“บิ๊กตู่” ปัดไม่รู้ข่าวล็อบบี้ทำสภาล่มหนีซักฟอก 15-16 ก.พ.นี้ อ้างทุกคนยืนยันไปร่วม ปรามาสฝ่ายค้านจ้อเรื่องเดิม ใหม่แค่เรื่องตำรวจลั่นพร้อมชี้แจง "วิปรัฐบาล" ยันไม่กลัวตรวจสอบ ไม่มีล็อบบี้ ซัดปล่อยข่าวเหมือนตีปลาหน้าไซ "ปชป." ไม่เห็นด้วยเล่นเกมสภาล่ม วอนทุกฝ่ายร่วมประชุม "เพื่อไทย" เตรียม 35 ขุนพลรอแฉทุจริต-ธุรกิจสีเทา ขู่เปิดอภิปรายนอกสภาหากประชุมล่ม “ก้าวไกล” จ่อจัดหนักธีม “เช็กบิลปรสิต ปิดสวิตช์ 3 ป." ดักคอทำสภาล่มเปลือยประจานตัวเอง
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รายหนึ่งต่อสายหาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ เพื่อล็อบบี้ไม่ให้เซ็นชื่อเข้าประชุมสภาในช่วงการอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ว่า ข่าวมาจากไหน ตนไม่รู้ แต่เห็นทุกคนยืนยันว่ายินดีไปร่วม และตนก็ยินดีเข้าไปตอบแค่นั้นเอง มันจะเกิดไม่เกิดก็ดูก็แล้วกันว่าทำไมไม่เกิด และไม่เกิดเพราะอะไร ตนชี้แจงได้หมด
"แต่การอภิปรายครั้งนี้เข้าใจว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เคยอภิปรายมาบ้างแล้ว ใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องตำรวจบ้างอะไรบ้างก็ชี้แจงไป เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เราต้องอยู่ด้วยกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ว่าคิดเองเออเอง ไอ้นี่ผิดไอ้นี่ถูกมันไม่ได้ ต้องเอากฎหมายมาดู ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์หมดในกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีทนาย มีศาลไว้ทำไม ถ้าเขาสู้ได้ก็สู้ไป ถ้าสู้ไม่ได้ก็ติดคุกก็เท่านั้น มันต้องอยู่กันด้วยแบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการประสานงานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีเรื่องล็อบบี้อย่างแน่นอน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กลัวการตรวจสอบ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการเมือง ไม่มีการ ล็อบบี้ว่าจะให้อภิปรายหรือไม่อภิปรายแต่อย่างใด และที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ตลอดว่าสภานั้นเป็นอย่างไร และพยายามให้สมาชิกเข้าร่วมการประชุมทุกครั้ง แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็เกิดจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำให้องค์ประชุมไม่ครบมาโดยตลอด มีการโยนกันไปโยนกันมาซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ที่ต้องทำให้การประชุมสภานั้นสามารถทำได้ตามปกติ
นายอนุชากล่าวว่า มั่นใจจะมีการอภิปรายในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้อย่างแน่นอน ตนเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในวิปรัฐบาล ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการบอยคอตแม้แต่นิดเดียว และเป็นเรื่องหน้าที่ของ ส.ส.ทั้งสองฝ่าย
เมื่อถามย้ำว่า บรรยากาศดูเงียบเหมือนจะส่งสัญญาณว่าไม่มีการอภิปราย นายอนุชากล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ตนไม่เกี่ยว จะเตรียมตัวหรือไม่เตรียมตัว คิดว่าก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง โดยทุกคนก็มีภาระมากขึ้น เนื่องจากใกล้การเลือกตั้ง และมุ่งทำพื้นที่ เรามองว่าการปล่อยกระแสข่าวออกมาเป็นการตีปลาหน้าไซ ไม่เช่นนั้นคงระบุตัวตนแล้วว่าเป็นใคร
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ส.ส.พรรค ปชป.จะเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปอย่างแน่นอน และตนไม่เห็นด้วยที่ใครก็ตามจะพยายามทำให้เกิดปัญหาอุปสรรค จนการอภิปรายเดินต่อไม่ได้ เพราะการทำให้การอภิปรายเดินต่อไม่ได้ ถือเป็นการขัดขวางการทำงานของ ส.ส.ในสภา และเป็นการขัดขวางการตรวจสอบ ปิดกั้นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
วอนทุกฝ่ายร่วมประชุม
นายองอาจกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีความกังวลว่า การอภิปรายจะเอาเรื่องเดิมๆ ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมากลับมาพูดซ้ำอีกครั้งนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ผู้อภิปรายจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง ขณะเดียวกันถ้าผู้อภิปรายนำข้อมูลอันเป็นเท็จมาอภิปราย รัฐมนตรีที่ถูกพูดถึงงานที่ตนรับผิดชอบก็ย่อมใช้สิทธิ์ชี้แจง แสดงความจริงต่างๆ ได้อยู่แล้ว จึงไม่ควรมีใครก็ตามพยายามขัดขวางปิดกั้นการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ ควรปล่อยให้มีการอภิปรายทั่วไปตามครรลองของการทำงานในระบบรัฐสภา และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุมพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อให้การทำงานในสภาเดินหน้าไปได้อย่างสมบูรณ์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า การอภิปรายแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายค้านจะตั้งข้อสังเเกต และรัฐบาลทำหน้าที่ชี้แจงข้อกล่าวหา และข้อสังเกตเหล่านั้นให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับรู้ เพียงแต่บางครั้งการอภิปรายของฝ่ายค้านอาจจะดุเด็ดเผ็ดมัน ก็ต้องรักษามารยาทให้อยู่ในองค์ประชุมตามกรอบข้อบังคับ อย่าเลยเถิดไปถึงบุคคลภายนอก ทั้งนี้คิดว่าเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ส่วนองค์ประชุมจะล่มหรือไม่นั้นคนที่่เสียโอกาสคือประชาชน ตามธรรมเนียมของ ชทพ.นั้น ก่อนการอภิปรายครั้งใดเราจะเรียกประชุมเวลา 09.00 น. และวันที่ 15 ก.พ. ส.ส.ของพรรคทั้งหมดจะเข้าประชุมเช่นกัน จากกรณีกระแสข่าวจะทำให้สภาล่มนั้น เราคงต้องหารือในที่ประชุมของพรรคก่อน เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนมีความคิดและเหตุผลแตกต่างกันไป แต่ที่สุดแล้วทิศทางของพรรคจะไปในทิศทางเดียวกัน
"ชทพ.ทำงานโดยไม่มีวาระซ่อนเร้น หากฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัยหรืออภิปรายเรื่องใดผมยินดีตอบทุกเรื่อง หากไม่มีเวทีจะไปตอบที่ไหน แน่นอนว่าความผิดพลาดในการทำงานย่อมมีเกิดขึ้น เพราะหากไม่มีเลยแสดงว่าไม่ได้ทำงาน แต่อยู่ที่ว่าเกิดความผิดพลาดแล้วแก้ไขอย่างไร จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้อยางไรเป็นหัวใจสำคัญ ยืนยันว่าตลอดเวลา 3-4 ปีที่ทำงานมาไม่มีเรื่องทุจริต" นายวราวุธกล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะแกนนำพรรคที่มีบทบาทในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 ตามที่มีการบรรจุญัตติกำหนดการอภิปรายวันที่ 15-16 ก.พ.ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม
โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปใช้เวลารวม 32 ชั่วโมง การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในสมัยอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ในญัตติโดยรวมจะสอบถามข้อเท็จจริง เสนอแนะแก้ปัญหาจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ซึ่งมีข้อเท็จจริงปรากฏว่าไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน รัฐบาลต้องตอบคำถามพี่น้องประชาชนในหลายเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน เช่น กรณีธุรกิจสีเทา ภัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การทุจริตคอร์รัปชัน จะถูกหยิบยกขึ้นมา ขอตั้งชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่า ยุทธการกระชากหน้ากากคนดี มาจากที่สื่อมวลชนตั้งชื่อรัฐบาลหน้ากากคนดี เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าหน้ากากคนดีที่แท้จริงเป็นอย่างไร
"ที่ได้รับรู้มาคือจะมีการปิดกั้นไม่ให้อภิปราย จากการที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เป็นองค์ประชุม ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น เชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนจะไม่กระทำการใดที่เป็นการทำลาย แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็พร้อมจะกำหนดวันอภิปรายนอกสภา ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลที่ไม่มีโอกาสตอบข้อเท็จจริง หากเกิดกรณีดังกล่าวจริงอาจถือเป็นการปิดกั้นไม่ให้มีการตรวจสอบ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเตรียมพร้อมไว้ และจะเป็นประเด็นที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ทำตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ" นพ.ชลน่านกล่าว
เตรียม 35 ขุนพลถล่ม
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการสรุปรวบยอด ตรวจข้อสอบไฟนอล ให้คะแนนรัฐบาล และส่งให้ประชาชนดู ดูจากนโยบายที่แถลงต่อสภาไว้ สิ่งที่พูดแล้วไม่ทำ ทำไม่ได้ หรือทำตรงกันข้าม รวมถึงแนะนำถึงช่วงเวลาที่เหลือและสมัยหน้าควรทำอย่างไร รัฐบาลชุดนี้ย้ำว่าเข้ามาปราบปรามทุจริต มีรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่เราจะชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การโกงที่เกิดขึ้นถูกจัดอันดับไว้อย่างไร หรือการอ้างเรื่องความมั่นคง แต่กลับมาปราบทุกคนที่เป็นศัตรูการเมือง ซึ่งแท้จริงแล้วรัฐบาลคือผู้ทำลายความมั่นคงของรัฐบาลเอง วันนี้ความมั่นคงในบริบทใหม่ของโลกไม่ใช่การซื้ออาวุธ แต่เป็นความมั่นคงที่รัฐบาลรู้ไม่ทัน รวมถึงการกล่าวอ้างเทิดทูนสถาบัน แท้ที่จริงเป็นแนวร่วมมุมกลับ ที่สำคัญที่สุดถ้าอภิปรายจบ จะเห็นถึงภูมิปัญญารัฐบาลที่ตามไม่ทันภัยคุกคามใหม่ เศรษฐกิจใหม่ ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นคือการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะถามได้ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และทำไมจึงไม่ทำในสมัยที่เป็นรัฐบาล
นายสุทินกล่าวว่า ส่วนการล้มองค์ประชุมนั้น หากเกิดขึ้นจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่รัฐบาลนี้ได้ข้อหาหนีการตรวจสอบ ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน เบื้องต้นถ้าสภาล่มในสัปดาห์นี้ จะมีนัดในสัปดาห์ถัดไป แต่ถ้าปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. พรรคฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนอกสภาทันที
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมมาก เพราะได้ยื่นญัตตินี้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2565 เตรียมตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ฝ่ายค้านได้เวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน รัฐบาล 3 ชั่วโมง รัฐบาลประสงค์ที่จะไม่ให้มีการอภิปรายยืดเยื้อ จึงขอเวลาเท่านี้ เรามีผู้อภิปรายรวม 35 คน ตลอด 2 วัน เปิดการอภิปรายและเข้าญัตติโดย นพ.ชลน่าน ตามด้วยหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือผู้ใช้สิทธิ์หัวหน้าพรรค 5-6 คน จึงเข้าเนื้อหา แบ่งเป็นกลุ่มปัญหาเศรษฐกิจ กลุ่มปัญหาสังคม ยาเสพติด และกลุ่มการเมือง ที่มีกลไกบิดเบี้ยว สถานการณ์ไม่ปกติ และกลุ่มสุดท้ายคือการทุจริต การอภิปรายจะจบประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 โดยนายสุทินจะเป็นผู้ปิดการอภิปราย
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอาจไม่อยู่เป็นองค์ประชุมในการอภิปรายทั่วไปว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ถ้าทำจริงจะยิ่งเปลือยประจานตนเอง กระแสเสื่อมศรัทธาต่อฝ่ายรัฐบาลจะเพิ่มสูงขึ้นทันที เพราะการอภิปรายเป็นกลไกปกติในการตรวจสอบรัฐบาล และขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงประเด็นที่สังคมสงสัย โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมามีหลายเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น หากการอภิปรายมาตรา 152 ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กลับไม่ร่วมมือแม้แต่เป็นองค์ประชุม ประชาชนจะยิ่งเห็นว่ารัฐบาลเป็นวัวสันหลังหวะ และข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านเป็นความจริง
นายชัยธวัชกล่าวถึงความพร้อมของพรรคก้าวไกลว่า เราพร้อมมาก เตรียมผู้อภิปราย 10 คน ถล่ม 2 วันเต็ม ในธีม “เช็กบิลปรสิต ปิดสวิตช์ 3 ป.” เนื้อหาการอภิปรายจะเปิดแผลความล้มเหลว และเปิดโปงการทุจริตภายใต้การบริหารราชการของรัฐบาล โดยเฉพาะในวงการตำรวจ ทหาร พลังงาน คมนาคม จึงขอให้รอติดตาม เชื่อว่าทุกข้อมูลมีประโยชน์ต่อประชาชนในการเลือกตั้ง โดยพรรคก้าวไกลขอทำหน้าที่ ส.ส.ฝ่ายค้านให้ดีที่สุดก่อนสภาปิด ส่วนหลังเลือกตั้งจะสลับไปเป็นฝ่ายบริหาร เพื่อเร่งฟื้นฟูประเทศหลังเอาพรรคทหารออกจากอำนาจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯอิ๊งค์ขายฝันประชานิยมปี 2568 แจกเงินหมื่น-ผ่อนบ้าน 4 พัน-ล้วงเงินหวยส่งเด็กเรียนนอก
'นายกฯอิ๊งค์' ร่ายยาวผลงานรัฐบาล 90 วัน เปิดอนาคตปี 68 ครอบคลุมทุกมิติ มาแน่ปีหน้าเงินหมื่นเฟส 2-3 จัดบ้านเพื่อคนไทยผ่อน 4 พันไม่ต้องดาวน์ ผุดไอเดียดึงงบกองสลากส่งเด็กไทยเรียนเมืองนอก คืนชีพ 1 อำเภอ 1 ทุน
เปิดสภาวันแรกเดือด!ฝ่ายค้านซัดจงใจหนีตอบกระทู้ทั้ง ครม.
สส.เพื่อไทยเดือด ปชน. ตั้งกระทู้ปลาหมอคางดำ หลอกด่านายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ตั้งแต่วันแรกของการประชุมสภาฯ ด้าน 'ปธ.วิปค้าน' ข้องใจเจตนาแถลงผลงานตรงวันเปิดประชุมสภา ฉุนจงใจเบี้ยวตอบกระทู้ทั้ง ครม.
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.