ศาลนัดฟังคำสั่ง ‘ตะวัน-แบม’ป่วน สน.สำราญราษฎร์

ตร.ฝากขัง “ตะวัน-แบม”   กับพวกรวม 9 คน บุกป่วน สน.สำราญราษฎร์ ชี้ความผิดซึ่งหน้า ดำเนินคดี 4 ข้อหา พร้อมค้านประกันตัว

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน   สน.สำราญราษฎร์ ได้คุมตัวนายสิทธิชัย ปราศรัย อายุ 25 ปี, นายนภสิทธิ์ ตรีรยาภิวัฒน์ อายุ 19 ปี, น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 21 ปี, น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ อายุ 24 ปี, นายธีรภัทร ระดับแก้ว อายุ 14 ปี, นายจิรภาส กอรัมย์ อายุ 28 ปี, นายณัฐพล เหล็กแย้ม อายุ 20 ปี,  นายรณกร ห้างชัยเจริญ อายุ 25 ปี และ นายศุทธวีร์ สร้อยคำ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์, ร่วมกันบุกรุกโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปในอาคารสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นฯ, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 360, 365 (1) (2) มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศนัดรวมตัวกันผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนัดกันที่ สน.สำราญราษฎร์ เวลา 16.30 น.  และมวลชน นำโดยนายสิทธิชัย หรือออย ผู้ต้องหาที่ 1, นายนภสิทธิ์ หรือสายน้ำ ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ผู้ต้องหาที่ 3, น.ส.อรวรรณ หรือ แบม ผู้ต้องหาที่ 4, นายธีรภัทร ผู้ต้องหาที่ 5, นายจิรภาพ หรือแก๊ป ผู้ต้องหาที่ 6,  นายณัฐพล ผู้ต้องหาที่ 7, นายรณกร หรือแฟรงค์ ผู้ต้องหาที่ 8 และนายศุทธวีย์ หรือบังเอิญ ผู้ต้องหาที่ 9 และมวลชนประมาณ 30 คน ได้ปีนขึ้นรถตำรวจจราจร และเริ่มตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ต่อมาเวลา 17.09 น. มีรถยนต์แท็กซี่ ทะเบียน 1 มข 8776 กทม. ได้นำสีทาบ้านแบบกระป๋อง เลือดและกระป๋องสีสเปรย์มาส่งบริเวณหน้าสถานีตำรวจ จากนั้นผู้ต้องหาและมวลชนที่มาร่วมชุมนุมสาดสีและพ่นสีสเปรย์บันไดทางขึ้นและบริเวณโดยรอบ  พ่นสีใส่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตัวอาคารที่ทำการ และศาลเจ้าปู่ขาว ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ จากนั้นผู้ต้องหาได้ปิดทางเข้า สน.สำราญราษฎร์ อีกทั้งยังได้จุดพลุควันและปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ

กระทั่งเวลา 18.10 น. ผู้ต้องหาผู้ต้องหาที่ 1-9 ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นมาบน สน.สำราญราษฎร์ พร้อมทั้งตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา และมีการใช้กำลังทำลายทรัพย์สินของราชการ โดยผู้ต้องหาที่ 7 ใช้มือทุบกระจกและใช้เท้าถีบประตูบานเลื่อนอัตโนมัติแตกเสียหาย และปลุกระดมมวลชนให้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยปากระป๋องสีและถุงเลือดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีคำสั่งห้ามเข้ามาก่อความวุ่นวาย แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ยังได้ปากระป๋องสเปรย์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย และพยายามนำมวลชนบุกเข้ามาในบริเวณชั้น 2 ซึ่งมีตำรวจตั้งแผงเหล็กกันผู้ต้องหาเข้าไปในอาคาร   จนกระทั่งเวลา 19.00 น. ผู้ต้องหาที่ 1-9 ได้ใช้กระบองไฟและกระป๋องสีทำร้ายทุบตีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ท้ายคำร้องยังระบุว่า ได้สอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องรอสอบพยานอีก 10 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง และรอผลตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษ จึงขอฝากขังไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 พ.ค.2566 และพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาบางรายได้รับการปล่อยชั่วคราวในคดีอื่น แต่ยังฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลกำหนด และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

จากนั้น ทนายความผู้ต้องหายื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขัง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้ดำเนินการไต่สวนการขอฝากขังของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ และการคัดค้านฝากขังของทนายความผู้ต้องหา แล้วเสร็จในช่วงมืด โดยนัดฟังคำสั่งวันที่ 12 พ.ค. เวลา 10.00 น. จึงให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไปก่อน แล้วนำตัวมาฟังคำสั่งเรื่องการฝากขัง วันที่ 12 พ.ค. ตามนัด

 สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ พร้อมกลุ่มมวลชนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกว่า 20 คน รวมตัวเดินทางมาที่ สน.สำราญราษฎร์ ช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามการปล่อยตัวของ น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เยาวชนอายุ 15 ปี ที่สถานพินิจบ้านปรานี จังหวัดปทุมธานี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 และ พ.ร.บ.โบราณสถาน

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องจับกุมดำเนินคดี น.ส.ทานตะวัน, น.ส.อรวรรณ และแกนนำรวม 9 คน เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง