ.ตร.ได้สอบถามความคืบหน้าว่า จากการดำเนินการขณะนี้ สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยเพียงใด และสามารถที่จะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้หรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ได้รายงานไปว่าทางชุดทำงานได้มีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของบัญชีม้าและตัวของผู้บงการซึ่งเป็นตัวละครหลัก และจับกุมตัวหลักได้ 1 ราย
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าพี่น้องประชาชนอาจจะเกิดคำถามว่าทำไมถึงไม่ออกหมายจับทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้ต้องนำเรียนว่าตัวละครหลักทางเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจที่จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด เนื่องจากไม่อยากให้เวลาคดีถึงชั้นศาลแล้วมีการยกฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา สิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจและจับตาคือการที่กลุ่มผู้ต้องหาบางคนยังคงกบดานหรือหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นให้การช่วยเหลือ ซึ่งหากปรากฏหลักฐานเด่นชัดก็จะต้องนำมาสอบปากคำ และหากพบความผิดในส่วนใด ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
"ได้เน้นย้ำว่าหากมีข้าราชการตำรวจคนใดเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ให้เตือนตำรวจว่าหากคุณไปทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยใช้อำนาจหน้าที่ หรือแม้แต่เครื่องแบบของข้าราชการตำรวจเข้ามาหาประโยชน์ ให้ลาออกไป อย่ามาอยู่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสีย รวมทั้งเตือนไปยังข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ หากพบก็ต้องดำเนินการ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ระบุ
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มของผู้ต้องหาที่อยู่ต่างประเทศได้มีการประสานขอเข้ามอบตัว ซึ่งได้นำเรียน ผบ.ตร. และมอบหมายให้ชุดทำงานของตำรวจไซเบอร์ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเราจะไม่มีเงื่อนไขใด ว่าไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่ากลับมามอบตัวแล้วจะต้องได้ประกัน การมอบตัวก็เป็นเรื่องของการมอบตัว การประกันตัวก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สยบดีลหนุน‘ป้อม’ ‘แม้ว’อ้างไม่เคยคุยมา17ปี ‘จตุพร’ลากไส้โกหก18ครั้ง
“ทักษิณ” รีบทวีตปัดดีลลับดันก้น “ประวิตร” เป็นนายกฯ คนที่ 30
เปิดชื่อ2ตร.หิ้วถุงเงิน6ล. ‘ชูวิทย์’พบหมิ่นกว่า20จุด
"ทนายตั้ม" ตั้งโต๊ะแฉ "ชูวิทย์" ต่อ ไม่หวั่นคำขู่ฟ้องเรียกเงิน 100 ล้าน
ข่าวดีราคาน้ำมันขาลง ปตท.ลดตามตลาดโลก
ปตท.เผยแนวโน้มราคาน้ำมันขาลง คาดตลาดโลกปี 66 อยู่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ขู่งัด‘เคอร์ฟิว’ดับไฟป่า!
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ กำชับเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่า-หมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ ลด PM2.5 อย่างเร่งด่วน
‘โรม’กอดหลักนายกฯต้องเป็นส.ส.
รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ "รทสช." ว่อน ฮือฮา “บิ๊กตู่” ไม่ติดโผ ด้าน "ก้าวไกล"
กทม.ดัน‘พิธา’นั่งนายกฯ พลังเงียบเชียร์ภูมิใจไทย
นิด้าโพลเผยคนกรุงหนุน "พิธา" เป็นนายกฯ ตามด้วย "อุ๊งอิ๊ง" และ "บิ๊กตู่" แต่เลือกเพื่อไทยเป็น ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ