ซื้อใจอบต.ล่วงหน้า บิ๊กตู่ขึ้นค่าตอบแทน1ต.ค. จ่อยกเป็นเทศบาลทุกแห่ง

"บิ๊กตู่" เยือนอุดรฯ-หนองบัวลำภู เปิดสัมมนา "บทบาทท้องถิ่นไทย" ประกาศข่าวดีปรับขึ้นค่าตอบแทน อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ รอราชกิจจาฯ เผยแพร่สัปดาห์หน้า มีผล 1 ต.ค. แย้มเตรียมยกสถานะ อบต.ขึ้นเป็นเทศบาลทุกแห่ง  พร้อมเพิ่มสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล-เลี้ยงดูบุตร ออกตัวไม่ใช่การหาเสียงแต่ต้องทำให้เสร็จ การันตีไม่ยุบท้องถิ่นแน่ "นายกสมาคม อบต." ปลื้ม เชียร์ลุงตู่ทำงานต่อ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 วันที่ 2 มี.ค. เวลา 07.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานีและหนองบัวลำภู

จุดแรก พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางถึงที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี เวลา 09.57 น. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” พร้อมกล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” มีประชาชนรอให้กำลังใจตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” โดยนายกฯ ได้ตอบกลับไปว่า “ก็ขอให้ช่วยกันสู้เช่นเดียวกัน ขอให้สู้เพื่อประเทศชาติ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการตั้งด่านจุดตรวจสกัดและตรวจค้นบุคคลที่จะเข้ามาในงาน 2 ด่าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรฯ เข้ามาเคลื่อนไหวหรือต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจาก จ.อุดรฯ เปรียบเสมือนเมืองหลวงของคนเสื้อแดง ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับเรื่องร้องเรียนไว้ด้านหน้าก่อนถึงหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยกลุ่มแรกที่เข้ายื่นหนังสือเป็นกลุ่มเหมืองโปแตช ประมาณ 20 คน

สำหรับบรรยากาศภายในงานได้จัดเตรียมเก้าอี้ไว้สำหรับสมาชิกสภาท้องถิ่น  ข้าราชการและพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาร่วมงาน 5,000 ที่นั่ง โดยบริเวณตรงกลางได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ถือธงชาติไทย ที่มีตราสัญลักษณ์กระทรวงมหาดไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยไว้ตลอดเส้นทางเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์เดินเข้ามาหน้าเวที พร้อมเปิดเพลงมาร์ชเป็นการต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” และกล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” ตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้เป็นการเปิดโครงการที่สำคัญที่สุดในลำดับต้นๆ ให้ความสำคัญเสมอมา ผู้บริหาร อบต.ทั่วประเทศทุกท่านที่ดูแลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ ขอพูดในนามนายกฯ ได้ใช่ไหม พูดบนเวทีมันยากเหลือเกิน วันนี้ถือว่ามาขอบคุณและภาคภูมิใจกับพวกเรา ซึ่งต้องร่วมมือกันแบบนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ภาคอีสานมีความเจริญเติบโตขึ้นมากในหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น เพราะตนให้แก้ปัญหาลงในครัวเรือนผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน พบว่าผู้มีรายได้น้อยลดลง เพราะมีอาชีพอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อความทันสมัย และเข้าถึงภาคบริการภาครัฐ นโยบายของรัฐสิ่งเหล่านี้ต้องทำตลอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าทุกจังหวัดมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ต่อไปจะสร้างความเจริญเติบโตให้ทุกจังหวัดใกล้เคียงกัน

ขึ้นค่าตอบแทนอบต.ทั่วปท.

"รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันเดียวกันนี้ผมได้พูดคุยกับคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รองนายก อบต. ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิกสภา อบต. และเลขานุการ ขณะนี้ รมว.มหาดไทยกำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาในสัปดาห์หน้า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วง นี้และมาที่นี่พอดี นอกจากนี้รัฐบาลจะยกสถานะ อบต. เป็นเทศบาล ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่น ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่นตามสากลต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี

"โอ้โห ใหญ่โตกันทั้งหมด ถือว่าใหญ่โตวันข้างหน้าก็จะได้เป็นนายกฯ จะมายืนอยู่ตรงนี้" นายกฯ กล่าว ซึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้นายกฯ ได้ทุบอกตัวพร้อมบอกว่า "แต่โจทก์เยอะหน่อย”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสวัสดิการของนายกและรองนายก อบต. ประธาน  รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบาก กำลังพิจารณาถึงสวัสดิการ เช่น ค่ารักษา พยาบาล ค่าเลี้ยงดูบุตร กำลังพิจารณาอยู่ นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่จำเป็นจะต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนพัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งเริ่มไปแล้ว และทำไปแล้ว วันหน้าก็ทำต่อๆ ไป ไม่ใช่จะเสนอแต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มันไม่ได้ พูดมากไปเดี๋ยวมีเรื่องอีก

จากนั้น นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า “พวกเราพร้อมสนับสนุนให้นายกฯ ทำงานต่อ เรามาให้กำลังใจนายกฯ สานต่องานให้สำเร็จ ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจ"

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศขึ้นค่าตอบแทน อบต.ทั่วประเทศว่า เขาได้รับการพิจารณาจากทางกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว เมื่อถามว่าหากประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลสิ้นเดือน มี.ค.เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มีผล ซึ่งเป็นการใช้งบของ อบต.เขา

ถามว่า แต่ละ อบต.จะไม่ได้เท่ากันใช่หรือไม่ หรือต้องขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละแห่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวเขากำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรายละเอียดตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงหลักการ

ซักว่าการขึ้นค่าตอบแทน อบต.จะถูกมองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "คุณมองยังไง ก็ไปอย่างนั้น แล้วแต่คุณจะมอง แต่มันเป็นเรื่องการทำงานปกติของรัฐบาล"

ถามว่า การยกระดับ อบต.เป็นเทศบาลจะทำได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้ เมื่อถามว่าต่อไปจะไม่มี อบต.แล้ว จะเป็นเทศบาลทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ใช่ ตนพูดไปแล้วไง ก็ อบต.ยกสถานะเป็นเทศบาล พร้อมยืนยันว่ายกระดับทั้งหมด

ต่อมาเวลา 12.30 น. หลังทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ได้พบปะประชาชนชาวอุดรธานีที่มาให้กำลังใจ ชูป้ายขอบคุณโครงการรัฐบาลที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เกษตรกร เช่น ชาวอีสานรักลุงตู่ ลุงตู่ซื่อสัตย์จริงใจไร้โกง โคตรรักลุงตู่ ใครด่าลุงกูด่ากลับ

"ขอบคุณชาวอุดรฯ ยินดีที่ได้พบกันอีก บางคนเคยพบกันหลายครั้งแล้ว บางคนอาจจะยังไม่เคยเจอกัน ก็จะได้เจอวันนี้ เจอตัวนายกฯ วันนี้ขอพูดไม่ดูสคริปต์ เป็นการพูดจากหัวใจของนายกฯ ยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด เพราะนี่คือคนไทยด้วยกัน เราต้องร่วมจิตร่วมใจเป็นคนไทยที่ดี สำหรับดินแดนแหลมทองของเรา อีสานเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะมีการเชื่อมโยงกันทั้งในและต่างประเทศ ขออย่างเดียวคือความรัก ความสามัคคี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และถามชาวบ้านว่า ให้นายกฯ ได้ไหมความรัก ความสามัคคี ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยกกัน รัฐบาลต้องเป็นแบบนี้ ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง

บิ๊กตู่อ้อนชาวอุดร-หนองบัว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ถ้าไม่รักลุงตู่ แล้วจะไปรักแมวที่ไหน มาวันนี้เอาหัวใจมาฝาก ในนามนายกฯต้องรักทุกคน ตนเป็นนายกฯ วันนี้ต้องรักวันนี้ วันหลังก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ทำเพื่อคนไทยทุกคน ทำมาตลอดเวลาที่ผ่านมา รักทุกคน และขอบคุณในน้ำใจไมตรี แด่ชีวีที่ยังคงมีค่า กว่าไตรรงค์ที่คลุมเมื่อยามตาย

กระทั่งเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางต่อมาที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.หนองบัวลำภู ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด) พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาส ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.4-31 ก.) สำหรับใช้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์แห่งใหม่ ให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มาเยือนอีกครั้ง นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนต.ค.2565 เป็นความสูญเสีย สะเทือนใจของคนไทยทุกคน เราได้ประจักษ์แล้วว่ายาเสพติดเป็นต้นตอสำคัญในเรื่องความรุนแรง นอกจากสุขภาพแล้ว และครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนนึกถึงพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่มอบขวัญกำลังใจให้ทุกคน วันนี้สถานการณ์ผ่านมาแล้ว 3 เดือน ตนได้สั่งการชัดเจนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาบูรณาการจะทำอย่างไร ช่วยแก้ปัญหา รวมถึงทำอย่างไรให้เกิดการประสานงานบูรณาการกันไปสู่เป้าหมาย เป็นจังหวัดที่ปลอดยาเสพติด เป็นแม่แบบต้นแบบต่อไป

ต่อมานายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของแต่ละอำเภอของจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับการบำบัดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวระหว่างพบกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่า "ฝากหัวใจของเราไว้ที่นี่ด้วยนะ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกฯ เดินทางกลับได้ถ่ายรูปร่วมกับว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และกล่าวว่า "โชคดีนะจ๊ะทุกคน จะทำอะไรก็แล้วแต่ ฉันไม่รู้นะว่าเธอทำอะไร" พร้อมกับหันมาโบกมือและส่งสัญลักษณ์มินิฮาร์ตให้ประชาชน พร้อมกล่าวว่า “จริงใจให้กัน เดินได้แน่ประเทศไทย”

จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายรูปกับสมาชิก อบต.หนองบัวลำภู พร้อมทำท่าดอกไม้บานร่วมกับสมาชิก อบต.อย่างอารมณ์ดี โดยนายกฯ ยกมือขึ้นแนบที่ใบหน้าทั้งสองข้าง พร้อมบอกว่า “ยกสองมือเท่ากับดอกไม้บานสองดอกหรือสองกลีบเลย”

อย่างไรก็ตาม มีการมอบดอกกุหลาบ และมีป้ายต้อนรับนายกฯ โดยมีข้อความ อาทิ นายกฯ ในดวงใจ, FC ลุงตู่, หนองบัวลำภูอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ, หนองบัวรักลุงตู่, สูงอายุขอบคุณลุงตู่ 1,000 บาท, ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ, ลุงตู่สู้ๆ, ขอให้อยู่นานๆ

ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นมือด้านขวาของนายกฯ บวมอย่างเห็นได้ชัด จึงสอบถามว่ามือบวมเป็นอะไร นายกฯ กล่าวว่า มันบวมนิดหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน แต่ไปเช็กแล้วไม่เป็นอะไร อาจจะเป็นเพราะพูดมากมั้ง เดี๋ยวก็หาย ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย อะไรที่พูดไปเป็นเรื่องที่เราอยากให้เขามีความสุข เข้าใจหรือไม่

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการยกระดับ อบต.เป็นเทศบาลว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนการตราในประมวลกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว จะมีผลกับ อบต.ทั่วประเทศ โดยถือว่าเป็นไปตามหลักสากลให้เป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งสถานะของ อบต.ก็จะเป็นเทศบาลทั้งหมด

"เรื่องการเพิ่มค่าตอบแทนนั้น ขณะนี้กฎหมายเสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนพิจารณาในรายละเอียด คาดว่าวันจันทร์ที่ 6 มี.ค.นี้จะประกาศได้ในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลในช่วงประมาณเดือน ต.ค. โดยหลักการนั้นจะคำนวณจากรายได้ ที่จะมีหลักเกณฑ์อยู่" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

ด้านนายปราโมทย์ เพชรรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากแพรก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะเลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องการขึ้นเงินเดือนให้กับ อบต.ทั่วประเทศเป็นไปตามลำดับขั้นตอน โดยการขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2566 ไม่ใช่ว่ามีผลทันทีหลังจาก รมว.มหาดไทยลงนาม และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนเกณฑ์การขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าว จะขึ้นตามรายได้ของ อบต.แต่ละแห่งประเทศ โดยใช้ฐานรายได้และงบประมาณประจำปีของ อบต.เป็นเกณฑ์ ทำให้ อบต.แต่ละแห่งก็จะขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนแตกต่างกันไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมี อบต.ทั่วประเทศประมาณ 5,300 แห่ง ซึ่งการขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนดังกล่าว จะทำให้ผู้บริหาร อบต. เช่น นายก อบต. รองนายก อบต. และสมาชิกสภา อบต.ทั่วประเทศที่มีรวมกันเป็นหลักแสน จะได้เงินเดือนขึ้นตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ที่เป็นวันแรกของปฏิทินปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567

ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 3 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์เตรียมลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา พร้อมรับฟังการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก.