คาร์ม็อบจืด/ส.ว.เอาคืน‘บูลลี่’

ส.ว.สู้กลับ! ตั้งทีมกฎหมายเอาผิดคนบูลลี่-คุกคามครอบครัว "เสรี” ประเดิมฟ้อง 2 มือเกรียนคีย์บอร์ด ส่งทนายยื่นศาลอาญาตลิ่งชัน เครือข่ายป้องสถาบันประกาศช่วยดำเนินคดี “ธนกร” กระทุ้ง “พิธา-ก้าวไกล” ปรามด้อมส้ม อย่าทำประเทศเป็นสมรภูมิรบ "ทิพานัน" กางข้อ กม.แนะ ปชช.และผู้ประกอบการที่เสียหายฟ้องแพ่ง-อาญา “อานนท์” นำคาร์ม็อบบุก ทบ.-ทร.-ตร.บี้ 6 ผบ.เหล่าทัพไขก๊อกพ้นสภาสูง

จากกรณีที่โลกโซเชียลโพสต์ภาพและข้อความโจมตีและแบนธุรกิจของบรรดาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รวมถึงคนในครอบครัวของ ส.ว.ที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบและงดออกเสียงให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้แจ้งข้อความผ่านกลุ่ม ส.ว.ว่า "พี่ๆ ส.ว.ท่านใดที่ท่านและครอบครัวได้รับการคุกคามด้วยการเขียน พูด พิมพ์โฆษณา หรือด้วยวิธีอื่นใด ทั้งทางสื่อมวลชนและสื่อโซเชียล ขอให้ ส.ว.ทุกท่านและครอบครัวรวบรวมข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง และนำมาพบเจ้าหน้าที่หน้าห้องประชุมวุฒิสภา เวลา 10.00 น. (17 ก.ค.) จะมีการจัดห้องประชุมเพื่อให้คำปรึกษาช่วยตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานสาวถึงตัวผู้กระทำผิดกฎหมายทุกรายต่อไป โดยนักกฎหมายและทนายความที่รวมทีมเพื่อดูแลดำเนินคดีให้ รวมทั้งมีแจ้งรายชื่อนายตำรวจประสานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทาง ผบ.ตร.ได้กรุณาสั่งการให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับ ส.ว.ทุกท่านในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน เวลา 11.00 น. คณะ ส.ว.จะร่วมกันแถลงข่าว นำโดย นายเสรี สุวรรณภานนท์ และทีมทนายความ นายสมชาย แสวงการ นายประพันธุ์ คูณมี นายจาตุรงค์ เสริมสุข และทีมทนายความ นายธานี อ่อนละเอียด และทีมทนายความ น.ส.ปิยะฉัตร วันเฉลิม นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ นายอนุพร อรุณรัตน์ โดยจะมี ส.ว. นักกฎหมาย และทีมเข้ามาช่วยเพิ่มเติมต่อไป"

ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เปิดเผยว่า วันที่ 17 ก.ค.นี้จะมอบหมายตัวแทนยื่นฟ้องบุคคล 2 คน ที่โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ที่ทำให้ตนเกิดความเสียหาย ต่อศาลอาญาตลิ่งชัน ซึ่งถือเป็นการฟ้องร้องคดีแรก หลังจากที่ถูกหมิ่นประมาทด้วยข้อความทางโลกออนไลน์มาหลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ และในวันเดียวกัน เวลา 11.00 น. จะแถลงในรายละเอียดและเปิดเผยชื่อ 2 บุคคลที่ยื่นฟ้อง พร้อมจะพาทนายความไปรับเรื่องจาก ส.ว.คนอื่นที่ถูกบลูลี่หรือหมิ่นประมาทด้วยข้อความอันเป็นเท็จจากโลกออนไลน์ จากนั้นจะทยอยฟ้องต่อไป

“รอบนี้เอาจริงและไม่ทน เพราะพวกเขาทำตัวเป็นอันธพาลคอยหาเรื่องและคุกคามมากเกินไป ทั้งด่าทอและใส่ร้ายคนอื่น" นายเสรีระบุ

ส่วนที่โลกออนไลน์สืบหาธุรกิจ ส.ว. หรือเมียน้อย ส.ว.นั้น นายเสรีกล่าวว่า หากทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตลาดเสรีที่เป็นธุรกิจของตนที่ถูกโซเชียลเปิดเผยนั้น ไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะตลาดคือสถานที่ที่ทำให้คนได้มีอาชีพค้าขาย และประชาชนต้องมาจับจ่ายใช้สอยเป็นสิ่งจำเป็น โดยขณะนี้พบว่ามีคนมาเดินซื้อสินค้ามากขึ้น นอกจากนี้กรณีที่นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ทำกิจกรรมคาร์ม็อบ เพื่อยื่นใบลาออกให้ ส.ว.นั้น กิจกรรมทำได้ แต่ต้องไม่ด่าทอ หรือหมิ่นประมาท ซึ่ง ส.ว.จะไม่ยอม

กลุ่มศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. นำโดย นายนพดล พรหมภาสิต ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของกลุ่มปกป้องสถาบัน ที่เคลื่อนไหวในแนวทางตรงข้ามกับเครือข่ายราษฎร และผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ได้ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า "ศชอ.ได้รับการประสานจากบุตรหลานท่าน ส.ว.ขอให้ช่วยดำเนินคดีกับบุคคลที่เข้ามา bully ทาง ศชอ.จะแถลงข่าวในวันที่ 17 ก.ค. เวลา 18.00 น."

บี้ 'พิธา' ปรามด้อมส้ม

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกลควรจะสื่อสารทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนให้เคารพสิทธิของผู้อื่น เคารพกฎหมาย ไม่ควรใช้วิธีในลักษณะข่มขู่คุกคาม เพราะเป็นการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน และเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งในบ้านเมืองมากขึ้นไปอีก เวลานี้ควรมุ่งหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความจริงใจ เพื่อผ่านความเห็นชอบ ไม่ใช่การปิดสวิตช์ ส.ว. แต่ถ้ายังคงใช้วาทกรรมปลุกระดมมวลชนสร้างความขัดแย้งแบบนี้ สุดท้ายประเทศชาติอาจกลายเป็นสมรภูมิรบอย่างที่นายพิธาแถลงก็เป็นได้ จึงอยากให้ทบทวนในเรื่องนี้ นอกจากนี้ถ้าพรรคอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ควรให้อันดับ 2 และ 3 เป็นคนจัดตั้ง ไม่ใช่พอตั้งไม่ได้แล้วไปปลุกม็อบลงถนน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค รทสช. กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวทางสื่อโซเชียลที่กำลังบูลลี่ ข่มขู่ ทำร้าย ให้ร้ายและคุกคาม ประชาชนและธุรกิจของผู้ที่ไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล รวมถึงสมาชิกรัฐสภาที่ไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามระบอบครรลองประชาธิปไตย ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ผู้ถูกกระทำสามารถใช้สิทธิโดยสุจริตในการปกป้องและป้องกันความเสียหายจากการละเมิดกฎหมายดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีทางอาญา และใช้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจและความเป็นส่วนตัวได้

ส่วนกรณีที่นายพิธาเผยแพร่คลิปและข้อความขอให้ประชาชนร่วมทำภารกิจใน 2 สมรภูมิ โดยการส่งสารถึง ส.ว.ในทุกวิถีทาง ให้โหวตนายกฯ ตามมติประชาชน หรือโหวตยกเลิกมาตรา 272 นั้น น.ส.ทิพานันกล่าวว่า หากผู้เชียร์นายพิธามีการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดต่อสิทธิ เสรีภาพ ทรัพย์สิน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของ ส.ว.คนใด นายพิธาอาจเข้าข่ายต้องร่วมรับผิดในการกระทำดังกล่าวในฐานะผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา 84, 85 และ 87 และยังอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 45 ซึ่งอาจมีโทษถึงยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองตามมาตรา 92 (3) ด้วย

ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เวลา 13.00 น. นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎร ได้นัดหมายชุมนุมคาร์ม็อบ เพื่อนำใบลาออกไปมอบให้กับ ส.ว. 6 ผู้นำเหล่าทัพ ไม่เคารพเสียงประชาชนที่ไม่เข้าทำหน้าที่โหวตนายกฯ ประกอบด้วย พล.อ.ธนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสูด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

คาร์ม็อบบุก ทบ.-ทร.-ตร.

ขบวนคาร์ม็อบที่ประกอบด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมตัวกันบริเวณฝั่งหน้าแมคโดนัลด์ โดยนายอานนท์กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการนำเอาหนังสือลาออกไปให้ 6 ผบ.เหล่าทัพ แต่ด้วยข้อจำกัดในเส้นทาง จึงไปแค่ 3 สถานที่ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จบด้วยการปราศรัย อ่านแถลงการณ์ที่หอศิลป์ เรียกร้องให้ ผบ.เหล่าทัพลาออกจาก ส.ว.และกระตุ้นจิตสำนึกของ ส.ว.และ ส.ส.ที่ไม่ได้โหวต

กระทั่งเวลา 14.00 น. ขบวนคาร์ม็อบได้เริ่มเคลื่อนขบวน ซึ่งมีทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ รถสามล้อ รวมถึงรถจักรยาน และซาเล้ง มุ่งหน้าไปกองทัพบกโดยใช้ถนนราชดำเนินกลาง ตลอดระหว่างทางคาร์ม็อบได้บีบแตรเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เมื่อขบวนมาถึงกองทัพบก แกนนำได้อ่านหนังสือใบลาออกจากการเป็น ส.ว.ของ ผบ.เหล่าทัพ ที่แกนนำเป็นคนร่างขึ้นมาเองระบุถึงเหตุผลที่ต้องลาออก และเรียกร้องให้ตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกองทัพบกมารับใบลาออกดังกล่าว แต่เมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมารับ กลุ่มมวลชนได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการนำของเล่นเป็นรถถังมาวางที่หน้าประตูทางเข้า พร้อมกับโปรยใบขอลาออกจาก ส.ว.เข้าไปด้านกองทัพบก แต่ต่อมาได้มีทหารเวรออกมารับ และยืนยันว่าหนังสือฉบับดังกล่าวจะถึง ผบ.ทบ.แน่นอน

จากนั้นเวลา 15.04 น. หัวขบวนคาร์ม็อบถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ ต่อมาอีก 10 นาที ตัวแทนกองทัพเรือออกมารับหนังสือ ผู้ร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบร่อนจดหมายลาออกบริเวณหน้าประตูกองบัญชาการกองทัพเรือ มีการมอบเรือของเล่น ทำจากพลาสติกสีน้ำเงินให้ตัวแทนที่ออกมารับหนังสือ

ก่อนจะเคลื่อนขบวนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ผ่าน พ.ต.อ.อนุสิทธิ์ นิธิเฉลิมวงศ์ พร้อมแนบตั๋วช้างเป็นเชิงสัญลักษณ์คู่ไปกับหนังสือ รวมทั้งยังมอบปืนฟองสบู่ของเล่นให้ด้วย จากนั้นผู้ชุมนุมได้โปรยตั๋วช้าง และหนังสือลาออก ก่อนจะทำพิธีเผาพริกเผาเกลือเพื่อสาปแช่ง และสิ้นสุดกิจกรรมที่หน้าหอศิลปกรุงเทพฯ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง