จ่อทูลเกล้าฯครม.นิด เศรษฐาป้อง‘รมต.ถุงขนม’สุทินดี๊ด๊าคุมกห.ดึงทหารกุนซือ

ว่าที่รัฐมนตรีใหม่แห่กรอกประวัติวันที่ 2 “เศรษฐา” ย้ำมีเซอร์ไพรส์ให้ใจเย็น บอกเพื่อไทยไม่มีงอแงอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องหั่นเก้าอี้ให้เพื่อนแล้ว บอกหาก 8 ก.ย.แถลงนโยบายได้ก็ดี เพราะหารือพรรคร่วมตลอด ป้อง “ว่าที่รัฐมนตรีถุงขนม” บอกเป็นคนไม่ใช่สายล่อฟ้า "พิชิต" ยันไม่ขาดคุณสมบัติ ลั่นนอนคุกจากละเมิดอำนาจศาลไม่ใช่คดีอาญา และได้อานิสงส์รัฐธรรมนูญ 2560 “บิ๊กทิน” แต่งตัวรอเป็น รมว.กห. จ่อตั้งนายทหารในพรรคเป็นที่ปรึกษาพรึ่บ รทสช.เปิด 4 ชื่อ รมต. “โรม” ชี้ชาวบ้านมีคำถามเป็นล้าน อัดแค่ตอบแทนบุญคุณ

เมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566  ยังคงมีความต่อเนื่องถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ โดยความเคลื่อนไหวที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำเนียบรัฐบาล มีบรรดาว่าที่รัฐมนตรีเดินทางเข้ามายื่นเอกสารประวัติและคุณสมบัติเพื่อให้ สลค.ตรวจสอบต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยในช่วงสาย  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาส่งเอกสาร, ทีมงานของนายไผ่ ลิกค์  สส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีชื่อเป็น รมช.พาณิชย์, นายเกรียง กัลป์ตินันท์  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มีชื่อเป็น รมช.มหาดไทย พร้อมนางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรค พท. ที่มีชื่อเป็น รมช.คมนาคม เดินทางมาส่งเอกสาร

ขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีหลายคนได้ส่งตัวแทนมายื่นเอกสาร เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. ว่าที่รองนายกฯ และ รมว. มหาดไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะว่าที่ รมว.การพัฒนาสังคมฯ

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งเดินทางมาประชุม ครม. ได้ถือซองสีน้ำตาลหลายซองในมือ และเมื่อถูกถามไปว่าส่งรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคยังไม่ครบใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยัง เพิ่งได้มาเมื่อวานนี้ พร้อมโชว์ซองเอกสารให้ดูอีกครั้ง

ด้านนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ สลค. กล่าวถึงการนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ส่วนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่นั้น ก็จะพยายาม

ถามว่าถ้าตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จภายในสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าจะได้โฉมหน้ารัฐบาลใหม่เลยหรือไม่ นางณัฐฏ์จารีกล่าวว่า ต้องรอการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก่อน จากนั้นต้องรอขั้นตอนทรงโปรดเกล้าฯ ลงมา และจากนั้นจะเป็นการโปรดเกล้าฯ ลงมาให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ

เมื่อถามว่า วันนี้จะส่งรายชื่อมาให้ตรวจสอบทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ นางณัฐฏ์จารีไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มพร้อมยกไหล่

ส่วนความเคลื่อนไหวที่พรรค พท.  นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอัครราชทูต อู๋ จื้ออู่ และคณะ เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ โดยนายเศรษฐายืนยันว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญต่อนโยบายการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ขณะที่นายหานได้เชิญนายเศรษฐาไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

ขณะที่นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงโผ ครม.ว่า ไม่อยากเปิดเผยชื่อเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติ 2 วัน ส่วนจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ ไม่อาจไปก้าวล่วง

เมื่อถามว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา วางกรอบแถลงนโยบายไว้ประมาณวันที่ 8 ก.ย.นี้ เป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าได้ก็ดี ซึ่งมีการนัดคุยเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอด โดยในวันที่ 30 ส.ค.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเข้ามาวันนี้ ก็คุยนโยบายกับพรรค ภท. และเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ก็คุยนโยบายบางส่วนกับพรรค พปชร. ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีประเด็นอะไร เราได้ร่างนโยบายไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีการนำของพรรคร่วมรัฐบาลมาเสริม หรือใครก็ตามที่มีนโยบายของพรรค ก็สามารถนำมาหล่อหลอมเป็นนโยบายได้ ส่วนที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังหวังว่าพรรค พท.จะนำบางนโยบายของพรรค ก.ก.มาใช้บ้างนั้น อะไรเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเราก็จะพิจารณาหมด

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. นายเศรษฐาได้เดินทางออกจากพรรค พท. โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จากนั้นได้เดินทางกลับเข้าพรรค โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้ไปคุยอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง นายเศรษฐากล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “คุยครับ คุยตลอด คุยทุกวัน”

นายเศรษฐายังตอบคำถามถึงการไปคุยกับพรรค ภท.ว่า ไปคุยเรื่องนโยบาย  ดีครับ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนนโยบายกัญชาเสรีนั้น ยืนยันว่ากัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น

ชี้เศรษฐา 1 มีเซอร์ไพรส์

นายเศรษฐายังชี้แจงถึงเสียงสะท้อนจาก สส.ในพรรค พท. ถึงความไม่พอใจเรื่องการแบ่งกระทรวงว่า ใจเย็นๆ นิดหนึ่ง อาจมีเซอร์ไพรส์อะไรบ้างนิดหน่อย อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ขอให้ดูรายชื่อทั้งหมดและโครงสร้างในการแบ่งงานก่อน พยายามเต็มที่ให้ทุกคนไม่ผิดหวัง

 “ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง และต้องให้เกียรติว่าที่รัฐมนตรีทุกท่านด้วย ขอโอกาสและขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก”นายเศรษฐาย้ำ

ต่อมาพรรค พท.มีการประชุม สส.พรรค โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท.จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าได้

เมื่อถามว่า มีกลุ่มมวลชนรวมถึง สส.อีสานสนับสนุนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. เป็น รมว.เกษตรฯ นายเศรษฐายิ้มพร้อมกล่าวว่า ไม่มีอะไร ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยกันดี อดใจรออีกนิดเดียว แล้วเดี๋ยวจะมีอะไรแปลกใจให้ดู

ถามต่อว่า เซอร์ไพรส์ที่ว่าหมายถึงอะไร นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ใจเย็นๆ นิดหนึ่ง ในที่ประชุมพูดคุยกันจบเรียบร้อยด้วยดี จัดกระทรวงเรียบร้อย ไม่มีอะไรกระเพื่อม ไม่มีการต่อว่าต่อขานกัน เป็นเรื่องเข้าอกเข้าใจถึงความยากในการที่ได้มา 141 เสียง เราต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ด้วย ซึ่งได้ตอบคำถาม สส.แล้ว ก็ไม่มีอะไร เป็นเรื่องการชื่นชมกัน

เมื่อถามว่า จะไม่มีไลน์ต่อว่าต่อขานหลุดออกมาอีกแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่น่ามี วันนี้ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสดี และทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี

ถามถึงกรณีพรรค พท.มีนโยบายไม่เอื้อกลุ่มทุน แต่ปรากฏว่าภาพไปพบกับกลุ่มทุน ขัดกับนโยบายพรรคที่จะลดการผูกขาด นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ขอตอบคำถามนี้ เพราะมันไม่เป็นธรรมกับตนเองและบุคคลในภาพเท่าไหร่ บุคคลในภาพทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติเหมือนกัน และไม่ได้มีการขออะไรเลย เป็นการพบปะพูดคุยปัญหาของบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่มีการขออะไรให้กับบริษัทหรือว่าเครือข่ายของพวกท่านเลยสักคนเดียว ทุกคนล้วนใจดีและหวังดีกับประเทศชาติ และให้กำลังใจในขีดจำกัดของการจัดตั้งรัฐบาล

ถามถึงกรณีนายพิชิต ชื่นบาน ว่าที่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่มีกรณีเรื่องถุงขนม 2 ล้านบาท จะเป็นสายล่อฟ้าหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องให้เลขาธิการ ครม.เป็นฝ่ายตรวจสอบรายละเอียด ถ้าทุกอย่างถูกต้องก็คงโอเค แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ว่ากันไป

เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นสายล่อฟ้าหรือไม่ นายเศรษฐาหัวเราะก่อนกล่าวว่า “เขาเป็นคน ไม่ใช่สายล่อฟ้า”

ขณะที่นายพิชิตยืนยันว่า ไม่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามใดๆ  ทั้งสิ้น เนื่องจากเคยเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในปี 2554-2556 แถมในปี 2562 ยังเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติอีกด้วย ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ไม่เคยต้องคำพิพากษาในคดีความอาญา ในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่หรือศาล คดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในปี 2552 นั้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาพนักงานอัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด โดยถูกสั่งจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาล ไม่ใช่ความผิดทางอาญา

"ใครๆ ก็ตามที่ได้รับโทษจำคุก แต่พ้นโทษมาแล้ว 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ 2560 ให้โอกาสบุคคลนั้นสามารถเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญยังเปิดโอกาสให้บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกในความผิดฐานประมาท หรือความผิดลหุโทษ สามารถเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้ โดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาในการพ้นโทษ"

ทั้งนี้ นายพิชิตถือเป็นมือกฎหมายประจำตระกูลชินวัตร โดยกรณีถุงขนมนั้นเกิดจากนายพิชิตได้นำถุงขนมซึ่งภายในบรรจุเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ไปมอบให้กับผู้พิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2551 ศาลฎีกาตัดสินลงโทษจำคุกนายพิชิตพร้อมทีมทนายอีก 2 คน เป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล และต่อมาสภาทนายความฯ มีมติเสียงข้างมาก 9 ต่อ 3 เสียง ให้ลงโทษหนักสุด ลบชื่อนายพิชิตออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความเป็นเวลา 5 ปี

บิ๊กทินแต่งตัวรอตั้งทีมกุนซือ

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ว่าที่ รมว.กลาโหม ได้เดินทางมายัง สลค. เพื่อส่งประวัติของตัวเอง ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้รู้แต่ว่าเป็นหนึ่งใน 35 ชื่อที่เป็นรัฐมนตรี ส่วนที่ได้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมหรือไม่นั้น ยังไม่มั่นใจ เป็นเพียงข่าว และวันนี้มายื่นไม่ได้ระบุตำแหน่ง

เมื่อถามว่า ถ้ามานั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม มีความพร้อมทำงานร่วมกับทหารหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า พร้อมทำงานทุกกระทรวง และตั้งใจดี มีร่างกายแข็งแรง สู้งานได้ ทำงานได้ทุกรูปแบบทุกบุคลิก

ถามว่านโยบายที่หาเสียงเกี่ยวกับกองทัพไว้ จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างไรนั้น นายสุทินระบุว่า จะทำทุกนโยบาย แต่จะได้ช้าหรือเร็วต้องดูความเป็นจริงและองค์ประกอบ  ทุกอย่างเรียนรู้ได้จากคนในกลาโหม และตั้งทีมงาน ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งใครเอาไว้ ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ และให้รู้ชัดเจนว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด แล้วค่อยหาทีมงาน แต่ยอมรับว่ามีอดีตทหารที่พูดคุยด้วย ซึ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกัน แต่ไม่ได้คุยอะไรมากมาย เพราะทุกคนก็ไม่มั่นใจ

 “นายทหารในพรรคที่จะมาเป็นที่ปรึกษาหรือทีมงาน ได้คุยกับหลายคนที่เคารพนับถือ เช่น พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต, พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก โดยเฉพาะ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหมก็สนิทกัน ก็คงได้คำแนะนำจากท่านเหล่านั้นเกี่ยวกับงานด้านทหารด้วย”

เมื่อถามว่า จะสามารถถอดสลักรัฐประหารดูแลกองทัพไม่ให้ทำเรื่องนี้ได้หรือไม่ นายสุทินระบุว่า เราไม่คิดเช่นนั้น และเชื่อว่าทุกคนไม่อยากทำ วันนี้ยังไม่มีใครคิด คนจะทำก็ยังไม่คิด และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จากนี้จนถึงอนาคต ไม่น่าจะมีแล้ว เราเดินผ่านจุดนั้นมาแล้ว

ถามถึงนโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่เคยหาเสียงไว้ จะปรับมาเป็นสมัครใจเป็นทหารหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เมื่อ ครม.ชุดใหม่ออกมาแล้วคงต้องมาคุยเรื่องนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง เพราะต้องฟังทุกๆ พรรค และปรับให้สอดคล้องกับกองทัพว่าทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็ต้องดูว่าเราจะต้องช่วยหน่วยปฏิบัติเติมเต็ม ประสาน อำนวยความสะดวก ยังไงอย่างไร ตอนนี้เป็นแค่นโยบายพรรค

"ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะได้เป็นจริงหรือไม่ แต่หากได้เป็นจริงก็ไม่แปลกหรอกอาจมีพลเรือนมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั่วโลกก็มี อาจจะเป็นมิติใหม่ของบ้านเมืองเราด้วย และได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ"

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกชินหรือยังที่ถูกเรียกบิ๊กทิน นายสุทินกล่าวว่า ยังตกใจอยู่เลย พร้อมกล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าเป็นนามสกุลก็ชนะแล้ว พร้อมย้ำว่าทุกวันนี้เดากันทั้งหมด ยังไม่ชัวร์

ด้านนายเกรียงกล่าวหลังยื่นเอกสารกับ สลค.ว่า พร้อมทำงานและขับเคลื่อนงานในด้านต่างๆ ตามนโยบายพรรค และภารกิจของกระทรวง ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะราชการทำงานมีระบบอยู่แล้ว

นางมนพรกล่าวว่า จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แล้วสานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลเดิม ส่วนโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมนั้น คงต้องรอนโยบายจาก รมว.คมนาคมก่อน

เจ๊แจ๋นแจงเหตุได้นั่ง รมต.

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด แกนนำพรรคเพื่อไทย พท. เดินทางมาเพื่อส่งประวัติและคุณสมบัติที่ สลค. ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงข่าวเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ทุกคนคงยังไม่ทราบว่าจะได้ตำแหน่งอะไร แต่จะทำเต็มที่ ส่วนสาเหตุที่อาจทำให้ได้รับตำแหน่งดังกล่าว เพราะเป็นคนที่ชอบทำงานเบื้องหลัง และสไตล์แม่บ้านนิดหน่อย พร้อมทำทุกอย่างที่เป็นเบื้องหลัง เป็นมือประสาน 10 ทิศด้วย เนื่องจากทำได้หมดทุกอย่าง

ส่วนกระแสข่าวความขัดแย้งเรื่อง การแบ่งตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีภายในพรรคเพื่อไทยขณะนี้จบแล้วใช่หรือไม่  นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ยังไม่จบดี แต่ก็คิดว่าจะจบภายในวันนี้ ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีบอกไว้

ขณะที่นายวราวุธกล่าวถึงการไปนั่ง รมว.การพัฒนาสังคมฯ โดยกล่าวติดตลกว่า พ.พานนั่นแหละ แต่ไม่รู้ พม. พณ. พง. หรือจะพอก่อน ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะ พ.อะไร คงต้องรอดูพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง แต่ก็อยู่ตรง พ.พานนี่แหละ ไม่ไปอักษรอื่น

เมื่อถามว่า หากต้องอยู่ พม. หนักใจหรือไม่ที่จะต้องเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ นายวราวุธกล่าวว่า ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์และดูตามความเหมาะสมอยู่แล้ว ตอนนี้ยังตอบอะไรมากไม่ได้ ต้องดูความชัดเจนก่อนว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ อย่างไร จึงค่อยมาคิดกันว่าจะดำเนินการอย่างไรกับงานที่เราได้รับมอบหมายให้ดูแล

เมื่อถามถึงการกรอกประวัติและคุณสมบัติเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ยังไม่ได้กรอกเอกสาร แต่ก็เตรียมประวัติที่เป็นอยู่ขณะนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะติดขัดอะไร

ก่อนหน้านี้ นายวราวุธยังให้สัมภาษณ์กรณีเสียดายหรือไม่ที่ไม่ได้สานต่องานกระทรวงเดิมว่า การทำงานทุกอย่างมีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มาเป็นรัฐมนตรีได้เราก็ออกจากรัฐมนตรีได้ สำคัญอยู่ที่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ทำงานในองค์กรได้มากน้อยเพียงใด ดูแลเจ้าหน้าที่ข้าราชการในสังกัดได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปก็จะได้ดีใจว่าเราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนภารกิจต่อไปที่จะต้องทำคงต้องรอความชัดเจนหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้วจึงเริ่มศึกษางาน

ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนคุณสมบัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ปรึกษาพรรค พปชร. สุ่มเสี่ยงขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกปลดออกจากตำแหน่งและภายหลังได้มีการยกเลิกคำสั่งปลดว่า เมื่อคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เพิกถอนคำสั่งปลดนานแล้ว ก็เท่ากับการปลดนั้นไม่เคยมี ส่วนจะขาดคุณสมบัติข้ออื่นหรือไม่นั้น ไม่ทราบ

นายวิษณุยังกล่าวว่า การบริหารราชการแผ่นดินมันไม่ยาก แต่การบริหารร่วมกันได้โดยไม่เกิดความขัดแย้งเป็นเรื่องยาก ซึ่งก็เชื่อและวางใจว่าภายใต้การนำของนายกฯ คนใหม่ เข้ามาด้วยความคิดตั้งแต่ต้นที่จะสลายขั้ว แล้วก็ก้าวข้ามความขัดแย้ง ถ้าตั้งใจแบบนี้ต่อไปก็จะทำงานได้ และทำให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ คือขยัน ซื่อสัตย์ อดทน ละเอียด รอบคอบ โปร่งใส อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้พูด แต่เป็นหน้าที่ของ ครม.ตามที่กำหนดไว้ ถ้าทำตามนี้ต่อไป มันก็ราบรื่น

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงกรณีพรรคนำคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค คงไม่ไปก้าวล่วง คงได้พิจารณากันแล้ว และก็รับได้ ไม่มีปัญหา และเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการประสานงาน และ สส.พรรคว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคที่คัดเลือกผู้เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด 4 คน ซึ่งได้ส่งรายชื่อไปให้กับทางแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

โดยนายพีระพันธุ์ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม,  นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่ง รมช.การคลัง ซึ่งเป็นโควตาคนนอก

‘โรม’ ชี้มีคำถามเป็นล้าน!

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ก.ก. กล่าวถึงความเห็นเรื่องโผ ครม.ว่า เข้าใจว่าโผ ครม.ยังไม่นิ่ง ต้องรอดูว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับตามตรง ว่าคงมีคำถามในใจเป็นล้านคำที่จะถามไปยังรัฐบาล และคงต้องรอดูวันแถลงนโยบายของรัฐบาล

 “มันก็ท้าทายความเชื่อ อย่างกรณีการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ซึ่งเราเข้าใจมาโดยตลอดว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวนโยบายที่สอดคล้องที่จะเข้าไปยกเลิก ทีนี้คุณเศรษฐาใช้คำพูดว่าพัฒนาร่วมกัน คำถามคือพัฒนาร่วมกันมันสร้างความแตกต่างอย่างไร คืออย่าใช้คำแค่ดูสวย ดูเท่ แต่มันต้องสร้างความกระจ่างให้ชัดเจนต่อสังคมด้วย” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ย้ำว่า วันนี้เขาก็ยอมรับกลายๆ ว่าเขาตระบัดสัตย์ เขาจับมือกับลุง คำถามก็คือว่านโยบายต่างๆ ต่อไปนี้จะมั่นใจได้อย่างไรว่ารัฐบาลนี้จะไม่มีการตระบัดสัตย์อีก ผิดคำพูดอีก คิดว่าความเป็นผู้นำ ความเป็นนายกฯ เข้ามาเป็นรัฐบาลถ้าคำพูดมันเชื่อถือไม่ได้ ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ไปจนถึงเรื่องเศรษฐกิจก็กระทบหมด

 “มองหน้าตารัฐบาลหลายคนก็คุ้นเคย หลายคนก็มีมลทินมัวหมอง บางคนมีประวัติเรื่องยาเสพติด แล้วตกลงรัฐบาลชุดนี้จะเอาอย่างไร ถ้าคนที่มีประวัติเรื่องยาเสพติดสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ แล้วที่เคยบอกว่าพรรคเพื่อไทยมายาเสพติดจะหมดไป มันจะหมดไปหรือเพิ่มขึ้น อย่าให้การตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องการตอบแทนบุญคุณ อย่าเอาผลประโยชน์ของประชาชนไปเป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนบุญคุณของเครือข่ายของตัวเอง ผมคิดว่าทำแบบนั้นไปผู้ที่ต้องจ่ายบุญคุณไม่ใช่เขา แต่สุดท้ายคือประชาชน” นายรังสิมันต์กล่าวตอบถึงโผ ครม. รวมถึงกรณีมีชื่อนายพิชิตมาร่วมเป็นรัฐมนตรี

วันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาที่พรรค ก.ก. ประกาศไม่รับตำแหน่ง และต้องตกไปเป็นของพรรคลำดับสองคือพรรค ปชป.ว่า โดยความชอบธรรมพรรคที่มีเสียงมากที่สุด 150 เสียงที่จะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน แต่กระบวนการจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูต่อไป เพราะขณะนี้ในส่วนของหัวหน้าพรรคของพรรค ก.ก.ยังมีปัญหาไม่จบ แม้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก จะประกาศไม่ลาออกจากจากตำแหน่งรองประธานคนที่หนึ่งนั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา และถึงแม้ลาออกก็ไม่เป็นปัญหา เพราะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.ที่ยังมีปัญหาอยู่

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลปฏิเสธตำแหน่งนี้แล้วตกมาถึงพรรค ปชป. จะพิจารณาอย่างไร นายชวน กล่าวว่า เมื่อเลือกหัวหน้าพรรคเต็มตัวแล้วพรรคก็คงพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถวิเคราะห์แทนได้ แต่ที่พูดนั้นในหลักของกฎหมาย ดังนั้นอย่าเพิ่งสมมุติว่าถ้า ก.ก.ไม่รับแล้วเราจะทำอย่างไร แต่หากเขาปฏิเสธไม่รับตำแหน่งดังกล่าว ก็เป็นพรรคอันดับต่อไป

 “ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์นี้ เพราะปกติตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านถือมีความสำคัญ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งโปรดเกล้าฯ และมีสถานภาพที่สำคัญ ฉะนั้นโดยทั่วไปพรรคการเมืองที่มี สส.อันดับหนึ่งในฝ่ายค้านจะรับตำแหน่งเอง แต่ที่ตอนนี้ยังไม่มี เพราะปัญหายังไม่จบ ก็เข้าใจได้ ดังนั้นตอนนี้รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะอยู่ในสถานภาพที่ยังไม่มีรัฐบาลเรียบร้อย” นายชวนกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โยนรบ.ปลดล็อกม.112 กมธ.นิรโทษฯชง3ข้อเสนอทะลุฟ้า/ก.ก.ย้ำสิทธิประกันตัว

"กลุ่มทะลุฟ้า" บุกทำเนียบฯ-รัฐสภา ร้องรัฐบาลตรวจสาเหตุ  "บุ้ง" เสียชีวิตให้โปร่งใส จี้คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง