บิ๊กตู่ส่งซิกยุบสภา สมศักดิ์จะไปก็ไป

"บิ๊กตู่" สุดอึด! คล้องที่พยุงแขนร่วมถก ครม. หลังเพิ่งออกจาก รพ.   เผยวันยุบสภาใกล้งวดเต็มที แย้มคุยแกนนำรัฐบาลหมดแล้ว ยันมือเจ็บไม่กระทบลงพื้นที่ "วิษณุ" รับเป็นไปได้ยุบสภา 20 ก.พ. เลือกตั้ง 14 พ.ค. เหตุ กกต.ชี้ไม่มีผลได้เสียจัดเลือกตั้ง "ลุงป้อม" ไล่ไปถาม "สมศักดิ์-สุริยะ" ทิ้ง พปชร.ไป พท.จริงหรือไม่ บอกถ้าจะไปก็ไป "สมศักดิ์" ระบุไม่เกิน 20 มี.ค.รู้ "อนุทิน" ย้ำพรรคไม่เสียกำลังใจถูกถล่มช่วงเลือกตั้งเยอะ "วราวุธ" ระบุ 15 มี.ค.เตรียมเปิดตัวทีม ศก. "พท." เปิดศึกชิงนโยบายพักหนี้เกษตร 3 ปี ลั่น "ทรท." ทำก่อน "ภท."

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 มี.ค. เวลา 08.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากนายกฯ ออกจากโรงพยาบาลเข้ารับการรักษามือด้านขวาบวมอักเสบ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าระหว่างนั่งรถนายกฯ สวมหมอนรองคอเพื่อกันแรงสะเทือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายกฯ เข้าห้องทำงาน ต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ภาพพล.อ.ประยุทธ์นั่งทำงานที่โต๊ะในห้องทำงานชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ ใช้มือข้างขวาที่อักเสบเซ็นเอกสาร และมือข้างขวายังคงใส่อุปกรณ์พยุงแขน (Arm Sling) ส่วนหลังมือซ้ายยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์และที่ต่อสายน้ำเกลือติดอยู่

นายอนุชาระบุว่า เช้าวันนี้นายกรัฐมนตรีเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติตั้งแต่เวลา 08.15 น. โดยได้เริ่มปฏิบัติภารกิจเตรียมการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในเวลา 09.30 น.

ต่อมาเวลา 09.09 น. นายกฯ ลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี เพื่อเป็นประธานการประชุม ครม. มีนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินประกบข้าง โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ยกมือซ้ายขึ้นทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายังคงปวดแผลและมีอาการตึงแผลอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้โชว์มือด้านซ้ายที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ติดอยู่พร้อมกล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า “ยังปวดแผลนิดหน่อย ยังมีอาการตึง แต่มันก็ดีขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องทำงานนะ งานมันเยอะแต๊งกิ้ว”

จากนั้นเวลา 13.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงการลงพื้นที่ระหว่างที่มือยังเจ็บอยู่ว่า ไม่เป็นไร อย่างนี้ก็ไปได้ วันนี้ก็ประชุมที่ทำเนียบฯ ทั้งวันไม่เห็นเป็นอะไรเลย ส่วนแผนการลงพื้นที่เดี๋ยวทางพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมีการปรับ บางทีเขาก็ดูเหมือนกันว่าจะเหมาะสมหรือเปล่า เพราะนายกฯ ยังเป็นแผลอยู่ ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดด้วย ไม่ได้หมายความว่าไปว่าใครไม่สะอาด แต่ในพื้นที่ก็เป็นธรรมดามีฝุ่นอะไรต่างๆ อาจจะไปจับโน่นจับนี่บ้าง ก็ต้องระมัดระวังที่สุด คุณหมอได้เตือนไว้เรื่องการติดเชื้อ ทั้งนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะมีรอยเย็บด้วย แต่การบวมตอนนี้ลดน้อยลง

ถามว่า วันที่ 10 มี.ค.จะลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้หันไปถามนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่ากำหนดการยังไปอยู่หรือเปล่า นายธนกรตอบว่า ยังไปอยู่ นายกฯ จึงกล่าวว่า ยังไปอยู่ รวมถึง จ.สงขลาและ จ.ยะลาก็ยังไปอยู่ ไม่ได้เป็นอะไร ไปได้ก็ไปอยู่แล้ว เพราะนัดกันไว้แล้ว จากนั้นนายกฯ ได้หันไปทางนายธนกรและนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ยืนข้างหลัง พร้อมกล่าวว่า "พวกนี้เขาดูแลผมอยู่แล้ว"

เมื่อถามว่า ต้องลองซ้อมเซ็นยุบสภาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่ต้องลองหรอก บางเรื่องต้องเซ็นแล้วส่งต่อ โดยนายกฯ ต้องเซ็นทั้งหมดทุกเรื่อง ครั้งที่เข้าโรงพยาบาลเซ็นไม่ได้เพราะนิ้วล็อกอยู่ ก็ใช้ระเบียบกฎหมายลงนามโดยระเบียบวิธีการลงนามด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพราะนี้เราออกระเบียบไว้แล้ว นายกฯ ก็ไปอ่าน 40 กว่าเรื่องแล้วติ๊กๆ ไว้ แล้วลงนามอิเล็กทรอนิกส์ไป แต่วันนี้มาก็เซ็นด้วยตัวเอง

คุย'ยุบสภา'แกนนำรบ.แล้ว

นายกฯ กล่าวถึงการยุบสภาว่า ก็ใกล้งวดลงทุกที นี่แหละคืบหน้าแล้ว เมื่อถามย้ำว่าอีกกี่วัน นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ได้คุยกับแกนนำรัฐบาลทั้งหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ท่านก็บอกก็แล้วแต่  เมื่อถามว่าการประชุม ครม.สัปดาห์หน้าจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่ายังเป็นอย่างนั้นอยู่ ยังมีอยู่อีกหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ เรื่องที่ติดค้างอยู่ อยากให้ภาระต่างๆแล้วเสร็จ เพราะประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ ก็พยายามจะแก้ให้ได้มากที่สุด

"เรื่องการยุบสภา การเลือกตั้งหาเสียงก็อีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนก็หาเสียงกันอยู่แล้วใช่ไหม ก็หากันแล้วว่าทุกคนก็พร้อมกับนายกฯ ในการแก้ปัญหาให้ประชาชนในช่วงนี้ไปพลางก่อน ที่เหลือก็เป็นการลาราชการอะไรไปก็แล้วแต่" นายกฯ กล่าว

ซักว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่คุยกับ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คุย เป็นสิทธิของ พล.อ.ประวิตร ใครจะคุยกันเขาก็นัดคุย คนรู้จักกันทำไมจะคุยกันไม่ได้เล่า คืออย่ามองในแง่ไม่ดีทุกอย่างเลย คนเราได้เจอก็ต้องคุยกันใช่ไหม เวลาไปไหนมาไหนคนคุยกับตน ซึ่งตนก็คุยกับทุกคนแล้วจะอะไรล่ะ ทำไมต้องมองว่าจะต้องคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็แล้วแต่ เพราะเราไม่ได้อยู่ร่วมในการคุยด้วยจะรู้ได้อย่างไรใช่ไหม

"แต่ผมก็คุย ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไรกัน  ก็ทักทายกันธรรมดา นะจ๊ะ ผู้หลักผู้ใหญ่เขาคุยกัน" นายกฯ กล่าว

ถามว่า ดูเหมือนว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไม่เห็นมีอะไร เมื่อกี้ท่านก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน บางทีเอาไปพาดพิงกันไปกันมา เดี๋ยวก็มีเรื่องจนได้ ตนก็ถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ท่านบอกไม่มีก็จบ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการประชุมครม.ว่า วันนี้ที่ประชุม ครม.มีการพิจารณาวาระกว่า 40 เรื่อง ซึ่งเป็นช่วงปลายของรัฐบาล หลายเรื่องจึงจำเป็นจะต้องเร่งรัดเข้า ครม. เพราะตนเป็นห่วงว่าจะติดค้างนาน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง และกว่าจะมีรัฐบาล ฉะนั้นอะไรที่ดูแลได้รัฐบาลโดยนายกฯ ก็จะดูแลให้ จะไปพูดคุยหารือกับกระทรวง ทั้งนี้เรื่องที่ตนให้ดูแลเร่งด่วนก็คือเรื่องการสร้างฝายในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ตนได้ไปมาเอง และจากที่รายงานเข้ามา และในพื้นที่ ก็ได้ขอมา จึงได้อนุมัติ ซึ่งเป็นประมาณปี 67 เพราะถ้าทิ้งไว้นานก็เดือดร้อน ที่อนุมัติไม่ได้เพื่ออะไรทั้งสิ้น แต่เพื่อเป็นไปตามความต้องการของประชาชน

นายกฯ กล่าวต่อว่า โครงการคมนาคม ทั้งสะพานและถนนที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีขอมาตั้งแต่ปีก่อน ก็ได้อนุมัติไปแล้ว แต่มันไม่พอ เพราะถูกตัดงบไป วันนี้ก็ต้องทำให้เสร็จจึงอนุมัติงบไปเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน มันมีอีกเยอะ แต่ต้องเข้าใจว่างบประมาณเรามีจำกัด เพราะช่วงปลายรัฐบาล งบประมาณที่ได้มาทั้งหมดก็ดูแลประชาชนและอีกหลายอย่าง

"วันนี้ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งหลังยุบสภาไปแล้วก็ต้องรักษาการ เราก็ต้องมีเงินไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งก็มีจำกัดมากพอสมควรในการแก้ปัญหา จึงต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า" นายกฯ กล่าว

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภาวันที่ 20 มี.ค.ว่า ในที่ประชุม ครม.ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เลย อยู่ที่นายกฯ ตนไม่ควรพูด ตนไม่รู้จริงๆ

ถามว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจะทำให้วันเลือกตั้งขยับไปเป็นวันที่ 14 พ.ค.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ กกต.กำหนด ให้นับระยะเวลาให้ได้ไม่น้อยกว่า 45 วัน ไม่น้อยกว่า 60 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ซักว่า วันที่ 7 พ.ค.หรือวันที่ 14 พ.ค. อันไหนเหมาะกว่ากัน นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่ยุบสภาวันไหน เดิมทีคิดว่าวันที่ 7 พ.ค. อยู่บนสมมติฐานที่คิดว่ามันได้เวลา 60 วัน แต่ถ้าไปถึงวันที่ 14 พ.ค. ก็ต้องดูว่าอยู่ในกรอบเวลาหรือไม่ แต่ต้องอยู่บนหลักเลือกตั้งวันอาทิตย์

ถามอีกว่า หากยุบสภาวันที่ 20 ก.พ.เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. เป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ได้ เพราะอยู่ในกรอบ ซึ่ง กกต.บอกแล้วว่าไม่มีผลได้เสีย และไม่แตกต่างกันในการจัดการการเลือกตั้ง

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม.ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่าอาจจะประชุม ครม.อีกครั้งสองครั้ง ขอให้เร่งผลักดันผลงานต่างๆ ออกมา แต่ไม่ได้ระบุถึงวันยุบสภาแต่อย่างใด 

'ป้อม'บอก'สมศักดิ์'ไปก็ไป

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงภาพพูดคุยกับ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ว่าก็ตามนั้นแหละ เมื่อถามย้ำว่าถือเป็นสัญญาณที่ดีในทางการเมืองเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงข่าวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมและรองหัวหน้าพรรค พปชร. และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมและกรรมการบริหารพรรค พปชร. จะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่า ไปถามเขาดู ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีข่าวว่าจะไปพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าจะไปก็ไป เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายสมศักดิ์เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มีๆ ไม่ตกลง” เมื่อถามว่าหากนายสมศักดิ์ไม่ได้อยู่ พปชร.แล้วจะกระทบต่อ พปชร. พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่รู้ ไม่ได้เจอกับตน มาถามอะไร ตอบไปตั้งหลายทีแล้ว 

ถามว่า ได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องอาการมือขวาอักเสบหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เขาเจ็บ เราก็เจ็บ เราก็เจ็บที่เท้า” เมื่อถามว่าเจ็บที่เท้าเป็นอะไร พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เมื่อถามว่าได้มีการสอบถามอาการกันกับนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คุยกันอยู่ตลอดนั่นแหละ ถามอะไรก็ไม่รู้ เมื่อถามอีกว่าได้ไปเยี่ยมนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ฉันก็เจ็บขา นายกฯ เจ็บมือ ก็เสมอกัน”

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวว่า ความชัดเจนทางการเมืองได้มอบให้นายสุริยะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะท่านเสียงดังกว่าตน แกได้ตะโกนไปแล้ว

"ผมได้ยกให้นายสุริยะว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะว่าไปด้วยกัน อยู่ก็อยู่ ไปก็ไป เพราะใกล้เวลาที่ต้องตัดสินใจแล้ว ส่วนนายสุริยะจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ขอเวลานิด" นายสมศักดิ์กล่าว

ถามว่าจะเดดไลน์วันไหน นายสมศักดิ์ ตอบเล่นๆ กับผู้สื่อข่าวว่า "ไม่เกินวันที่ 20มี.ค.มั้ง"

นายเจือ ราชสีห์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 11 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อตรวจราชการ ตนในฐานะผู้แทนของพี่น้องชาว จ.สงขลา ต้องขอขอบคุณนายกฯ แม้ว่ามีปัญหาด้านสุขภาพควรจะพักผ่อน แต่นายกฯ มีความตั้งใจมาเยี่ยมชาวสงขลา คนสงขลาตั้งตารอต้อนรับนายกฯอย่างอบอุ่นจำนวนมาก เพราะชาวบ้านรักนายกฯ

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็คงจะใช้เวลาจากนี้ในการทำหน้าที่เลขาธิการพรรคอย่างเต็มที่ ส่วนการทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรี ก็เคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา

'อนุทิน'ยันภท.ไม่เสียขวัญ

ถามว่า สมาชิกพรรคเสียขวัญบ้างไหม นายอนุทินกล่าวว่า พอดีตอนนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์สุดท้ายเท่านั้น ซึ่งในพรรคไม่มีใครเสียขวัญ ในชีวิตที่ผ่านมามีเรื่องขวัญหนีดีฝ่อกว่านี้เยอะ ฉะนั้นแค่นี้ไม่เป็นไร เราต้องเคารพคำสั่งศาล ต้องทำตามกติกา

เมื่อถามว่า ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง พรรคจะเจอหลายเรื่องที่เข้ามา นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ในพรรคก็มีการคุยกัน ก็แสดงว่ามีเรื่องอะไรที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าเป็นเรื่องที่ตรงใจประชาชน ถ้าปล่อยไปพรรคภูมิใจไทยจะได้คะแนนมากขึ้น จึงต้องสกัดไว้ก่อน ซึ่งพรรคที่สกัดหรือคนไม่หวังดีกับพรรคภูมิใจไทยเขาไม่เสียหายอะไร แต่คนเสียหายคือประชาชน แต่พรรคภูมิใจไทยให้ความมั่นใจว่าทำแต่สิ่งดีๆ ให้แก่ประชาชน

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีนายกฯ มืออักเสบต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลว่า    ก็เป็นห่วง และได้เขียนข้อความไปเยี่ยมแล้ว ตนเข้าใจดี เคยป่วย ต้องนอนพักเยอะๆ รับแขกเยอะๆ มันจะไม่ค่อยหาย ซึ่งนายกฯ ได้โทรศัพท์มาหาตนเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 มี.ค. ที่ท่านก็เป็นห่วงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค และได้สอบถามพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไรบ้าง โอเคไหม และตนได้ตอบนายกฯ ไปว่าโอเคทุกอย่าง และได้กราบขอบพระคุณนายกฯ ไป

"นายกฯ ไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าโทร.มาจากโรงพยาบาล ผมมารู้ภายหลังประมาณ 10-20 นาที หลังจากเห็นข่าว  จึงไลน์ไปกราบขอโทษ ขอให้ท่านหายไวๆ เพราะตอนที่คุยทางโทรศัพท์ไม่ได้สอบถามเรื่องอาการป่วยเลย" นายอนุทินกล่าว

หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวถึงกรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เข้ามาช่วยงานพรรค ภท. โดยขอให้ผลักดันเรื่องรถไฟโมโนเรลว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์มีพันธมิตรซึ่งเป็นทีมงานของ ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ลูกชายของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์มาสมัครที่พรรค ภท. โดยมองเรื่องประโยชน์ของ จ.ปทุมธานีเป็นหลัก ไม่มีเรื่องอะไรในทางการเมือง คนไหนเป็นพวกท่าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็ช่วย และยังมีพรรคพวกของท่านอีกหลายคนที่ไม่ได้อยู่พรรค ภท. ท่านก็ช่วย เรียกว่าช่วยพวกไม่ได้ช่วยพรรค

"เวลาผมลงพื้นที่พบกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้พูดคุยกัน ท่านระบุว่าถ้าได้ส.ส.ภูมิใจไทยก็อย่าลืมโมโนเรลของคนปทุมฯ อย่าลืมเครื่องฉายรังสีโรคมะเร็ง อย่าลืมทำให้ รพ.ปทุมธานีเป็น รพ.ศูนย์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชน และตรงกับที่พรรค ภท.ต้องการทำ คือให้มีเครื่องฉายรังสีโรคมะเร็งทุกจังหวัด และผลักดันให้มี รพ.ศูนย์เพิ่มมากขึ้น และมีรถไฟโมโนเรลเมืองใหญ่ ซึ่ง จ.ปทุมธานีมี ม.ธรรมศาสตร์ มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจ เป็นเมืองการศึกษา และยังมีสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นชุมทางผ่านไปทางภาคเหนือและภาคตะวันออก ทั้งหมดตรงกับความตั้งใจของพรรค" หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ใน 8 จังหวัด มีผลกระทบต่อ ชทพ.หรือไม่ว่า พื้นที่ จ.เชียงราย ในส่วนของ ชทพ.มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 2 คน ซึ่งได้รับผลกระทบเพราะเขตเลือกตั้งหายไป 1 เขต ทำให้มีพื้นที่การทำงานมากขึ้น จึงต้องไปดูว่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเพิ่มในลักษณะใด และการทำงานจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ส่วนจังหวัดอื่นๆ ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

นายวราวุธกล่าวว่า ชทพ.ทำงานอย่างเต็มที่ในการเตรียมส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงนโยบายพรรค เหมือนที่ได้นำเสนอเรื่องคาร์บอนเครดิตเซ็นเตอร์เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในเรื่องการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า ตนจึงได้ย้ำว่านโยบายที่ดีนั้นควรเป็นการแก้ไขปัญหาปัจจุบันและอนาคตไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่มองระยะในปัจจุบันและไปสร้างปัญหาในอนาคต

เปิดศึกชิงพักหนี้เกษตรกร

 "ในวันพุธที่ 15 มี.ค. จะมีการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจซึ่งเป็นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เข้ามาช่วย และทีมคนรุ่นใหม่ รวมถึงทีมงานที่จะเข้ามาทำงานเพื่อให้เห็นพื้นฐานการทำงานของ ชทพ.ที่ขยายกว้างขึ้น เป็นการผนึกกำลังกับหลายฝ่ายในการรับใช้ประชาชนต่อไป" หัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าว

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะกรรมการ เลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายเศรษฐา ทวีสิน, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา และคณะกรรมการอีกหลายท่านว่า ที่ประชุมได้หารือถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่ใช้สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท นโยบายด้านการบริหารจัดการหนี้ของประชาชน นโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล นโยบายเขตธุรกิจใหม่ นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ Soft Power นโยบายด้านการเกษตรแบบครบวงจร

นอกจากนี้ยังได้หารือกรอบสำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการสร้างงาน ทิศทางของการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงจุดยืนด้านข้อตกลงทางการค้า ภาคการเกษตรเพื่อความมั่งคั่งของเกษตรกร ภาคบริการด้านสุขภาพเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ ความมั่นคงทางการคลัง การดึงดูดแรงงานทักษะสูง และการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เป็นต้น

"มีการวางกรอบการทำงานและเป้าหมายของคณะกรรมการ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แบ่งบทบาทหน้าที่ในการทำงานเชิงรุกในการเข้าแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบายกับตัวแทนภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงสมาคมและสมาพันธ์ภาคเอกชนต่างๆ อีกด้วย" โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พท.ระบุ

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. ตอบโต้นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ภท. ที่โพสต์ข้อความระบุมีพรรคใหญ่พรรคหนึ่งเอานโยบายเรื่องการพักหนี้ 3 ปีไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ใช้หาเสียง เคลมนโยบายไปใช้แบบหลบๆ ซ่อนๆ ว่า หากนายศุภชัยหมายถึงพรรค พท. ต้องชี้แจงว่าคนไทยทั้งประเทศรวมถึงนายอนุทินย่อมรู้ดีว่านโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ต้นตำรับผู้ดำเนินนโยบายนี้คือพรรคไทยรักไทยในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาตั้งแต่ปี 2544 และประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาหนี้สิน จากนั้นมาเมื่อพรรคพท.ได้เป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เมื่อปี 2554 ก็ต่อยอดนโยบายพักหนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น และการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2562 พรรคพท.ก็ประกาศนโยบายพักหนี้ แต่พรรคพท.ไม่ได้เป็นรัฐบาล นโยบายจึงไม่มีโอกาสได้นำมาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน 

 “นโยบายพรรคหนี้เกษตรกร 3 ปีของพรรคเพื่อไทยมีมาตั้งแต่พรรคภูมิใจไทยยังไม่เป็นวุ้น ใครกันที่ก๊อปปี้ พรรคใดที่ลอกกันแน่ อย่าให้ใครมากล่าวหาว่าท่านกำลังมึน เพราะฤทธิ์กัญชาบวกกับเหตุการณ์ที่รัฐมนตรีในพรรคที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ถึง 2 คน ที่สำคัญคือมีทั้งผู้ที่มีตำแหน่งสำคัญถึงเลขาธิการพรรค และยังถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถล่มเรื่องที่ดินเขากระโดง และกัญชาเสรีในห้วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อใกล้เลือกตั้งใหม่เช่นนี้ สภาพอาจจะคล้ายนักมวยถูกอาวุธหนักนอนกลางเวทีหมดสภาพ เลยเพ้อใช่หรือไม่” โฆษกพรรค พท.กล่าว

จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ และส.ส.เขต 5 สงขลา ร่วมในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมืองฯ จ.สงขลา ของ

นายสรรเพชญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.สงขลา

นายนิพนธ์กล่าวว่า นายสรรเพชญในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านทำงานอยู่กับประชาชนมาตลอด ไม่เฉพาะเขต 1 ซึ่งคราวที่แล้ว อำเภอระโนดมีปัญหาในเรื่องของพืชเกษตร นายสรรเพชญก็เข้าไปแก้ปัญหาให้ที่ระโนด โดยการเอาพืชผลทางการเกษตรมาช่วยเหลือประชาชนในเขตเมืองและเขตชุมชนในช่วงโควิด ฉะนั้น 3-4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าคนในพื้นที่เขต 1 และคนในจังหวัดสงขลารู้และทราบว่าใครที่อยู่เคียงบ่ากับประชาชนมาตลอด

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดวงเสวนาหัวข้อ “She can change” ผู้หญิงที่เป็นคนตัวเล็กมีพลังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคม เพื่อหารือถึงอุปสรรคและแนวทางในการส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในทุกภาคส่วน โดยมีตัวแทนผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งจากภาคแรงงาน สตาร์ทอัป ภาคธุรกิจ กลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ เยาวชน และองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมงาน

ทั้งนี้ ในวันที่ 8 มี.ค. คุณหญิงสุดารัตน์จะแถลงข่าวเนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค. โดยจะนำนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยที่เตรียมพร้อมสำหรับการดูแลผู้หญิง สร้างความเท่าเทียม สร้างอาชีพที่มั่นคงมาชี้แจง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์