ชูจริยธรรม-ซื่อสัตย เศรษฐาให้คำมั่นทำหน้าที่นายกฯ/พท.ฉุนส่อสลับเก้าอี้พปชร.

“เศรษฐา” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมให้คำมั่นทุ่มเททำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ยึดประเทศชาติ-ปชช. ลั่นจะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี "บิ๊กตู่" แสดงความยินดีกับนายกฯ คนใหม่ อวยพรให้ประสบความสำเร็จ ย้ำยังรักษาการจนกว่ารัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แบ่งเค้ก ครม.เริ่มชัด "ชลน่าน" นั่ง รมว.สธ. "สุริยะ" คุมคมนาคม "สุทิน" ผงาด รมว.กลาโหม "สว.สายป้อม" เบี้ยวโหวต พปชร.ส่อแห้ว ก.เกษตรฯ "รทสช." ได้พลังงาน-อุตสาหกรรม "ภท." ยึด มท.1 "พท." คาดวันศุกร์จบทุกตำแหน่ง

ที่รัฐสภา วันที่ 23 ส.ค. เวลา 08.45  น. นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า หลังจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ลงมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน  เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำเอกสารให้ประธานรัฐสภาลงนาม  เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายชื่อนายเศรษฐา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ นายกฯ คนที่ 30 เรียบร้อยแล้ว  แต่หนังสือยังมาไม่ถึง

"วันนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเข้าไปรับหนังสือ และนำหนังสือไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร 5 ดวง และนำกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  ก่อนจะเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ไปยังพรรคเพื่อไทยในเวลา 18.00 น. ซึ่งสำนักงานเลขาธิการ ครม.จะเป็นผู้ตรวจความเรียบร้อยที่พรรคเพื่อไทย" นายคัมภีร์กล่าว

โฆษกประธานสภาฯ กล่าวถึงข่าวจะมีการโปรดเกล้าฯ ตั้งแต่คืนวันที่ 22 ส.ค.ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะยังอยู่ในกระบวนการ และทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ได้แจ้งให้สื่อทราบ แต่วันนี้ได้แจ้งให้ทราบเบื้องต้นแล้ว เพื่อให้สื่อมวลชนได้เตรียมความพร้อม

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาที่พรรค พท. เพื่อดูสถานที่และตรวจความพร้อมให้เกิดความเรียบร้อยสำหรับพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

เวลา 13.55 น. นายเศรษฐาเดินทางเข้าพรรค พท. โดยสวมชุดสูทสีเทา   เนกไทสีน้ำเงิน ถุงเท้าสีแดง มีมวลชนเสื้อแดงมารอให้กำลังใจ ซึ่งนายเศรษฐาได้ทักทายมวลชนและสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ที่ได้เป็นนายกฯ นายเศรษฐายิ้มรับให้ผู้สื่อข่าวก่อนเดินขึ้นลิฟต์ไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

จากนั้นเวลา 15.00 น. แกนนำและสส.ของพรรค พท. รวมทั้งแกนนำและสส.พรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท., นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช., นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.), นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ., นายนิกร จำนง ผอ.พรรค ชทพ. และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ทยอยเดินทางเข้ามาที่พรรค พท. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี 

โปรดเกล้าฯ เศรษฐานายกฯ
ทั้งนี้ ทางพรรค พท.ได้มีการจัดพิธี บริเวณชั้น 7 ของอาคารโอเอไอ แต่ยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศด้านบน โดยมีรถเจ้าหน้าที่จากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาสแตนด์บายเตรียมความพร้อม และรถถ่ายทอดสดของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจอดเพื่อรอถ่ายทอดพิธีสำคัญ ส่วนประตูด้านหลังพรรค พท. ซึ่งเชื่อมกับบริเวณที่จอดรถ ทางเจ้าหน้าที่พรรคได้ตั้งจุดไว้แจกสติกเกอร์ให้กับ สส. และจะไม่อนุญาตให้ผู้ติดตามขึ้นไป

กระทั่งเวลา 18.00 น. นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย  มายังห้องประชุมใหญ่ชั้น 7 ที่ทำการพรรค พท. ซึ่งเป็นห้องพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง มี พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา, น.ส.ชนัญดา ทวีสิน บุตรสาว ผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี 

โดยนางพรพิศเชิญพานพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเข้าสู่ห้องพิธี พร้อมอ่านพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ทั้งหมดมีอยู่ทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี  ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ   นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้น นายเศรษฐาถวายความเคารพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเปิดกรวยกระทงดอกไม้และถวายบังคม เสร็จแล้ว ถวายบังคมพระบรมสาทิสลักษณ์ เป็นอันเสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
นายเศรษฐาได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า “เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นศุภสิริมงคลแก่ชีวิต และขวัญกำลังใจอันสูงสุดแก่กระผมและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ กระผมมีความปลื้มปีติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ”
นายเศรษฐากล่าวว่า ในวาระที่ตนได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน

'เสี่ยนิด' ยึดซื่อสัตย์สุจริต
“พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ผมขอยืนยันว่าผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยวันนี้อยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนสำคัญ เรามีวิกฤตและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน  ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การทุจริตประพฤติมิชอบ และอื่นๆ อีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ความยากลำบาก ผมมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาคไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อมๆ กัน” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า ตนมีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์  เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง และตรงไปตรงมา ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปข้างหน้า และขอให้คำมั่นว่า  รัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท. จะทำงานอย่างหนัก เพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้ง
“ผม นายเศรษฐา ทวีสิน จะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป” นายเศรษฐากล่าว

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ตนพร้อมขับเคลื่อนรัฐบาล  แต่ตอนนี้เป็นรัฐบาลผสม คงต้องพูดคุยกันเรื่องของนโยบายและให้เกียรติกัน  โดยเราจะเรียกพรรคร่วมมาพูดคุยกัน  รวมถึงการตั้งคณะรัฐมนตรีที่ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี 

ถามว่า ที่บอกเป็นทิศทางที่ดีนั้น จะเสร็จสิ้นสัปดาห์นี้เลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่ายัง แต่มีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี เราให้เกียรติพรรคร่วมและฝ่ายเจรจา ส่วนตัวนายกฯ จะเป็นคนคัดเลือกตัวรัฐมนตรีด้วยตัวเองหรือไม่นั้น คงไม่ เพราะเราทำงานเป็นทีม มีคณะทำงาน ก็ต้องให้เกียรติพรรคร่วม 
เมื่อถามว่า เมื่อได้เป็นนายกฯ แล้วจะทำอะไรให้ประชาชนเป็นสิ่งแรก นายเศรษฐากล่าวว่า มีหลายอย่าง โดยนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถือเป็นนโยบายหลักของเรา ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน ตอนนี้เป็นช่วงของการรวบรวมข้อมูล เมื่อพร้อมและได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้วก็จะเริ่มดำเนินการทันที

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี ครม.แจ้งลาประชุม 6 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์

เวลา 09.12 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ยกมือรับไหว้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ โดยมีนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินมาด้วย เมื่อเจอกลุ่มผู้สื่อข่าว พล.อ.ประยุทธ์ได้ทักทายว่า สบายดีนะ สบายดี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้นายกฯ คนใหม่แล้ว จะพูดอะไรถึงนายกฯ คนใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอประชุมก่อน เมื่อถามว่าการประชุม ครม.ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

รบ.ใหม่เริ่มหลังแถลงสภา

ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์แถลงข่าว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมรองโฆษกยืนอยู่ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องที่สื่อมวลชนต้องการจะถามตนในฐานะที่เป็นนายกฯ รักษาการอยู่ในขณะนี้ และครม.รักษาการอยู่ในขณะนี้ ขอแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐาที่ได้ผ่านการพิจารณาในกระบวนการรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็มีขั้นตอนและกระบวนการต่อไป ซึ่งทุกคนคงเข้าใจ ขณะนี้นายกฯ คนใหม่ต้องรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ เป็นพระราชอำนาจและพระราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน ต่อไปก็เป็นเรื่องการจัด ครม.ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จากนั้นขั้นตอนก็จะเป็นการเสนอทูลเกล้าฯ ถวายขึ้นไป เพื่อทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ซึ่งก็จะมีการกำหนดวันเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นรัฐบาลตนก็จะหมดหน้าที่พร้อมกันในตอนนั้น

"ต้องมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนและมี ครม.เรียบร้อย ผมก็หมดหน้าที่ของผมไปแล้ว ก็คงต้องแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐาอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดินในโอกาสต่อไป ซึ่งก็คงมีช่วงระยะเวลาอยู่หลายๆ อย่างด้วยกัน ซึ่งการจัดตั้ง ครม.ใหม่ ถ้าประมาณการแล้วก็คงใช้เวลาอีกนิดหน่อย ไม่กี่วันหรอก รวมความไปถึงการตรวจสอบคุณสมบัติด้วย ให้มันครบถ้วนสมบูรณ์ ก็จะเริ่มดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนไปตามนี้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่า จะมีประเพณีใหม่ในการเชิญนายกฯ คนใหม่มาหารือก่อนที่จะส่งมอบงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวดูสถานการณ์ก่อน วันนี้ก็แสดงความยินดีแล้วในนามของ ครม.ด้วย ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการอันไหนที่ทำได้ก็ทำ อยู่ที่กฎหมายและ พ.ร.บ.ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หลายอย่างอาจจำเป็นต้องทำ เพราะระยะเวลามีจำกัด อาจมีปัญหาต่อไปในอนาคตได้ สิ่งไหนทำได้ก็ทำ สิ่งไหนทำไม่ได้ก็ให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้ทำ ตรงนี้ก็ทราบดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จะฝากงานอะไรไปให้รัฐบาลใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ต้องฝาก เพราะงานทั้งหมดอยู่ใน ครม.และหน่วยราชการทั้งหมดอยู่แล้ว รวมถึงแผนงานที่ทำในปัจจุบันที่ต้องทำใหม่และทำต่อ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะพิจารณา

ซักว่า นายอนุทินที่จะร่วมงานกับรัฐบาลกับใหม่ จะฝากสานต่ออะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์รีบปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมกล่าวว่า “อ๋อ ไม่ๆๆๆ ถามอย่างนี้ผมไม่ตอบหรอก” ก่อนจะเดินออกจากโพเดียมและกล่าวอีกว่า " ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง”

เมื่อถามว่า มองปรากฏการณ์การโหวตนายกฯ ในสภาวันที่ 22 ส.ค.อย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของ สว. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ๋อ! เรื่องสภาไม่เกี่ยวข้อง” เมื่อถามว่าถูกมองว่าเป็นการหักกันกับ พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีๆ ตนไม่เกี่ยวข้อง ทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่แล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะมีโปรดเกล้าฯนายกฯ คนใหม่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังสามารถเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายได้ โดยต้องทำเท่าที่จำเป็น เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการตั้ง ครม. นายกฯ ใหม่ยังทำงานไม่ได้ และ ครม.ยังไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ฉะนั้นคงจะบวกไปอีก 7 ถึง 10 วัน เพื่อจัดตั้ง ครม. ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของ ครม.ใหม่ เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร

"แม้ ครม.ชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ก็ยังปฏิบัติงานไม่ได้จนกว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ภายใน 15 วันหลังการถวายสัตย์ฯ ซึ่งที่บอกให้เก็บเรื่องไว้รอรัฐบาลใหม่ บางเรื่องเก็บได้ เช่น เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย นายกฯ จะส่งกลับคืน เพราะเห็นว่าน่าจะรอได้ แต่สำหรับบางตำแหน่ง เช่นตำรวจ ทหาร ที่ไม่ต้องเข้า ครม. ไม่มีข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ และมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ต้องดำเนินการไปพลางก่อนในขณะนี้" นายวิษณุกล่าว

ถามว่า จากไทม์ไลน์ที่กล่าวมาคาดว่า ครม.ชุดใหม่จะเริ่มทำหน้าที่ได้เมื่อไหร่ นายวิษณุกล่าวว่า คาดว่าช่วงกลางเดือน ก.ย. แต่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินหลังการแถลงนโยบาย ซึ่งคาดว่าเป็นปลายเดือน ก.ย.

มีรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุได้ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานว่า นายกฯ คนใหม่ยังทำงานไม่ได้ ยังไม่มี ครม. ยังไม่ได้ถวายสัตย์ฯ เราต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อจน ครม.ใหม่จะถวายสัตย์ฯ  และเมื่อโปรดเกล้าฯ นายกฯ ใหม่แล้ว มาถึงรายชื่อ ครม.ถึงจะเป็นเรื่องของทำเนียบฯ แล้ว รวมทั้งย้ำให้ ครม.ชุดรักษาการยังต้องทำงานต่อไป เนื่องจากยังมีเรื่องกฎหมาย เรื่องต่างประเทศที่ต้องลงนามและต้องผ่านการพิจารณาของ ครม. ซึ่งยังสามารถนำเข้า ครม.ได้ ทำเท่าที่อยู่ในอำนาจของรัฐบาลรักษาการที่จะทำได้

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณ ครม.ว่า ขอบทุกคนที่ช่วยกันทำงาน แล้วฝากรัฐบาลชุดใหม่ทำงานต่อไป และฝากให้ช่วยดูแลข้าราชการด้วย และขอให้ข้าราชการทุกคนยึดมั่นทำตามกฎหมาย ทำสิ่งที่ถูกต้อง ใช้เหตุผล ใช้หลักการ  

แบ่งเค้ก ครม.เริ่มชัดเจน

ความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1 นั้น มีรายงานจากพรรค พท.ถึงการแบ่งโควตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเริ่มมีความชัดเจนขึ้น โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่ง รมว.การคลัง ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. เป็น รมว.สาธารณสุข จากเดิมที่มีข่าวเป็น รมว.ศธ. ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค พท. เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 
ส่วนเก้าอี้ รมว.คมนาคม ขณะนี้มีความเจนว่าเป็นชื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท., นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรค พท. เป็น รมว.การต่างประเทศ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค เป็นรัฐมนตรี แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นกระทรวงใด นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรค พท. ได้รับการยืนยันว่าได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีแน่นอน แต่เป็นกระทรวงเล็กก่อน เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีสมัยแรก คาดว่าอาจจะเป็น รมว.วัฒนธรรม หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ถูกวางให้เป็น รมว.กลาโหม เพราะพรรคต้องการทำหน้าตาของ ครม.ให้เป็นสากล ที่มีพลเรือนนั่งเก้าอี้ดังกล่าว โดยขณะนี้รายชื่อของนายสุทิน ถูกนำไปหารือกับกองทัพว่าจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ 
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากเดิมที่จะได้รับตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งวางตัวให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เป็นรัฐมนตรีนั้น แต่จากกรณีที่ สว.สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมโหวตให้นายเศรษฐาเหมือนที่ตกลงกันไว้ จึงทำให้พรรค พท.ต้องพิจารณาว่าจะให้ตำแหน่งดังกล่าวกับพรรค พปชร.เหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เพราะอาจยกตำแหน่งดังกล่าวให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อดึงกระทรวงมหาดไทยกลับมา ส่วนอีกตำแหน่งที่พรรค พปชร.จะได้รับคือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ตำแหน่ง รมว.พลังงานและ รมว.อุตสาหกรรม ด้านพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีแนวที่จะได้ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แต่ต้องดูการเจรจาว่าระหว่างพรรค พท.กับพรรค พปชร. เกี่ยวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าจะจบลงอย่างไร เพราะหากพรรค พท.ไม่ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับพรรค พปชร. อาจยกกระทรวงดังกล่าวให้กับพรรค ภท. นอกจากนี้ยังจะได้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จะได้รับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ซึ่งมีชื่อของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เป็นผู้รับตำแหน่ง 

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ช่วงนี้หายไป และไม่ได้เข้าร่วมโหวตนายกฯ ว่า ไม่มีอะไร สบายใจได้ เราจะพยายามทำงานร่วมกันอย่างดีที่สุด ตามที่ข่าวบอกว่าเรามีปัญหากันนั้นไม่เป็นความจริง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี 16 สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โหวตสวนมติพรรคให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ จะเข้ามาร่วมงานพรรค พท.หรือไม่ว่า ไม่ทราบว่าภายในพรรค ปชป.เป็นเช่นไร ขอให้รอดูระยะหนึ่งก่อน และขอขอบคุณ สส.ทั้ง 16 คนที่โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท.

ถามว่า ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบการโหวตหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับตนโดยตรง แต่ไปทางผู้ใหญ่บางท่านของพรรค พท. และทราบว่าพรรค ปชป.ส่วนหนึ่งจะมาโหวตสนับสนุนเรา

ซักว่ารายชื่อที่ออกมานั้น มีเป็นไปตามโผบ้างหรือไม่ นายประเสริฐยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “มีทั้งตรงและไม่ตรง”

ส่วนนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงข่าวลือจะไปเป็น รมว.กลาโหมว่า ตอนนี้ทุกโผเป็นเพียงความคาดหมาย ยังไม่มีใครได้ข้อมูลที่เท็จจริง เพราะเรื่องข้อตกลงใครได้กระทรวงอะไรต้องเคลียร์กันอีก จวนจะจบแต่ยังไม่จบ 100% แต่คาดว่าน่าจะจบเร็วๆ นี้ ที่บอกตนไปอยู่กระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่ทราบ ก็ได้คิดขำๆ อยู่เหมือนกันว่าหรือเป็นเพราะนามสกุลคลังแสง

"วันศุกร์นี้โผ ครม.น่าจะจบ เพราะเขาก็เร่งทำอยู่ พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็เร่งจัดให้จบ เพื่อเร่งมีรัฐบาลเร็วที่สุด เดิมคาดหมายว่าจะให้เสร็จภายในวันศุกร์นี้" นายสุทินกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง