ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ มอตโตใหม่หาเสียง‘ลุงตู่’ ชูมาร์คแคนดิเดตนายกฯ

"บิ๊กตู่" คึกคักลงตรวจราชการ "จันทบุรี-ระยอง" สักการะศาลหลักเมืองและศาลพระเจ้าตากสินฯ ขอมีชัยชนะทุกเรื่อง ศัตรูทั้งปวงจงพินาศหมดสิ้นไป โชว์มอตโตใหม่ "ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ"   อ้อนกองเชียร์ "ถ้าไม่เลือกก็ไม่ได้อยู่ต่อนะ" ลั่นพร้อมเลือกตั้ง 500% อุบวันธงชัยเป็นฤกษ์ยุบสภา "ลุงป้อม" ฟิต 24 ก.พ.วันเดียวลุยตรวจน้ำ 3 จังหวัด "สาธิต"   เผย "จุรินทร์" เตรียมคุย "อภิสิทธิ์" ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ ปชป.ไม่ควรมีแคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียว "พท." ดักคอเชื่อเลือกตั้งมีเงินซื้อเสียงสะพัดเกินหมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,  นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.จันทบุรีและระยอง โดยขึ้นเฮลิคอปเตอร์จาก พล.ม.2 รอ. ไปลงที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน ต.วัดใหม่ อ.เมืองฯ จ.จันทบุรี แล้วนั่งรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กท 1111 จันทบุรี เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ

จุดแรก พล.อ.ประยุทธ์และคณะเข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.จันทบุรี พร้อมผูกผ้าสามสี จากนั้นสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยได้ถวายพระมาลาและกล่าวคำบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ตอนหนึ่งว่า ขอบูชาสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยเครื่องสักการะ ธูปเทียนดอกไม้ ขอเดชะพระบารมีเป็นที่พึ่ง ขอให้มีชัยชนะในการทุกเรื่อง ขอให้ศัตรูทั้งปวงจงพินาศหมดสิ้นไป ขอให้สรรพสิทธิ์การงานจงพลันสำเร็จ บังเกิดลาภผลเพิ่มพูน ขอสิ่งที่ประสงค์จงบรรลุสมปรารถนาทุกประการ

ทั้งนี้ ตัวแทนคณะกรรมการมูลนิธิศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยังได้มอบผ้ายันต์สีแดงให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีพุทธคุณให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ปกปักรักษาคุ้มครอง

จากนั้น เวลา 10.05 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาที่อำเภอแหลมสิงห์ รับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยมี “สารวัตรต๊อก” พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีกระแสข่าวจะเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มารอต้อนรับ              

ก่อนนายกฯ เดินทางไปภารกิจจุดถัดไป ชาวบ้านได้ส่งสัญลักษณ์มือมินิฮาร์ตพร้อมชู 2 นิ้ว ตะโกนว่า “ลุงตู่อยู่ต่อๆ”  พล.อ.ประยุทธ์จึงได้ทำมือมินิฮาร์ตกลับ ทั้งนี้ ชาวบ้านยังเข้าสวมกอดและขอถ่ายรูปกับนายกฯ พร้อมกล่าวว่า “กลับไปแล้วอย่าลืมประชาชน” นายกฯ จึงตอบว่า “อยากให้อยู่ต่อ แต่จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่เลือก ถ้าเลือกตั้งไม่ได้ก็ไม่ได้อยู่ ขอให้จำ 3 คำของลุงไว้ 1.ลุงทำแล้ว 2.ทำอยู่ 3.ทำต่อ”

ทั้งนี้ ประชาชนกล่าวว่า ประทับใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนแรกที่มาถึงอำเภอแหลมสิงห์ เพราะไม่เคยมีใครมาหาเลย โดยนายกฯ กล่าวว่า “อาจจะไม่มีเวลา เดี๋ยวไปดูปัญหาให้ เพราะรับปากไว้แล้ว ถ้าได้ทำต่อก็จะทำต่อไป” ก่อนที่นายกฯ จะส่งมือไอเลิฟยู และขึ้นรถพร้อมกล่าวด้วยว่า “ถ้าไม่เลือกก็ไม่ได้อยู่ต่อนะ”

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปที่วัดเขาตาหน่วย จ.จันทบุรี เข้าสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดเขาตาหน่วย ก่อนชมการแสดงฟ้อนรำของชาวบ้านอย่างอารมณ์ดี และนายกฯ ได้ร่วมตีฆ้องอย่างสนุกสนาน  

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมกลุ่มฝีมือแรงงาน โดยชาวบ้านกล่าวชื่นชมว่า นายกฯตัวจริงหล่อมาก รวมทั้งบอกว่า “รักลุงตู่ที่ลุงตู่รักสถาบัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข ประสบความสำเร็จ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย สังคมปลอดภัย รัฐบาลดูตรงนี้ต้องเตรียมรองรับ 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.พระมหากษัตริย์ และ 4.ประชาชน ขณะที่ชาวบ้านบอกอีกว่า 4 คือนายกฯ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ทำท่าเขินและบอกว่า “ไม่ใช่  คือประชาชน ไปดีกว่าอันตราย แต่ถ้าไม่เห็นนายกฯ แล้วจะคิดถึงนะจ๊ะ”

ชู'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวคำว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ซึ่งเป็นสโลแกนหรือมอตโตพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดด้วยตัวเองเพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ต่อคำถามที่ว่า "ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ" คือมอตโตใหม่ใช่หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ยักคิ้วรับพร้อมระบุว่า ก็คิดมาตลอด สิ่งที่ทำแล้วต้องรู้ว่าอะไรทำไปแล้ว อะไรทำอยู่ก็คือยังไม่เสร็จ ต้องทำให้เสร็จ อีกหน่อยทำต่อเรื่องใหม่ๆ ก็จะทำให้ อาจจะเป็นปัญหาในอนาคต เรื่องโลกเปลี่ยนแปลง สิ่งแวดล้อมโลกเปลี่ยน อย่างเช่นสถานการณ์ในตุรกีที่เสียชีวิตหลายหมื่นคน ซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็ต้องเตรียมความพร้อมตลอดทุกวันนะจ๊ะ อย่ามัวแต่ทะเลาะกันเลย 

เมื่อถามว่า รู้สึกเขินหรือไม่ที่ประชาชนให้ความสำคัญกับนายกฯ เป็นหลักสำคัญของประเทศอันดับที่ 4 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา แล้วแต่ประชาชนนะ บังคับไม่ได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นรถ ได้ระบุด้วยว่า “อย่าไปสนใจข่าวมโนสาเร่ให้มาก เราก็ทำงานของเรา วันนี้เป็นนายกฯ ก็มาตรวจงาน”

ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี เวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ ตรวจพื้นที่โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการ จากนั้นเวลา 13.00 น. ไปที่วัดโค้งสนามเป้า อ.เมืองจันทบุรี เข้าสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และนมัสการพระราชธรรมเมธี เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี พร้อมรับฟังปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตอำเภอเมืองจันทบุรีจากประชาชน 

เวลา 15.20 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาที่ ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ราชการจังหวัดระยอง, นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย, นายกสมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง, นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน  

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า ขอกล่าวว่าสวัสดีระยองฮิ พี่น้องชาวตะวันออก​ ภาษาระยองพูดไพเราะดี​ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีคนอยู่หลายสัญชาติ อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม​ ภาษาใดก็ตามหากพูดรู้เรื่องก็ใช้ได้ทั้งหมด ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงปัญหาราคายาง การจัดตั้งอีอีซี การขอความร่วมมือจากชาวสวนยาง การส่งเสริมการใช้ยาง รวมทั้งกล่าวขอบคุณประชาชน

ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า "รักลุงตู่ที่สุดเลย" นายกฯ จึงกล่าวว่า "รักให้น้อยกว่ารัฐมนตรีสาธิตหน่อยแล้วกัน บ้านอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเขาน้อยใจ เดี๋ยวจะโดนเล่นงาน แหย่เล่นๆ" พร้อมกล่าวอีกว่า เป็นคนไทยต้องรักกัน ตนเป็นนายกฯ ที่จับต้องได้ ไม่ต้องโก้หรู แอ็กอาร์ต ตนไม่ใช่แบบนั้น มนุษย์เป็นอะไรก็เหมือนกัน หัวโขน แต่ระหว่างที่สวมหัว ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันใช่หรือไม่ ทั้งนี้ตนเคยมาที่จังหวัดระยองหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกคนรักกัน ตนกับรัฐมนตรีสาธิต รักกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหากัน เหมือนพี่น้องและช่วยกันทำงาน รวมถึงคณะกรรมการยางทุกคนที่รู้จัก และได้สู้กับปัญหานี้มาตลอด ดังนั้นเราจะต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของเรา

อุบวันธงชัยฤกษ์ยุบสภา  

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ถึงกระแสข่าวนายกฯ จะยุบสภาโดยเลือกวันธงชัยวันที่ 15 มี.ค.ว่า จะวันอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ เมื่อพร้อมทุกอย่างก็ยุบสภาได้ เมื่อถามว่านายกฯ พร้อมกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นายกฯ กล่าวว่า “ผมพร้อม 500%แล้วมั้ง” เมื่อถามย้ำว่านายกฯ อยากเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่อยากอะ”

ถามอีกว่า จะเป็นวันธงชัยในช่วงเดือนมี.ค.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ถามมาแบบนี้จะให้ตอบอย่างไร ต้องทำให้ประชาชนมีความสุขก่อน อย่าเพิ่งเอาอะไรมาใส่หัวมากๆ ทะเลาะเบาะแว้งกันการเลือกตั้งมันก็วุ่นอีกนั่นแหละ ต้องทำให้บ้านเมืองสงบตั้งแต่วันนี้ ทำไมไม่รู้เหมือนกัน ทีวีบางช่อง ทั้งวัน ผมถามว่าบ้านเมืองมันจะสงบไหม ไม่เกิดประโยชน์เลย บางคำถาม ซึ่งผมตอบไม่ได้ แต่ผมก็ตอบ ไม่รักไม่ตอบ ชอบไม่ชอบไม่รู้”

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ว่ายังอยู่ด้วยกันอีก 2 ปีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “แล้วแต่เธอนั่นแหละ” ก่อนกล่าวด้วยว่า กลับได้แล้ว

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงมอตโตใหม่ "ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ" ว่า พรรคอาจจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ผลงานพรรค เพราะหลายเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำมานานแล้ว และก็จำทำต่อเนื่องและต่อไปอีกให้ดีขึ้นกว่าเดิม

"คาดว่าปลายเดือน ก.พ.พรรคจะเปิดนโยบายหาเสียง รวมถึงเปิดตัวผู้สมัครทั้งหมดด้วย ทุกอย่างจะ 100% ปลายเดือนนี้แน่นอน" หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค และนายจำลอง ครุฑขุนทด รองหัวหน้าพรรค ซึ่งดูแลในภาคอีสาน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร จำนวน 22 คน 

นายวิทยากล่าวว่า หลังจากนี้บางคนต้องกลับไปลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) บางคนเป็นนายกเทศบาล นอกจากนั้นมีอยู่อย่างน้อย 5 คน เป็นอดีตแกนนำ นปช.หรือคนเสื้อแดง คือ นายณัฐยศ ผาจวง หรือ ดร.แดง ปัจจุบันเป็น ส.จ.อุดรธานี

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีกำหนดการลงพื้นที่จ.อุดรธานี จ.หนองคาย และ จ.เลย ในวันที่ 24 ก.พ. เพื่อตรวจติดตามอ่างเก็บน้ำลำห้วยเชียงตอนบน ต.ขอนยูง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี รวมทั้งติดตามการบริหารการจัดการน้ำ จ.อุดรธานี จากนั้นช่วงบ่ายจะไป จ.หนองคาย เพื่อตรวจติดตามโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง กรมชลประทาน อ.ท่าบ่อ เวลา 16.30 น.เดินทางไป จ.เลย ติดตามโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อ.เชียงคาน ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร.ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง 10 จังหวัด 15 คน

นายวิรัชกล่าวว่า สาเหตุที่พรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครบ่อยครั้ง เพราะเราต้องเติมเต็มนโยบายป้อม 700 ที่ยังขาดตัวบุคคลนำไปเผยแพร่ จึงต้องเติมให้เต็มและอยากให้ผู้สมัครเอานโยบายบัตรประชารัฐ 700 และนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุและยังมีนโยบายเรื่องโฉนด ส.ป.ก., มีเราไม่มีแล้ง, จึงอยากให้สานฝันให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชน กับพรรค และรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประวิตร ที่จะมาเป็นนายกฯ คนที่ 30

ส่วนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรค พปชร. ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรค แถลงว่า พรรคมอบหมายให้ศึกษาลดราคาน้ำเชื้อเพลิง เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งจากที่ไปศึกษา จึงได้มีการเสนอนโยบายน้ำมันประชาชน ลดราคาน้ำมันเบนซินประมาณลิตรละ 18.07 บาท น้ำมันดีเซลปรับลดประมาณลิตรละ 6.37 บาท เมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ จะลดราคาน้ำมัน 1 ปี นับตั้งแต่เราเป็นรัฐบาล และพอเป็นรัฐบาล ช่วง 3-4 เดือนแรก จะมีคณะกรรมการขึ้นมาปรับโครงสร้างใหญ่ คือภาค 2 ที่จะดำเนินการ การปรับลดได้มากขณะนี้เพราะเราปรับโครงสร้าง เราเป็นรัฐบาลปรับได้อยู่แล้ว ยืนยันราคานี้คนไทยทั้งประเทศ คนใช้รถดีเซล เบนซิน อุตสาหกรรม และช่วยในเรื่องของค่าครองชีพ สินค้าอุปโภคบริโภคจะลดลง

 "แนวคิดนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอ ซึ่งพล.อ.ประวิตรได้ให้ผมออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนที่จะมีการทบทวนแนวคิดนี้อีกครั้ง ได้ข้อสรุปอย่างไร พล.อ.ประวิตรจะแถลงด้วยตนเองอีกครั้ง" นายมิ่งขวัญกล่าว

ลุ้นมาร์คแคนดิเดตนายกฯ

วันเดียวกัน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. จะเชิญ 3 อดีตนายกรัฐมนตรีของพรรค ปชป. มาลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและช่วยหาเสียงเลือกตั้งว่า สถานการณ์ของประชาธิปัตย์ขณะนี้ไม่ได้เป็นวิกฤต แต่แค่ไม่ได้เหมือนเก่า ตอนนี้เหมือนการเข้าสู่ลู่การแข่งขัน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ก็ไม่ได้ลาออกไปไหน และยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ เพียงแต่ท่านมีหลักการและสัจจะ ฉะนั้นเมื่อท่านเป็นสมาชิกพรรคและตนเป็นผู้บริหารพรรคคนหนึ่ง ก็คิดว่านายอภิสิทธิ์มีศักยภาพที่จะทำให้คะแนนเสียงของพรรคดีขึ้นได้

"ณ วันนี้ นายจุรินทร์มั่นใจว่าพรรคมีบุคลากรที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค และนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเคยลั่นวาจาทางการเมือง และไม่เคยคืนคำ รวมถึงแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก หลังนำพาพรรคแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ฉะนั้นผมจึงคิดว่าข้อเด่นต่างๆ ของนายอภิสิทธิ์ จึงควรนำมารวมกับพรรคเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณา พร้อมหวังว่าจะให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นเหมือนเดิม" นายสาธิตกล่าว

ถามว่าพรรคควรจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ กี่คน และควรมีชื่อนายอภิสิทธิ์หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่ตนคิดอยู่ และอาจจะมีการเสนอในที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 23 ก.พ.ว่าควรจะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยการเป็นสถาบันทางการเมือง หัวหน้าพรรคควรจะเป็นอันดับหนึ่งในการถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็คิดว่าอีก 2 ที่ ควรปล่อยให้ว่างไปหรือทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งมีหลายมุมมองหลายมิติ ฉะนั้นควรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่จะใช้สิ่งที่กฎหมายกำหนดให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด

ซักว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคใช่หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่มองว่าหลักการหากมีใครเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว ก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก

"ผมคงไม่เสนอนายอภิสิทธิ์ แต่มองว่าหลักการหากกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ควรที่จะคิดในเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่จะต้องนำมาพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาผมก็พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์อยู่ตลอด ทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องฟุตบอล ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ให้คำแนะนำโดยตลอด" นายสาธิตกล่าว

รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ในวันที่ 23 ก.พ. พรรคจะมีประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อแก้ไขระเบียบข้อบังคับบางข้อ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน จากนั้นนายจุรินทร์จะไปเทียบเชิญนายอภิสิทธิ์มาลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งต่อไป

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้องของ กกต.เกี่ยวกับการคำนวณสัดส่วนประชากรต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งจะนับรวมคนต่างด้าวด้วยหรือไม่ โดยนัดอภิปรายหารือและลงมติวันที่ 3 มี.ค. ว่าหากสามารถชี้ขาดได้ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ถือว่าเร็ว แต่ไม่ทราบว่าสามารถชี้ขาดได้เลยหรือไม่

"หากเป็นไปตามนั้นจริง ถือว่าเป็นการดี ส่วนจะกระทบไทม์ไลน์เลือกตั้งหรือไม่ยังไม่รู้ เพราะยังไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร จึงตอบไม่ถูก อยู่ที่ว่าคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร และจากการหารือกับ กกต. ทราบว่าได้เตรียมแผนไว้ทุกรูปแบบ หากคำวินิจฉัยระบุว่าให้นับคนที่ไม่มีสัญชาติไทยรวมด้วยนั้นถูกต้องแล้ว กกต.ก็เดินแผนหนึ่ง ถ้าไม่ถูกก็เดินอีกแผนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกรอบเวลาที่คิดไว้" นายวิษณุกล่าว

ถามว่ากรอบเวลาวันเลือกตั้งยังเป็นวันที่ 7 พ.ค.นี้ นายวิษณุกล่าวว่า แนวโน้มเป็นอย่างนั้น ส่วนที่นายกฯ ระบุวันที่ 7 พ.ค.นี้ ไม่ได้ยืนยันเอง เพราะนายกฯ ไม่ไม่มีสิทธิ์ แต่เป็นการพูดตามที่ กกต.พูดไว้ และดูว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายฝ่าย คาดว่าจะมีการใช้เงินมาเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้เลือกผู้สมัครของพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัด นอกจากนี้ ได้รับทราบว่าในบางพื้นที่มีการซื้อเสียงล่วงหน้ากันแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะมีการใช้เงินในการซื้อเสียงเลือกตั้งมหาศาล ทั้งนี้ ได้ยินข่าวแล้วน่าตกใจ เพราะมีการประมาณการกันว่าจะมีการใช้เงินในการเลือกตั้งที่จะถึงหลักหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดสภาวันแรกเดือด!ฝ่ายค้านซัดจงใจหนีตอบกระทู้ทั้ง ครม.

สส.เพื่อไทยเดือด ปชน. ตั้งกระทู้ปลาหมอคางดำ หลอกด่านายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ตั้งแต่วันแรกของการประชุมสภาฯ ด้าน 'ปธ.วิปค้าน' ข้องใจเจตนาแถลงผลงานตรงวันเปิดประชุมสภา ฉุนจงใจเบี้ยวตอบกระทู้ทั้ง ครม.