อบต.เก้อ!ขึ้นค่าตอบแทนสะดุด

"บิ๊กตู่" โชว์ผลงานปลายเทอมรัฐบาล ต่างชาติยกย่องไทย 3 ด้าน พลิกโฉม ปท.อยู่แนวหน้าของโลก "ขึ้นค่าตอบแทน อบต." สะดุด! "มท." ต้องไปปรับปรุงระเบียบ กม. "วิษณุ" ย้ำเดือนก.พ.ไม่มียุบสภาแน่ "บิ๊กป้อม" ติดใจตรวจราชการปทุมธานี "ผู้ว่าฯ หมูป่า-บิ๊กแจ๊ส" ร่วมต้อนรับ "ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พปชร." ยกทีมมารอ สาวใหญ่หอมแก้มชมหล่อจังเลย "พท." ปลื้ม "สนธยา" ยกทีมชลบุรีซบ "เสี่ยแป๊ะ" พร้อมชนกลุ่มบ้านใหม่ มั่นใจแลนด์สไลด์ 10เขต "อนุทิน" ย้ำหาเสียงต้องต้องไม่พาดพิงพรรคอื่น ปัดไม่ได้ส่งสัญญาณจับมือทักษิณ ชี้การเมืองต่างคนต่างเดิน

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha" ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่านครับ ในช่วงปลายเทอมของรัฐบาลนี้ ผมอยากจะขอรวบรวมมุมมองของชาวโลกที่มีต่อบ้านเมืองของเรา เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และความสำเร็จในแง่มุมต่างๆ อันเป็นผลมาจากการทำงานและฝ่าวิกฤตร่วมกันมาอย่างสมัครสมานสามัคคีของ "ทีมประเทศไทย" ซึ่งประกอบด้วยคนไทยทุกคนจากทุกภาคส่วน ดังนี้ 1.องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเมินว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นอันดับที่ 44 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพในการขจัดความยากจน การศึกษาที่มีคุณภาพ การสุขาภิบาลและแหล่งน้ำสะอาด การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
2.ธนาคารโลก (World Bank) จัดทำรายงาน "ตามติดเศรษฐกิจไทย : นโยบายการคลังเพื่อสังคมที่เสมอภาค และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ธันวาคม 2565” โดยระบุว่านโยบายการคลังของไทยมีประสิทธิภาพสูงกว่าประเทศอื่น สามารถช่วยบรรเทา ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำได้ดี โดยในระยะสั้นนั้นใช้มาตรการทางภาษี เงินช่วยเหลือ และการอุดหนุนรายได้ครัวเรือน สามารถกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนในระยะยาวใช้การสนับสนุนงบประมาณด้านสาธารณสุข ส่งเสริมการศึกษา และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมียุทธศาสตร์
3.องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรองและยกย่องประเทศไทย ว่าเป็นตัวอย่างของนานาชาติในด้านระบบประกันสุขภาพทั่วหน้า และมีความมั่นคงทางสุขภาพ ตามดัชนีการจัดอันดับระบบดูแลสุขภาพ Global Health Security (GHS) Index ซึ่งพิจารณาจากการป้องกันโรค การตรวจและรายงาน การรับมือ/ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ด้วยโรงพยาบาลที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล บุคลากรทางการแพทย์มีความรู้-ความสามารถ-มีประสบการณ์และศักยภาพสูง และมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย
"ทั้งหมดนี้นำมาสู่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ มีอัตราเงินเฟ้อลดลง การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสูงขึ้น แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งมีความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นทั้งจุดแข็งและจุดขาย"

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ผลที่เกิดขึ้นจากความสามัคคีของคนในชาติ และนโยบายการบริหารประเทศที่มุ่งผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทำให้ในวันนี้ เราไม่เพียงจะก้าวข้ามวิกฤตโลกไปได้อย่างดี แต่เรายังสามารถก้าวหน้า พลิกโฉมประเทศมาอยู่แนวหน้าของโลกได้ในหลายมิติอีกด้วย

ค่าตอบแทน อบต.สะดุด
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หารือกับนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย เรื่องการขึ้นค่าตอบแทนของผู้บริหารท้องถิ่น อบต. 5,300 แห่ง และสมาชิก อบต. 4 แสนคนทั่วประเทศ โดยจะผลักดันผ่านกระทรวงมหาดไทยว่า นายพีระพันธุ์ยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้รับทราบ ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาอยู่ 

"งานบางงานเป็นเรื่องของหน่วยงานเขา งบประมาณการจะทำอะไรบางครั้งก็ใช้งบประมาของเขาเอง ในส่วนของงบกลางจะใช้ในกรณีฉุกเฉินพิเศษเร่งด่วนจำเป็น ไม่ใช่ว่าจะเพิ่มตรงไหนก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูเขามีงบประมาณพอหรือเปล่า งบสะสม เงินสะสมเขาทำได้หรือไม่ อะไรทำนองนี้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่าเกรงจะมีข้อครหาใกล้จะเลือกตั้งแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าเขาทำได้ผ่านหลักเกณฑ์กติกาถูกต้องเขาก็ทำได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าทุกอย่างไม่ต้องทำอะไรเลย กว่าจะเลือกตั้งก็เดือนพ.ค.โน่น รักษาการกว่าจะได้รัฐบาลอีกเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ เอาไหมล่ะ ก็ทำเท่าที่ทำได้

ทั้งนี้ ช่วงค่ำแหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงมหาดไทยกล่าวกับ “เนชั่นทีวี” ถึงเรื่องการขึ้นค่าตอบแทน อบต.ว่า แม้ว่าพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เห็นชอบในหลักการจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยนั้น เบื้องต้นได้มีการประชุมไปเรียบร้อยแล้ว

"เรื่องดังกล่าวยังไม่มีอะไร อยู่ระหว่างการดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายระเบียบค่าตอบแทน โดยนายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ในฐานะฝ่ายเลขาฯ ต้องไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาระเบียบข้อกฎหมายค่าตอบแทน อบต. ไม่ใช่จะไปดำเนินการให้แล้วเสร็จทันทีทันใด คาดว่าเฉพาะเรื่องการแก้ไขระเบียบกฎหมายอย่างเดียวคงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ เร็วสุดประมาณช่วงปลายเดือน ก.พ.ถึงจะทราบผลเรื่องแก้ไขปรับปรุงระเบียบค่าตอบแทน อบต." แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยระบุ

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยุบสภาว่า "นายกฯยังไม่เคยปรึกษาเรื่องการยุบสภา" ถามว่ามีกระแสข่าวจะยุบสภาต้นเดือน มี.ค. นายวิษณุกล่าวว่า ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน วันนี้เพิ่งวันที่ 8 ก.พ. เหลืออีกหลายวันกว่าจะสิ้นเดือน ก.พ. เพราะเดือน ก.พ.อย่างไรก็ไม่ยุบสภาอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องรีบเร่งหารือ ขั้นตอนคือ 1.ยกร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา 2.นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และ 3.ลงพระปรมาภิไธยมาแล้วต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่มีอะไรซับซ้อน

ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่าได้ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมแกนนำพรรคและสมาชิกพรรค ที่มีกำหนดการลงพื้นที่และปราศรัยใหญ่อย่างแน่นอน ในวันที่ 25 ก.พ. ณ ลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

"จากการลงพื้นที่โคราชอย่างต่อเนื่อง ประชาชนให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างมาก อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ อีก เพราะนอกจากเป็นคนโคราช ลูกหลานย่าโม ยังได้เห็นถึงผลงานในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด โดยจะใช้สโลแกนนายกฯ ลุงตู่ ลูกอีสาน หลานย่าโม" นายเสกสกลกล่าว

ป้อมคึกกวาด ส.ส.ปทุมฯ

ที่ จ.ปทุมธานี เวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ คณะทำงานพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ โดยเดินทางมายังศาลากลาง จ.ปทุมธานี ต.บางปลอก อ.เมืองฯ เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ จ.ปทุมธานี ร่วมกับนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้การต้อนรับ

จากนั้นคณะ พล.อ.ประวิตรดินทางต่อมายังโรงเรียนวัดเวฬุวัน ต.บางพูด อ.เมืองฯ จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามแนวทางการพัฒนาคลองหมายเลข 3 โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานีของพรรค พปชร. ประกอบด้วย นายเสวก ประเสริฐสุข เขต 1, นายนพดล ลัดดาแย้ม เขต 2, นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล เขต 3, นายยุทธวัตน์ เกียรติหาญกล้า เขต 4, นายวิรัช พยุงวงศ์ เขต 5, นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง เขต 6 และ น.ส.กฤษณา วงศ์คำ เขต 7 มารอต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.ประวิตรมาถึง นายเสวกและทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานีทั้งหมด ได้เข้าไปไหว้ต้อนรับ โดยนายเสวกระบุว่ามาทั้งทีม ทำให้ พล.อ.ประวิตรกล่าวตอบว่า "ขอให้ได้ทั้งทีม" นายเสวกจึงบอกว่า "ได้อยู่แล้วครับนาย" จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ และมีชาวบ้านคนหนึ่งได้นำผ้าขาวม้ามาผูกให้ พล.อ.ประวิตร อีกทั้งยังกอดและหอมแก้ม พล.อ.ประวิตร และบอกว่า "หล่อจังเลย รักนะ"

นอกจากนี้ เมื่อ พล.อ.ประวิตรกําลังเดินทางออกจากโรงเรียนวัดเวฬุวัน มีกลุ่มเด็กนักเรียนเข้ามารอต้อนรับ พร้อมร้องเพลง “ทรงอย่างแบด” ให้ พล.อ.ประวิตรฟัง ซึ่ง พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะร่วมถ่ายภาพกับเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าว แล้วเดินทางไปติดตามการก่อสร้างสถานีสูบน้ำและอาคารประกอบ ที่โครงการสถานีสูบน้ำถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่ประชาชนมาต้อนรับกันอย่างมากมายในทุกจุดที่เดินทางไป อาจจะเป็นเพราะว่าตนเป็นคนใหม่ พื้นที่ไหนที่ยังไม่เคยไปก็จะไป สำหรับเรื่องของการดีเบต ยังไม่รู้ ซึ่งในพรรคมีคนที่ชำนาญกว่าตนเยอะแยะ สามารถไปดีเบตได้

ถามถึงการเปิดตัวนายสนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม และแกนนำกลุ่มเรารักชลบุรี เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ว่า "ก็ไม่เป็นไร ของใครของมัน" ซักว่านายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม จะเป็นกรรมการบริหารพรรค พปชร.อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่อยู่ๆ ในพื้นที่ชลบุรีไม่ต้องห่วง

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.), นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ทั้ง 12 คน  แบ่งเป็นระบบเขตเลือกตั้ง 10 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน ประกอบด้วย 1.นายสนธยา คุณปลื้ม 2.นางสุกุมล คุณปลื้ม 3.น.ส.สุภีพันธุ์ หอมหวล 4.นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม 5.นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ 6.นายแมน  อินทร์พิทักษ์ 7.นายเชาวลิตร แสงอุทัย 8.นายพนธกร ใคร่ครวญ 9.นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ 10.นายเดชา จันทร์เล็ก 11.นายสงกรานต์ ภาชนะ 12.นายชาญยุทธ เฮงตระกูล

เสี่ยแป๊ะพร้อมชนบ้านใหม่

นายสนธยากล่าวว่า ในฐานะตัวแทนทีมชลบุรี มีความยินดี มีโอกาสกลับมาร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง เมื่อปี 2548 สมัยพรรคไทยรักไทย ครั้งนั้นได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกพวกเราเข้ามาทำงาน เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแบบแลนด์สไลด์ ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่สามารถแข่งขันได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา  

"มั่นใจสิ่งที่เคยทำงานหรือผลงานของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน รวมทั้งผู้สมัครของเรา ทำให้มีความเชื่อมั่น มั่นใจว่าจะแลนด์สไลด์ทั้ง 10 เขต" นายสนธยากล่าว 

ถามว่า ทีมชลบุรีจะขอทวงคืนพื้นที่ทั้งหมดจากกลุ่มบ้านใหม่ที่ไปอยู่กับพรรคนายกฯ ได้หรือไม่ นายสนธยากล่าวว่า เดิมจังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่บ้านใหญ่อยู่แล้ว ด้วยผลงานของทีมชลบุรีช่วงที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจการจะทวงคืนนั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเดิมก็เป็นพื้นที่ของเรา ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทีมชลบุรีจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ทั้ง 10 เขต

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนำนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อขอโทษกรณีที่มีลูกพรรคได้กล่าวพาดพิงว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ไปคุย แต่เป็นการไปกราบขอโทษท่าน เราเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อลูกพรรคพูดพาดพิงถึงท่านในสิ่งที่ต้องถือว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปพูด พรรค ภท.ได้มีแนวทางชัดเจนว่าการลงพื้นที่หาเสียงปราศรัยห้ามไปแตะเรื่องของพรรคการเมืองอื่น หรือห้ามแตะสิ่งที่ไม่ใช่เป็นเจตนารมณ์ของพรรค ท่านศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ท่านคงมัน เพราะฉะนั้นเมื่อมีการไปพาดพิงนายกรัฐมนตรี ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ต้องไปกราบขออภัยท่านนายกฯ

 “ถ้าไปพูดถึงพรรคอื่นผมก็ต้องไปขอโทษหัวหน้าพรรคอื่นหรือคนที่ถูกพาดพิงอีก ผมก็บอกไปแล้วว่า โอ้โห! ผมเข่าด้านเลยนะ เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ปกติรอยตะเข็บกลีบกางเกงผมจะแหลมเปี๊ยบ แต่เมื่อวานนี่ตรงเข่าของผมทู่เลย ซึ่งสมาชิกพรรคก็คงไม่มีใครอยากให้หัวหน้าพรรคกางเกงไม่สวยอีก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมเข้าไปขอโทษและเรียนชี้แจงแล้ว  พล.อ.ประยุทธ์ก็เข้าใจ ท่านเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ท่านยังบอกว่า อ้าว! เหรอ!มาเรื่องอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าเราทำเรื่องไม่สมควรก็ต้องขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะถือว่าผมเป็นผู้น้อย” นายอนุทินกล่าว

ถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ไม่เคยคิดร้ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการส่งสัญญาณในการจับมือทางการเมืองในอนาคตใช่หรือไม่ นายอนุทินปฏิเสธว่า ไม่ใช่เลย เราพูดในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ครั้งนี้ก็ไม่แน่ใจว่ามีใครไปตัดต่อตรงคำถาม และช่วงท้ายที่ตนได้พูด ไปหยิบเพียงเฉพาะส่วนตรงกลางมาพูด

 “ผมได้บอกความรู้สึกไปว่าในพรรคภูมิใจไทยไม่มีใครไปคิดร้ายกับท่านนายกฯ ทักษิณ แต่ส่วนเรื่องการเมืองวันนี้ก็ต้องถือว่าต่างคนต่างเดิน ต่างคนก็ต่างมีแนวทางของตัวเอง แค่นั้นเอง ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณอะไรทั้งสิ้น ทางนี้ต้องไปฟังคำถามที่ถามก่อน” หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

ที่พรรครวมแผ่นดิน จัดประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 หลังจาก พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยื่นลาออกจากหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ไปรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนหน้า ดร.คมสัน พันธุ์วิชาติกุล โฆษก และคณะกรรมการบริการพรรครวมแผ่นดิน ยื่นใบลาออกพรรครวมแผ่นดิน ที่ กกต.เช้าวันที่ 24 ม.ค.66 จากนั้นไปเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย นามพรรคพลังประชารัฐ ในเย็นวันเดียวกัน

น.ส.กชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก ประธานที่ปรึกษาพรรค และหัวหน้าภาคเหนือพรรครวมแผ่นดิน กล่าวว่า การประชุมวันนี้มีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ทั้งหมด โดยในที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.ชัชชัย ภัทรนาวิก หรือบิ๊กโป๊ป เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์