ชินวรณ์’ปลุก ทวงคืน‘เก้าอี้’ ผู้แทนภาคใต้

โบกมือลามีพบต้องมีจาก จันทร์นี้ 6 ธ.ค. "นิพิฏฐ์" ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.เพื่อไปทำสงครามครั้งสุดท้าย ประชาธิปัตย์คึก "ชินวรณ์" ปลุกเลือกตั้งรอบหน้าคนใต้ต้องสั่งสอนพรรคการเมืองอื่น อย่ามาแหยมแย่งเก้าอี้ "ประยุทธ์" ฉุนถูกบิดเจตนารมณ์เรื่องทางด่วนคือถนนของคนรวย
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต ส.ส.พัทลุง ที่มีข่าวจะไปร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่กับกลุ่มสี่กุมารเดิมของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะเปิดตัวเดือนมกราคม 2565 ได้โพสต์ข้อความในไลน์กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ของพรรคว่า “ถือโอกาสนี้อำลาทุกท่าน ไม่สามารถกล่าวลาเป็นการส่วนตัวได้หมด ขอใช้พื้นที่นี้อำลา พรุ่งนี้ผมจะไปยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว ผมอยู่ในพรรคมา 29 ปี ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ รักพรรคสุดหัวใจ รักพี่น้องทุกคนที่เคยร่วมรบกันมาเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ไม่ขอกล่าวถึงสาเหตุการออกจากพรรคเพราะไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว พูดไปก็จะสร้างความเสียหายให้พรรคมากกว่า ผมมีความอดทนน้อยกว่าทุกท่าน ขอให้ทุกท่านอดทนรักษาพรรคต่อไป
วันที่ผมเดินออกจากพรรค ทุกท่านสามารถพูดถึงผมในแง่ใดก็ได้ ผมจะไม่ตอบโต้ เพราะเข้าใจดีว่าท่านต้องทำเพื่อรักษาพรรค เคยคิดว่าจะออกไปชั่วคราวแล้วจะกลับมาฟื้นฟูพรรค แต่คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะกลับมาแล้ว คลื่นลูกใหม่จะทับถมจนเรากลายเป็นคลื่นลูกเก่าไปแล้ว กลับมาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว การออกไปครั้งนี้จึงเป็นการออกไปทำสงครามครั้งสุดท้ายแล้ว ผมอาจพ่ายแพ้และจบชีวิตทางการเมืองตลอดกาล ผมไม่เรียกร้อง เชิญชวนพวกเราให้ออกตามไป เพราะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามีอุปสรรคอีกเยอะ พวกเราอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ขอให้รักษาพรรคต่อไป หากจะขอพวกเรา ขออย่างเดียวคือ อย่าหาว่าผมไม่รักพรรค" นายนิพิฏฐ์ระบุ
อดีต ส.ส.พัทลุง 8 สมัยผู้นี้บอกอีกว่า "ผมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ผมถูกฟ้อง ถูกแจ้งความดำเนินคดี 13 คดี ชนะคดีไปแล้ว 12 คดี เหลือคดีสุดท้าย เป็นคดีหมิ่นประมาท พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง ผมจะมอบตัวต่อพนักงานอัยการในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ เป็นคดีที่ผมวิวาทะกับโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร เหตุเกิดเมื่อปี 2556 ถือเป็นคดีสุดท้ายที่ผมทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ถือโอกาสนี้กล่าวอำลาทุกท่าน และขอออกจากไลน์พรรคประชาธิปัตย์”
วันเดียวกันนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ "ประชาธิปัตย์รวมใจ สร้างเศรษฐกิจใต้มั่นคง” ในงานสัมมนา ส.ส.สาขาพรรคภาคใต้ โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า ภาคใต้เป็นฐานที่มั่นของพรรค ปชป. ซึ่งระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ พรรคเชื่อมั่นว่าพรรคยังอยู่ในความศรัทธา และหวังพึ่งของพี่น้องประชาชนในภาคใต้ โดยขอเสนอยุทธศาสตร์ใหม่ของพรรค ปชป.ที่จะรวมใจกันพัฒนาภาคใต้ เช่น สร้างกระแสในการปลุกระดมอุดมการณ์ของพรรค ปชป.ที่มีอยู่กับคนทุกช่วงวัยในภาคใต้ให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง, เรื่องของการรณรงค์เสนอให้หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะมีคุณสมบัติพร้อม ครั้งนี้ไม่เสียเปรียบใคร การชูประเด็นหัวหน้าพรรค ปชป.เป็นนายกฯ ก็จะเป็นจุดขายที่สำคัญในการหาเสียงครั้งหน้าแน่นอน
"ครั้งที่แล้วมันเกิดกระแสความสงบจบที่ลุงตู่ และมีกระแสของพรรคต่างๆ ลงมาแบ่งคะแนนถึง 38 พรรค แต่เที่ยวนี้ผมวิเคราะห์ไปแล้วว่า กระแสหลักของพรรคต่างๆ ไม่น่าจะเกิน 10 พรรค เพราะฉะนั้นคนที่ได้เลือกพี่เลือกน้องได้เลือกไปตามความผูกพันไปแต่ละเบอร์ คราวนี้ก็จะลดลง คะแนนที่จะต้องกลับมาพรรคที่ผูกกันมายาวนานต้องกลับมาไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน เที่ยวหน้าคนภาคใต้จะสั่งสอนนักการเมืองพรรคอื่นอย่างแน่นอน ผมจึงขออาสานำพรรค ปชป.ของ จ.นครศรีธรรมราชกลับคืนมาทั้ง 10 เขตต่อไป” นายชินวรณ์ระบุ
วันเดียวกันนี้ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับรัฐธรรมนูญที่ให้ใช้บัตรสองใบ กล่าวถึงกรณีที่นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ระบุถึงข้อยุติร่วมในประเด็นของการแก้ไขร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมืองของพรรคร่วม ข้อสรุปดังกล่าวจริงหรือไม่ว่า ไม่ใช่ ซึ่งที่นายโกวิทย์พูดเป็นเพียงความเห็นของเขา และรายละเอียดไม่ได้เป็นแบบที่นายโกวิทย์อธิบายทั้งหมด รายละเอียดต้องให้คณะทำงานมาตรวจเพื่อความสมบูรณ์อีกที
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่นายกฯ พูดช่วงหนึ่งในระหว่างเป็นประธานพิธีมอบโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ที่ระบุถึงค่าทางด่วนว่าให้ผู้มีรายได้ขึ้นทางด่วน ส่วนผู้มีรายได้น้อยใช้ถนนด้านล่าง โดยมองว่าเป็นการแบ่งแยกและตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนและคนรวย โดยนายกฯ ได้หันมาตอบด้วยน้ำเสียงเข้มว่า "คุณตีความอย่างนั้นได้อย่างไร เส้นทางถนนเส้นทางข้างล่างข้างเดียวการจราจรติดขัดไหม เขาก็มีการแยก นี่เขาเรียกว่าการเข้าถึงโอกาส คุณก็หาเรื่องทุกครั้ง ขี้เกียจพูด" ก่อนที่จะเดินทางกลับทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ในประเด็นเดียวกันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์มาเผยแพร่ในสื่อต่างๆ และมีผู้นำไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหายว่า คลิปดังกล่าวนั้นเป็นการตัดเพียงบางช่วงบางตอนของคำกล่าวทั้งหมดที่มีความยาว 12 นาทีของนายกฯ ซึ่งแท้จริงแล้วนายกฯ ต้องการยกตัวอย่างให้เห็นถึงความเท่าเทียม ที่มีนัยถึงการเข้าถึงโอกาสอย่างเสมอภาค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง