ผบ.ตร.สั่งล่าตัวมือแฮ็ก ‘คนมีสี’เก่งไอทีลองวิชา

ผบ.ตร.สั่ง ตร.ไซเบอร์เร่งล่าตัวมือแฮ็กข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายชื่อ ขายบนเว็บไซต์ พบเป็นคนมีสี มีความรู้ด้านไอทีอย่างดี อยากลองวิชา แต่ยังไม่ชัดทำเป็นขบวนการหรือไม่ โวผลงานกวาดล้างอาชญากรรมรอบ 6 เดือน  จับกุมคดีอาญากว่า 4.2 แสนคดี

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 4 เมษายน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง  โฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เร่งตรวจสอบผู้ใช้งานบัญชีที่ใช้ชื่อว่า “9near” โพสต์ขายข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งของประเทศไทย และได้โพสต์ตัวอย่างไฟล์ ระบุชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งระบุข้อความข่มขู่ผู้เสียหายให้ติดต่อกลับ โดยให้เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำควาผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว

"ขณะนี้ทราบว่าได้ข้อมูลไปมากแล้ว ส่วนจะเป็นหน่วยงานรัฐหรือไม่ ยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เกรงว่าจะกระทบกับองค์กรนั้นๆ   แต่เชื่อว่าจะสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ในเร็วๆ นี้ ย้ำว่าข้อมูลเบื้องต้นตำรวจก็พอจะทราบว่าเป็นหน่วยงานใด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้" พล.ต.ท.อาชยนระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยเป็นคนมีสี เป็นคนที่มีความรู้ด้านไอทีเป็นอย่างดี และอยากลองวิชา จึงเข้าไปในฐานข้อมูลขององค์กรและดำเนินการแฮ็กข้อมูลออกมา ส่วนจะทำเป็นขบวนการหรือไม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล เชื่อว่าจะมีการแถลงผลการดำเนินการเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. แถลงผลการปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด คดีออนไลน์ในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66 ดังนี้ 1.การกวาดล้างอาชญากรรม คดีอาญา 4 กลุ่ม จำนวนคดี 422,831 คดี จับกุมได้ 392,693 คดี (คิดเป็น 93%) ผลระดมปราบปรามอาชญากรรม กวาดล้างอาวุธปืนช่วงก่อนการเลือกตั้ง (18-25 มี.ค.66) จับกุมรวม 3,116 ราย ยึดของกลาง 67,980 รายการ  ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ 2566 ช่วง 29 มี.ค.-10 เม.ย.66 จับกุมอาชญากรรมทั่วไป 15,707 คดี ผู้ต้องหา 16,670 คน และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1,284 คดี ผู้ต้องหา 1,272 คน

2.การป้องกันปราบปรามยาเสพติด ผลการจับกุมคดียาเสพติด 152,231 คดี ผู้ต้องหา 153,315 คน ยึดทรัพย์ของกลาง 620 ล้านบาท และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องฯ 12,662 ล้านบาท ยาบ้า 240 ล้านเม็ด เฮโรอีน 314 กก., ไอซ์ 8,080 กก., เคตามีน 2,403 กก., ยาอี 85,960 เม็ด และโคเคน 9 กก. โครงการค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยจิตเวช เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัด รวม 271,408 คน

3.การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุมผู้ต้องหารวม 332 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 3,638 ล้านบาท อายัดเงินได้ 449,190,107 บาท พบสถิติประเภทคดีสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ (ไม่เป็นขบวนการ), หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ,  หลอกให้กู้เงิน, หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์, ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) การระงับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีที่มีความเสี่ยงสูง “บัญชีม้า” ตามประกาศ ปปง. ดำเนินการแล้ว 693 ราย 1,381 บัญชี  MOU กับเครือซีพี ประชาสัมพันธ์สื่อสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 

4.การจราจร MOU กับกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก ลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกำหนด 2 มาตรการ คือ 1.การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มไปเมื่อ 9 ม.ค.66 ที่ผ่านมา และ 2.การชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ จะเริ่มบังคับใช้ 1 เม.ย.66, สถิติการตัดคะแนนความประพฤติ (9 ม.ค.66-31 มี.ค.66) มีผู้ถูกตัดคะแนนแล้วทั้งสิ้น 47,495 ราย 

5.การยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ โครงการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการปฏิบัติงานตำรวจระดับสถานี มีกลุ่มประชากร 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนทั่วไป 2.ผู้เสียหาย  3.ผู้แจ้ง 191 จำนวน 2 ครั้ง ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.66 และ มิ.ย.-ก.ค.66 ในพื้นที่สถานีตำรวจ 1,484 แห่ง ครอบคลุม 80,000 หมู่บ้าน/ชุมชน

6.การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจ โครงการ “Depress We Care ซึมเศร้าเราใส่ใจ” เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับนักจิตวิทยา เพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาปัญหาความเครียดโรคซึมเศร้า มีสถิติผู้รับบริการผ่านช่องทาง Inbox เพจเฟซบุ๊ก 2,075 ครั้ง เป็นตำรวจ 133 ครั้ง และผ่านสายด่วน 08-1932-0000 จำนวน 5,447 ครั้ง เป็นตำรวจ 344 ครั้ง, โครงการประเมินและสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตข้าราชการตำรวจ มีการประเมินฯ 195,963 นาย พบมีความเครียดหรือปัญหาสุขภาพจิตในระดับที่เสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรง 250 นาย (0.13%) 

7.การแสวงหาความร่วมมือกับภาครัฐภาคเอกชน รวม 7 แห่ง 1.MOU กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยกระดับความร่วมมือกระชับความสัมพันธ์ด้านวิชาการ สนับสนุนทุนการศึกษา 200,000 บาทต่อคน จำนวน 500-1,000 ทุนต่อปี  2.MOU กับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ร่วมมือการเผยแพร่ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมในเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 3.MOU กับพม. พัฒนาระบบการแจ้งเหตุ ช่วยเหลือ และส่งต่อเด็กเยาวชนด้อยโอกาส 4. MOU กับกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ความร่วมมือว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม 5.MOU กับกระทรวงกิจการภายในเครือรัฐออสเตรเลีย ร่วมมือในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 6.การประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับหลักการและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้กำลังโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย 7.MOU กับปตท. สนับสนุนในการติดตั้งโปสเตอร์เตือนภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ณ สถานีบริการพีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง