นายกฯขอช่วยกัน ปชช.มีสิทธิฟ้อง ยันแก้ฝุ่นทุกทาง

นายกฯ ชี้เป็นสิทธิ ปชช.ฟ้องได้ ยันแก้วิกฤตฝุ่น PM 2.5 เต็มที่ทุกวิถีทาง สั่งกระทรวงเกี่ยวข้องรายงานทุกๆ   3 วัน โยงการเมืองหรือไม่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคน-พรรค "ดอน" ประสานเพื่อนบ้านแก้ปัญหาต่อเนื่อง ขณะที่ "สันติ" เสนอกลาง ครม. ให้ตำรวจวิ่งไล่จับคนเผาป่า

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ถึงกรณีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เรื่องนี้ได้มีการย้ำเตือนอยู่เสมอ และในวันเดียวกันนี้ได้ย้ำไปว่าเราจะต้องทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้หาโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศ ตอนนี้ PM 2.5 สร้างความเดือดร้อนให้ภูมิภาคอาเซียนอย่างมาก เพราะเป็นประเทศที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น และ 2-3 ประเทศที่มีชายแดนติดกันกับเรา ซึ่งมีกลุ่มประเทศทางอินโดนีเซียอีกกลุ่มหนึ่ง และอากาศมีการเคลื่อนไปมาอยู่ตลอด เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจในบริบทของสภาพภูมิอากาศด้วย

ส่วนกรณีชาวเชียงใหม่ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ต่อศาลปกครองเชียงใหม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ร้องมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชน เพราะไฟเกิดขึ้นเองไม่ได้อยู่แล้วในป่า ขึ้นอยู่กับว่ามีการจุดไฟ มีการเผาวัชพืช มีการเข้าไปในป่าเขตอุทยานหรือเขตต่างๆ อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เข้าไปหาของป่า เข้าไปล่าสัตว์ อันนี้เป็นผลกระทบโดยรวม ตนคิดว่าการทำงานในวันนี้เราทำในทุกวิถีทาง แต่ถ้าประชาชนยังไม่พอใจ เป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดรัฐบาลหวังในความร่วมมือของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ก็เห็นใจในภาคการเกษตร 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ได้หารือไปยังภาคธุรกิจต่างๆ ที่มีการลงทุนอยู่ที่ต่างประเทศในเรื่องการผลิตอาหารสัตว์ และอื่นๆ เช่น ปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพด และช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อในการเพาะปลูกรอบใหม่ ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จะมีกำหนดเวลาในการเผา เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษมากเกินไป เป็นระยะๆ แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือมากนัก ก็มักจะมาเผารวมกันในช่วงท้ายๆ จึงทำให้ฝุ่นมากขึ้น ไม่ใช่การเกษตรอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการใช้รถยนต์ด้วย การจุดไฟเผาป่า โรงงานอุตสาหกรรม ตนได้ตรวจสอบหน่วยงานทุกกระทรวงไปแล้ว และสั่งการให้มีการรายงานกลับมาทุก 3 วัน สั่งเพิ่มไปแล้ว ผ่านทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และจะมีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาในภาพรวม

เมื่อถามว่า มีการเกรงว่าอาจถูกโยงไปเป็นประเด็นการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมคิดว่าอยู่ที่วัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของแต่ละคน แต่ละพรรคการเมือง ก็ว่ากันไป รัฐบาลพยายามจะทำให้เต็มที่ตามหน้าที่ ตามความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แต่ข้อสำคัญคือ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน มันก็แก้อะไรไม่ได้สักอย่าง"

ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า มีการประสานงานกันอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีการประชุมกัน 3 ฝ่าย ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้ และจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ที่จะมีการพูดคุยในรายละเอียด ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านได้ให้ความสนใจ เพราะเขาก็มีปัญหา เขาจะรีบดำเนินการ  ส่วนเราเองก็จะแบ่งปันความรู้เท่าที่เรามีอยู่ในเรื่องของการเผา โดยมีการเสนอตั้งโรงงานไฟฟ้าชุมชนขนาดเล็ก

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงมาตรการขั้นเด็ดขาดที่จะไม่รับซื้อสินค้าที่มาจากการเผาหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บางประเทศเขาเคยทำกันในอดีต แต่ตอนนี้เราก็พยายามหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อน การที่จะไปถึงมาตรการที่ไม่รับซื้อสินค้านั้น เป็นขั้นตอนต่อไป

นายดอนกล่าวถึงกรณีภาคประชาชนฟ้องนายกฯ ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ แต่เกิดมา 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งในอาเซียนก็มีปัญหากันอยู่ และพยายามแก้กันทั้งอาเซียน ยืนยันว่าการดำเนินการแก้ปัญหาเรากำลังทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงโควิดก็เบาบางไป เพิ่งจะมารุนแรงในช่วงนี้ ซึ่งมันไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศเพื่อนบ้านจะแก้ไข แต่เราเองก็ต้องแก้ไขด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนอยากรู้ว่า มาตรการของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาวเป็นอย่างไร มีมาตรการเร่งด่วนหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า เรามีทุกด้าน มีการประชุมและพูดคุยกันมาพอสมควรแล้ว

 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุม ครม. วันเดียวกันนี้ ที่ประชุมใช้เวลาหารือเกี่ยวกับเรื่องนอกวาระเป็นเวลานาน คือเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีปัญหารุนแรงในหลายพื้นที่ของประเทศไทยขณะนี้ โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง เสนอต่อที่ประชุมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับคนเผาป่า ให้เหมือนกับการไล่จับกุมบ่อนการพนัน ซึ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า "ขอบคุณที่ช่วยแสดงความคิดเห็น เพราะ ครม. ต้องร่วมกันแก้ปัญหา แต่การให้ไล่จับกุมประชาชนขนาดนั้น ให้ท่านไปเสนอเป็นนโยบายพรรคท่านก็แล้วกัน และขอฝากไปยังทุกพรรคให้ช่วยพูด ว่าเราพรรคร่วมรัฐบาลได้ช่วยกันทำงานร่วมกันมาโดยตลอด".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง