แก๊งตร.ตบทรัพย์สารภาพเกินครึ่ง

"บิ๊กตู่" บอกไม่ต้องกำชับอะไร ปมฉาววงการสีกากี โบ้ยมีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว "บิ๊กโจ๊ก" เผยผู้ต้องหาแก๊งตบทรัพย์เว็บพนัน 140 ล้านรับสารภาพเกินครึ่ง ซ้ำพบตำรวจและพลเรือนเอี่ยวเพิ่ม ตรวจกล้องวงจรปิดพบมีการควบคุม "นายเป้" เข้าห้องอดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ผบช.สตม.รับ "บอย" หนีไปสิงคโปร์แล้ว “ชูวิทย์” แฉเป็นศึกชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ เชื่อมีคนใหญ่ว่า "พล.ต.ต.กัมพล"

เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีข่าวฉาววงการตำรวจ ทั้งเรื่องตบทรัพย์แก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม โดยตอบสั้นๆ ว่า “ก็สั่งไปแล้ว ก็ทำตามหน้าที่ ตามระเบียบ ตามกฎหมาย ก็ว่ากันไป เขามีระเบียบของเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่นายกฯ ต้องไปสั่งทุกวัน"

เมื่อถามว่า ที่มีการกล่าวอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ต้องมีการกำชับอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่าไม่มี

ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง

ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจคุมตัวนายเป้ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ และเรียกรับทรัพย์สิน 140 ล้านบาท โดยยืนยันว่ามีหลักฐานเอาผิดตำรวจทั้งหมด 10 คน เพิ่มมาจากเดิม 2 คน เป็นระดับชั้นประทวน และรองสารวัตรในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้งหมดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) และถูกสอบปากคำตลอดทั้งคืน ซึ่งการสอบปากคำเกินกว่าครึ่งให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยด้าน พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) ยังปฏิเสธให้การกับพนักงานสอบสวน แต่จะเขียนรายงานคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 5 วัน

"ขณะที่พลเรือน 3 คนประกอบไปด้วย นายต้น, นายบอย และ น.ส.ลัดดาวัลย์ ได้ทำการออกหมายจับทั้งหมด เบื้องต้นได้รับการประสานจากนายบอยว่าจะเข้ามอบตัว ซึ่งถ้าหากไม่เข้ามอบตัวตำรวจก็ติดตามจับกุมตามหมายจับ ขณะนี้ทราบว่าอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ส่วนนายต้นทราบว่าอยู่ในประเทศกัมพูชา ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ขณะที่ น.ส.ลัดดาวัลย์ทราบว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ"

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เผยอีกว่า พบตำรวจและพลเรือน เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก เชื่อมโยงในลักษณะเป็นคนที่ร่วมกันทำเอกสารและร่วมกันวางแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนเงิน 140 ล้านบาทตอนนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ตรงไหนบ้าง อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเชิญตัวนายเป้มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะจะเป็นคนที่รู้ว่ามอบเงินให้ใครบ้าง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งพบความผิดปกติในขั้นตอนการดำเนินคดี เนื่องจากเข้าจับกุมในพื้นที่ สน.คันนายาว แต่ชุดจับกุมไม่ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่แจ้งสิทธิตามกฎหมาย แต่กรณีนี้เป็นการลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่มีการส่งมอบผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนคันนายาวดำเนินคดี ซึ่งไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการจับกุม ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่า มีการตระเตรียมเพิกถอนหมายจับนายเป้หลังมีการตกลงเรียกรับทรัพย์สิน แต่ยังไม่พบว่ามีการเซ็นเพิกถอนหมายจับ จึงต้องขอตรวจสอบในกรณีนี้ก่อน โดยบ่ายวันนี้พนักงานสอบสวนจะประชุมหารือความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง

มีรายงานว่า กรณีผู้เสียหายเครือข่ายเว็บพนันแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล พร้อมพวก โดยอ้างว่าถูกเรียกรับเงินรวม 140 ล้านบาทนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอาคาร บก.ภ.จว.ชลบุรี พบว่า สามารถบันทึกภาพขณะที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) จังหวัดชลบุรี ควบคุมตัวนายเป้ ผู้ต้องหาในคดีเว็บการพนัน เข้าพบกับ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจากนายเป้ โดยมีนายต้นและนายบอยเป็นคนต่อรอง  และพูดกับนายเป้ว่า “รักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา”

จากภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะนำตัวผู้ต้องหาเข้ามาภายในอาคารบริเวณชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงานของ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในเวลา 18.51 น.ของวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกลุ่มภายในบ้านพักย่านคลองสามวา และปรากฏภาพเดินออกจากอาคารบริเวณชั้น 1 มีตำรวจคุมตัวนายเป้ สวมเสื้อสีขาว ออกไปจากอาคาร ซึ่งการเข้าควบคุมตัวนายเป้ที่บ้านพักย่านคลองสามวา และไม่ได้นำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สน.คันนายาว ก่อนพบว่านายเป้ถูกนำตัวไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี และถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกทรัพย์สินภายในห้องทำงานของอดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่านายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ร่วมรีดเงินจากกลุ่มผู้เสียหายเว็บพนันออนไลน์ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศว่า สตม.ได้ทำการตรวจสอบพบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศไปจริง ซึ่งมีการเดินทางออกทางช่องทางปกติก่อนที่จะมีหมายจับลงในระบบ โดยเดินทางไปตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ และได้รายงานไปยัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ให้ทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะเป็นผู้ให้ข้อมูล ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นๆ หากมีหมายจับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็จะนำลงในฐานข้อมูลเพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งตามปกติแล้วผู้ต้องหาที่มีหมายจับหากจะหลบหนีส่วนมากจะใช้ช่องทางธรรมชาติ ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ได้เฝ้าระวังในส่วนหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ได้เดินทางออกนอกประเทศผ่านด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีปลายทางไปที่ประเทศสิงคโปร์

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่นายษิทราจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อาทิ วันที่ 23, 24-27 มีนาคม โดยเนื้อหามีการระบุว่า นายชูวิทย์รับเงินจากเว็บการพนันและสารวัตรซัว จำนวน 10 ล้านบาท พร้อมเผยแพร่กราฟิกภาพถุงกระดาษบรรจุเงิน 2 ถุง ทำให้เนื้อหาข่าวถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวาง เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อนายชูวิทย์และลูกชายอีกคน เพราะนายษิทรายังกล่าวหาว่าลูกชายนายชูวิทย์รับเงินสกุลดิจิทัล

วันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมด้วยนายอนันต์ชัย  ไชยเดช ทนายความ เดินทางมาศาล

นายชูวิทย์กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องประเด็นรีดทรัพย์ผู้ต้องหา 140 ล้านบาทว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแซะเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ที่กำลังจะมีการพิจารณาในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างประหลาด จากตำรวจเป็นโจร โจรเป็นตำรวจ ตามปกติแล้วไม่มีโจรที่ไหนอยากไปมีเรื่องกับตำรวจ แต่เหตุการณ์นี้คงจะมากเกินไป มีความรักมากเกินไป และแค้นมากจนทำให้โจรต้องมาแจ้งจับตำรวจ เหมือนสมัยช่วงที่ตนทำกิจการอาบอบนวด และออกมาเปิดเผยตำรวจที่เรียกรับเงิน ก็เพราะว่าตัวเลขที่เรียกมามากเกินไป จนทำให้ตนต้องออกมาแฉ ส่วนกรณีของเป้อาจจะแตกต่างตรงที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากถูกรีดเงินจำนวนมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนไม่มีทางออกและตัดสินใจออกมาเปิดโปง

"ที่บอกว่าให้จับตาดูให้ดีเพราะตำแหน่ง ผบ.ตร.ยังไม่ลงตัว ในส่วนของ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ถือว่าเป็นหมากตัวหนึ่ง หากจะกระทำการเองก็คงจะทำไม่ได้ เพราะความรู้ความสามารถอาจจะไม่พอ เรื่องนี้จึงคิดว่ามีคนที่ใหญ่กว่านั้นรู้เรื่องมากกว่า"

นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการจ่ายเงินของเว็บไซต์พนันมีราคามาก สำหรับประเทศไทยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 3 หน่วยงาน แต่เว็บพนันเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้ลดลง ฉะนั้นจึงต้องติดตามว่ารัฐบาลใหม่จะจัดการเรื่องนี้ได้เพิ่มขึ้นมากหรือไม่

"การที่ผู้ต้องหาอย่างเป้มาแจ้งความตำรวจถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด ถ้าโจรไม่ได้ถูกบีบขนาดนั้นคงไม่กล้าที่จะมาแจ้งความตำรวจ เกมนี้ที่มองเห็นอาจจะมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น ในระยะเวลาที่ไม่นานที่จะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่ง ทุกคนก็จะต้องแสดงผลงาน ผมรู้มากกว่านั้นแต่พูดตรงๆ ว่าไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย ไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ใช่ศึกของผม"

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่แข่งกันทำผลงานในฐานะแคนดิเดต ผบ.ตร. มีทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และรอง ผบ.ตร.คนอื่นๆ  ต่างก็ต้องแข่งขันสร้างผลงาน ถือเป็นเรื่องปกติ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง